Porsche กำลังวางแผนที่จะจัดตั้งสถานีชาร์จไฟกำลังสูงของตนเองตามเส้นทางที่สำคัญในยุโรป พร้อมมอบประสบการณ์การชาร์จไฟระดับพรีเมียมที่แบรนด์ตั้งมาตรฐานไว้ สถานีพื้นที่นำร่อง Porsche Charging Lounge แห่งแรกก็ได้เปิดให้บริการแล้วที่ Bingen am Rhein ประเทศเยอรมนี
เพียง 2 นาทีจากแยกมอเตอร์เวย์ A60/A61 จะมีศูนย์บริการสถานีชาร์จไฟกำลังสูง DC ขนาด 300 กิโลวัตต์ 6 จุดบริการ และจุดชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับขนาด 22 กิโลวัตต์อีก 4 จุด ในขณะเดียวกันนี้ ยังได้มีการวางแผนเพิ่มศูนย์บริการรับรองการชาร์จไฟของ Porsche ในประเทศเยอรมนี ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์อีกด้วย
สถานีชาร์จไฟนี้ตั้งอยู่ใกล้กับเส้นทางที่พลุกพล่านและมีการจราจรที่หนาแน่น พร้อมเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน เป็นสถานีที่มีประสิทธิภาพสำหรับการชาร์จไฟกำลังสูง แวดล้อมด้วยบรรยากาศที่ผ่อนคลาย และสะดวกในการชำระเงิน Porsche Charging Lounges ใหม่นี้ได้รับการปรับให้เหมาะกับความต้องการของผู้ขับขี่รถยนต์ Porsche ในการเดินทางไกล รถพลังงานไฟฟ้าและปลั๊ก-อิน ไฮบริดทุกรุ่นจาก Porsche สามารถใช้บริการเครื่องชาร์จอันทรงพลังที่ผลิตโดย Alpitronic ผู้เชี่ยวชาญด้านอิเล็กทรอนิกส์ของ South Tyrolean ปัจจุบันประสิทธิภาพของสถานีชาร์จไฟกำลังสูงอยู่ที่ 300 กิโลวัตต์ แต่ได้มีการเตรียมวางแผนเพื่ออัปเกรดให้มีความเร็วในการชาร์จที่สูงขึ้นภายในต้นปีหน้าเป็น 400 กิโลวัตต์ต่อจุดชาร์จ กระบวนการชาร์จไฟกำลังสูงนี้ใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่ผ่านการรับรอง
สถานีนำร่องในบิงเงิน (Bingen) นี้มีการออกแบบที่แสดงตัวอย่างว่าสถานีจะมีลักษณะอย่างไรในอนาคต หลังคาเพรียวบางที่ดูเหมือนลอยได้เชื่อมต่อจุดชาร์จเข้ากับตัวอาคาร เลานจ์ที่เสริมด้วยกระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างภายในและภายนอกรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน สีสันที่สดใสและไม้สีอ่อนให้บรรยากาศที่ส่งเสริมความรู้สึกดีและผ่อนคลาย
Porsche Charging Lounge แห่งแรกของโลกนี้ มีระบบทำความร้อนและปรับอากาศด้วยปั๊มความร้อนซึ่งทำงานโดยไม่ใช้เชื้อเพลิง ไฟฟ้าส่วนหนึ่งมาจากระบบโซลาร์เซลล์บนหลังคา การจัดการอาคารแบบดิจิทัลช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เช่น การหรี่แสงอัตโนมัติเมื่อไม่มีผู้มาเยือน
นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยในบริเวณเลานจ์ ตลอดจนเครื่องดื่มและของว่างมากมาย โดยขั้นตอนการชำระเงินสามารถทำได้หลายช่องทางไม่ว่าจะเป็นบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต รวมถึง Apple Pay หรือ Google Pay รวมถึงสื่อต่างๆ และสื่อดิจิตอล พร้อมด้วยเครือข่ายอินเตอร์เน็ต WiFi ประสิทธิภาพสูง มากกว่านั้นยังมีพื้นที่สำหรับออกกำลังกาย พร้อมด้วยอุปกรณ์กระจกอัจฉริยะ (smart mirror) ที่เป็นการแสดงผลแบบอินเตอร์แอคทีฟ เพื่อให้คนขับรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ฟิตพร้อมสำหรับการเดินทางสู่เส้นทางข้างหน้า
Porsche Charging Lounges ห้องรับรองขณะชาร์จไฟของรถ Porsche ได้ถูกใส่รวมอยู่ในหมวดสถานีชาร์จและจะแสดงอยู่ในระบบนำทางของรถ Porsche การชำระเงินค่าบริการส่วนกลางควบคุมดำเนินการโดย Porsche ต้องขอบคุณ Porsche Charging Service เพราะการชาร์จไฟนี้จึงมีราคาเพียง 33 เซนต์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งเป็นราคาพอๆ กับสถานีชาร์จไฟกำลังสูงอื่นๆ ในเครือข่ายของ Porsche การใช้บริการนี้ต้องใช้รหัสประจำตัวของรถ (Porsche ID) เพื่อเข้าถึงสถานีชาร์จและบริเวณเลานจ์ ID นี้ต้องเชื่อมโยงกับรถอย่างถูกต้อง หากเลขทะเบียนถูกบันทึกไว้ใน Porsche ID แล้ว ไม้กั้นจะเปิดให้คุณทันที ด้วยระบบจดจำป้ายทะเบียนอัตโนมัติ การบันทึกหมายเลขทะเบียนรถสามารถทำได้อย่างสะดวกในแอป MyPorsche หรืออีกทางหนึ่ง ลูกค้าสามารถใช้ Porsche Charging Card หรือรหัส QR จากแอป MyPorsche เพื่อเข้าถึงทั้งจุดแท่นชาร์จและห้องรับรอง
Alexander Pollich ประธานคณะกรรมการบริหารของ Porsche Deutschland GmbH กล่าวว่า “ด้วย Porsche Charging Lounge เรากำลังสร้างจุดสัมผัสที่สำคัญอีกจุดหนึ่งตลอดการเดินทางของลูกค้า และแสดงให้เห็นว่าลูกค้าของ Porsche สามารถชาร์จไฟได้สะดวกเพียงใด เราหวังว่าจะได้รับข้อเสนอแนะหรือความคิดเห็นครั้งแรกจากลูกค้าเมื่อได้มีประสบการณ์กับการบริการรูปแบบใหม่นี้”