เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับรถยนต์ระบบปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid) ยี่ห้อดังคันหนึ่งที่เกิดไฟไหม้หลังจากการชาร์จไฟจากปลั๊กไฟบ้านตามปกติในตอนกลางคืน เจ้าของรถซึ่งได้ซื้อรถมือหนึ่งมาใช้เป็นเวลานานถึง 4 ปี ระบุว่าไม่เคยมีปัญหาอะไรกับรถเลย จนกระทั่งเมื่อ 5 เดือนที่แล้วที่ระบบแจ้งเตือนให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ ซึ่งเขาก็ได้นำรถเข้าศูนย์เพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ไฮโวลท์ใหม่ ก่อนจะใช้งานต่อได้ปกติ จนกระทั่งเกิดเหตุไฟไหม้ในเช้าวันที่ 7 มกราคม
เหตุการณ์เริ่มต้นจากการที่เจ้าของรถถอดปลั๊กการชาร์จไฟออกจากรถตามปกติ ก่อนที่จะเห็นควันขาวพวยพุ่งจากใต้ท้องรถอย่างรวดเร็ว ซึ่งควันดังกล่าวเพิ่มปริมาณอย่างต่อเนื่องจนในที่สุดรถลุกไหม้ไปทั่วคัน เจ้าของรถรีบเปิดประตูและถอดปลั๊กชาร์จออก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายมากขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์คาดว่าเหตุการณ์นี้อาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร โดยมีความเป็นไปได้ว่าเกิดจากปัญหาที่ระบบไฟฟ้าภายในรถหรือจากอุปกรณ์บางอย่างที่เกิดการชำรุด ซึ่งก็อาจจะเกี่ยวข้องกับการใช้งานหรือสภาพแวดล้อมในช่วงเวลาที่ผ่านมาหรือการกัดของสัตว์เล็กๆ อย่างหนูที่อาจทำให้สายไฟเสียหาย นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำให้เจ้าของรถระมัดระวังในเรื่องการจอดรถ เช่น ควรหลีกเลี่ยงการจอดใกล้ขยะ ท่อระบายน้ำ หรือพื้นที่ที่มีหญ้าระหว่างการจอดรถ เนื่องจากสัตว์เล็กๆ อาจกัดสายไฟจนเกิดปัญหาขึ้นได้
จากเหตุการณ์นี้ เจ้าของรถยังไม่ทราบว่าใครจะต้องรับผิดชอบต่อเหตุไฟไหม้ดังกล่าว ระหว่างบริษัทประกันหรือเจ้าของบริษัทรถยนต์ ซึ่งอาจเป็นปัญหาที่ต้องหาคำตอบจากการตรวจสอบต่อไป ข้อควรระวังเพิ่มเติมที่ผู้เชี่ยวชาญยานยนต์ได้แนะนำคือ ควรหลีกเลี่ยงการใช้หรือติดตั้งอุปกรณ์เสริมที่อาจส่งผลเสียต่อระบบไฟฟ้าของรถ เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาที่รุนแรงขึ้น
ข้อแนะนำในการป้องกันเหตุการณ์ไฟไหม้จากรถยนต์ระบบปลั๊กอินไฮบริด
- หลีกเลี่ยงการจอดรถในพื้นที่เสี่ยง: ควรจอดรถให้ห่างจากขยะ ท่อระบายน้ำ หรือพื้นที่ที่มีหญ้ารวมถึงสัตว์เล็กๆ เพื่อป้องกันการกัดของสัตว์ที่อาจทำให้สายไฟเสียหาย
- ดูแลระบบไฟฟ้าในรถ: ควรตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในรถอย่างสม่ำเสมอ หากมีการแจ้งเตือนหรือพบปัญหาควรนำรถเข้าศูนย์บริการทันที
- หลีกเลี่ยงการติดตั้งอุปกรณ์เสริม: ควรระวังการติดตั้งอุปกรณ์เสริมที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ได้รับการรับรองจากผู้ผลิต เพราะอาจส่งผลเสียต่อระบบไฟฟ้าในรถ
เหตุการณ์นี้เป็นการเตือนให้เจ้าของรถยนต์ระบบปลั๊กอินไฮบริดทุกคนต้องให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาและตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในรถให้ดี เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต