fbpx

เทียบสเปค Honda CR-V e:HEV ES เจอกับ Haval H6 Ultra ต่างกัน 2 แสน ใครให้ออปชั่นเยอะกว่ากัน

วันนี้เรานำรถไฮบริดเอสยูวี 2 รุ่นที่กำลังอยู่ในกระแสระหว่าง 2023 Haval H6 Ultra (หน้าใหม่ตัวท็อป)  เจอกับรถเอสยูวีขวัญใจมหาชนที่พึ่งเปิดตัวไปสดๆร้อนๆอย่าง Honda CR-V e:HEV รุ่นย่อย ES (รุ่นรองท็อป) มาดูกันว่าใครจะมีสเปค ออปชั่น ที่น่าใช้มากกว่ากัน

ขนาดมิติตัวถัง

เริ่มกันที่ขนาดตัวถัง ความกว้าง ความยาว และความสูงของรถทั้ง 2 รุ่นนี้กันก่อนครับ

 

Honda CR-V e:HEV ES

Haval H6 Ultra (MY2023)

ความยาว

4,691 มิลลิเมตร

4,653 มิลลิเมตร

ความกว้าง

1,866 มิลลิเมตร

1,886 มิลลิเมตร

ความสูง

1,681 มิลลิเมตร

1,724 มิลลิเมตร

ระยะฐานล้อ

2,700 มิลลิเมตร

2,738 มิลลิเมตร

ความสูงใต้ท้องรถ (Ground Clearance)

198 มิลลิเมตร

175 มิลลิเมตร

น้ำหนัก

1,743 กิโลกรัม

1,690 กิโลกรัม

หากเปรียบเทียบระหว่างรถทั้ง 2 คันจะพบว่า Honda CR-V มีความยาวที่มากกว่า H6 อยู่ถึง 3.8 เซนติเมตร แต่แคบกว่า 2 เซนติเมตร และเตี้ยกว่า 4.3 เซนติเมตร แต่มีความสูงใต้ท้องรถ (Ground Clearance) ที่มากกว่าถึง 2.3 เซนติเมตร และมีน้ำหนักตัวที่มากกว่าเล็กน้อยที่ 53 กิโลกรัม

เครื่องยนต์ – ระบบไฮบริด

มาต่อกันที่ขุมพลังของรถทั้ง 2 คัน ที่จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินพร้อมด้วยระบบไฮบริดเหมือนกันทั้ง 2 คัน ซึ่งแต่ละคันจะมีสเปคดังต่อไปนี้

  • Honda CR-V e:HEV ES – เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียงขนาดความจุ 2.0 ลิตร ทำงานควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พร้อมด้วยแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ขนาด 1.06 kWh ให้กำลังแรงม้ารวมสูงสุดที่ 207 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT สู่ล้อคู่หน้า
  • Haval H6 Ultra (MY2023) – เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียงขนาดความจุ 1.5 ลิตร พร้อมด้วยระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จ ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent magnet synchronous พร้อมด้วยแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ขนาด 1.6 kWh ให้พละกำลังรวมสูงสุดที่ 243 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 530 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ DHT สู่ล้อคู่หน้า

หากเปรียบเทียบกันด้านสมรรถนะของเครื่องยนต์ระหว่างรถทั้ง 2 คันดูเหมือนว่าฝั่ง Haval H6 จะเป็นฝ่ายได้เปรียบอยู่พอสมควร เนื่องจากมีกำลังแรงม้าสูงสุดที่มากกว่าถึง 36 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดมากกว่าถึง 195 นิวตัน-เมตร ซึ่งน่าจะมีผลมาจากระบบเทอร์โบชาร์จน่าจะช่วยในเรื่องของแรงม้าและแรงบิดได้มากพอสมควร

 

ออปชั่นความปลอดภัย

เรามาต่อกันที่ “ออปชั่นและความปลอดภัย” ของรถทั้งสองคันนี้ ที่ต้องบอกเลยว่ามีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร

