หลายท่านคงมีพฤติกรรมในการใช้รถไม่ต่างจากผมเท่าใดนัก คือเมื่อเวลาขับรถไปไหนมาไหนแล้วไม่ว่าจะระยะทางใกล้หรือไกลก็ตามพอถึงที่หมายปั๊ป จอดปุ๊บก็ดับเครื่องเลยทันที ซึ่งจริงๆ แล้วการกระทำแบบนี้ถือว่าผิดหลักการบำรุงรักษารถยนต์แบบเต็มเปา แต่ที่เราทำเช่นนั้นก็เพราะสิ่งๆ เดียวนั่นก็คือ..ความเคยชิน?
จะว่าไปแล้ว ถ้าหากเราสามารถมองเห็นชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ขณะที่มันทำงาน เราจะเห็นว่าชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ทุกชิ้นต้องทำงานอย่างหนักหน่วง ยิ่งเราเร่งรอบเครื่องยนต์มากขึ้นเท่าไหร่ ชิ้นส่วนต่างๆ เหล่านั้นก็จะทำงานหนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เมื่อทำงานหนักก็ต้องเกิดความร้อนตามมา ถึงแม้ว่าเครื่องยนต์ทุกเครื่องจะมีระบบระบายความร้อนอยู่แล้วก็ตามทีแต่ก็คงขจัดความร้อนที่สะสมอยู่ในชิ้นส่วนต่างๆ ได้ไม่หมด
หลายๆ ท่านคงเคยได้ยินมาบ้างว่าเครื่องยนต์เทอร์โบควรติดตัวเทอร์โบไทมเมอร์ เพื่อช่วยเวลาดับเครื่องยนต์ เพราะตัว เทอร์โบไทมเมอร์ จะเป็นตัวควบคุมการดับเครื่องยนต์ โดยจะปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเบาตามเวลาที่เราตั้งไว้เมื่อครบกำหนดเวลาที่ตั้งไว้ก็จะดับเครื่องยนต์ให้โดยอัตโนมัติ
เพราะอย่างที่เราทราบๆ กันดีว่า เทอร์โบนั้นจะมีความร้อนสะสมอยู่สูงมาก เนื่องจากใช้ไอเสียมากเป็นตัวผลักดันเทอร์ไบน์ แม้ว่าเทอร์โบบางตัวจะมีการหล่อเย็นด้วยน้ำ แต่ยังมีความร้อนสะสมตัวอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
ยิ่งเวลาที่เราขับรถเดินทางไกลด้วยแล้ว มักจะใช้ความเร็วที่ค่อนข้างสูงและติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน เมื่อเราจอดรถโดยดับเครื่องยนต์อย่างทันทีทันใด ก็จะทำให้เกิดผลเสียหลายประการ ทั้งต่อเครื่องยนต์และตัวเทอร์โบ หากเราทำเช่นนี้บ่อยครั้งเข้า ก็จะทำให้ตัวเทอร์โบได้รับความเสียหายได้ เนื่องจากความร้อนที่สะสมตัวอยู่มากที่ตัวเทอร์โบ การติดเทอร์โบไทมเมอร์จึงเป็นการยืดอายุการใช้งานของตัวเทอร์โบนั่นเอง
ดังนั้นเพื่อการรักษาเครื่องยนต์ให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน เราควรจะต้องปรับพฤติกรรมการใช้รถซะใหม่นะครับ นั่นคือปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเบาวไสัก 1-3 นาที ก่อนจะดับเครื่อง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า เราได้ใช้งานติดต่อกันนานขนาดไหน ถ้าเป็นกรุงเทพฯก็ปล่อยให้เดินเบาไว้ 1 นาที ก็น่าจะพอหอมปากหอมคอกับช่วงเวลาที่เร่งรีบ แต่ถ้าเป็นการเดินทางไกลใช้ความเร็วค่อนข้างสูงติดต่อกัน ก็ควรจะปล่อยเดินเบาไว้อย่างน้อยสัก 2-3 นาที แค่นี้คงไม่มากเกินไปนะครับ