ออปชั่นความปลอดภัยของ Haval H6 Ultra (MY2023)
  • ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ 3 รูปแบบ (IIP)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA), ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) และระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)
  • กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) และ ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
  • ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ (LSEB) และ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI)
  • ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD)
  • ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง (RCW)
ออปชั่นความปลอดภัยของ Honda CR-V e:HEV ES
  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKAS)
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (RDM with LDW)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (ACC with LSF)
  • ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (LCDN)
  • ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา (MVCS)
  • ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)

หากเปรียบเทียบกันระหว่างรถทั้ง 2 คันจะพบว่า ออปชั่นความปลอดภัยที่ให้มีนั้นคล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control, ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา แต่ทางฝั่ง Haval H6 จะได้เปรียบตรงฟังก์ชั่นช่วยถอยจอดอัจฉริยะ 3 รูปแบบ (IIP) รวมถึงระบบช่วยเตือนเมื่อเข้าใกล้รถใหญ่ ในขณะที่ทางฝั่ง Honda จะได้เปรียบตรงระบบ Honda LaneWatch ซึ่งจะแสดงภาพในมุมอับสายตาในขณะที่เปลี่ยนเลนโดยอัตโนมัติ

 

ราคา การรับประกัน และสิทธิประโยชน์

ปิดท้ายกันที่ราคาและการรับประกันของรถทั้ง 2 รุ่น ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

Honda CR-V e:HEV ES – ราคา 1,589,000 บาท
  • รับประกันตัวรถ (Warranty) 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
  • ฟรี ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ ขยายเวลารับประกันคุณภาพตัวรถอีก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร 
  • รับประกันแบตเตอรีไฮบริด เป็นระยะเวลา 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ( Roadside Assistance ) ฟรี 3 ปี
  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะตามตารางการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
  • ฟรี ประกันภัยชั้น 1 
Haval H6 Ultra (MY2023) – ราคา 1,349,000 บาท
  • รับประกันตัวรถ (Warranty) 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
  • รับประกันแบตเตอรีไฮบริด เป็นระยะเวลา 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ( Roadside Assistance ) ตลอด 24 ชั่วโมง ฟรี 5 ปี มูลค่า 10,000 บาท
  • ฟรี ค่าอะไหล่และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง สูงสุด 10 ครั้ง ภายใน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน (ไม่รวมอะไหล่สิ้นเปลือง)
  • ฟรี ประกันภัยชั้น 1 

หากเปรียบเทียบระหว่างรถทั้ง 2 คันจะพบว่า Honda CR-V จะได้เปรียบตรงการรับประกันแบตเตอรี่ยาวนานกว่า 2 ปี และยังได้สิทธิประโยชน์ฟรีค่าแรงเช็กระยะตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (Haval ได้ฟรีค่าแรงแค่ 10 ครั้ง) รวมถึงยังได้การขยายการรับประกัน ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ เพิ่มอีก 2 ปี ในขณะที่ทาง Haval H6 จะได้เปรียบตรงระยะเวลาการรับประกันตัวรถที่ยาวนานกว่า (หากไม่นับรวม ฮอนด้า อัลติเมท แคร์) รวมถึงบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี (ฝั่ง CR-V ได้ 3 ปี)

สำหรับท่านที่สนใจรถไฟฟ้าทั้ง 2 รุ่นนี้ สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยรายละเอียดต่างๆอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตามนโยบายของแต่ละบริษัทครับ

รับชมข่าวสารยานยนต์อื่นๆที่น่าสนใจ คลิกที่นี่

รับชมคลิปวีดีโอทดสอบรถของเรา คลิกที่นี

บทความที่น่าสนใจ

สายซิ่ง คิดดีหรือยังก่อนจะติดตั้งเทอร์โบ สำรวจ ข้อดี-ข้อเสีย ให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ

idiot

Ford ยื่นจดสิทธิบัตรสิ่งที่จะช่วยให้เจ้าของ Ford Bronco ยืนขับรถได้

Peng

เลือกน้ำมันเครื่องที่ใช่ ไม่ใช่เรื่องยาก

idiot

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy