บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ยกทัพรถมอเตอร์ไซค์หลากรุ่น นำโดยสองรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล GS พร้อมสกู๊ตเตอร์รุ่นล่าสุดสร้างสีสันในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม พ.ศ. 2561
หลังจากที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มอเตอร์ไซค์สายลุยสไตล์เอ็นดูโร่สองรุ่นล่าสุดอย่าง BMW F 750 GS และ BMW F 850 GS ก็พร้อมที่จะสานต่อเอกลักษณ์อันโดดเด่นของตระกูล F-Series ด้วยสมรรถนะเต็มเปี่ยมทั้งในแบบออนโรดและออฟโรด ขณะที่ BMW C 400 X สมาชิกใหม่ในตระกูล Urban Mobility มาพร้อมฟังก์ชันมากมายเพื่อความสะดวกสบาย และสนุกสนานขณะขับขี่ในตัวเมือง
เริ่มจาก BMW F 750 GS ใหม่ สมาชิกล่าสุดในตระกูล GS ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อสิงห์นักบิดขาลุยผู้หลงใหลในจิตวิญญาณและรูปลักษณ์ของมอเตอร์ไซค์เอ็นดูโร่ มาพร้อมที่นั่งที่ได้รับการออกแบบให้มีตำแหน่งต่ำลง ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์สองสูบแถวเรียงขนาด 853 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 77 แรงม้า ที่ 7,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 83 นิวตันเมตร ที่ 6,000 รอบต่อนาที สั่งจ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรฐาน EU4 และได้รับการพัฒนาให้ลดแรงสั่นสะเทือนด้วยเพลาคู่พร้อมระบบ counterbalance ทำงานคู่กับเกียร์ 6 สปีดที่อยู่ด้านซ้ายมือของผู้ขับขี่
BMW F 750 GS ใหม่ มาในโครงสร้างเฟรมเหล็กกล้าแบบ monocoque เพื่อความแข็งแกร่งในการต้านทานแรงบิดและการขับขี่ที่แม่นยำยิ่งขึ้น ระบบกันสะเทือนล้อหน้าและล้อหลังสามารถตอบสนองได้อย่างฉับไว ด้วยโช้คแบบเทเลสโคปิก และสวิงอาร์มคู่อะลูมิเนียมพร้อม Central Spring strut พร้อมปรับตั้งค่าความหนืดและการยุบตัวของสปริงได้ด้วยระบบไฮดรอลิค อีกทั้งยังสามารถขับขี่ได้อย่างสนุกสนานด้วยโหมดการขับขี่ ‘Rain’ และ ‘Road’ ปลอดภัยทุกการเข้าโค้งด้วยระบบเบรก ABS มาตรฐานของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และระบบ ASC (Automatic Stability Control)
สำหรับรุ่น Exclusive style ยังมาพร้อม Riding Modes Pro, Dynamic Traction Control (DTC), Dynamic ESA และ ABS Pro
เส้นสายในการดีไซน์ของ F 750 GS ใหม่ ตอกย้ำถึงความปราดเปรียวและความแข็งแกร่งของตระกูล GS มาพร้อมไฟหน้า LED แบบใหม่สะดุดตา ล้ออะลูมิเนียมขนาด 19 นิ้ว และ 17 นิ้ว โดยมาให้เลือกสรรใน 2 สี คือ Austin Yellow Metallic และ Stereo Metallic Matt (Exclusive Style)
ถัดมาเป็น BMW F 850 GS ใหม่ รถมอเตอร์ไซค์ที่ผสานเอกลักษณ์ของทัวริ่งเข้ากับสมรรถนะออฟโรดไว้ได้อย่างลงตัว มาพร้อมพละกำลังของเครื่องยนต์สองสูบแถวเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาด 853 ซีซี เช่นเดียวกับ F 750 GS แต่ทรงพลังกว่าด้วยกำลัง 95 แรงม้า ที่ 8,250 รอบต่อนาที แรงบิด 92 นิวตันเมตรที่ 6,250 รอบต่อนาที พร้อมระบบควบคุมไอเสียแบบ Closed-Loop ชนิด 3 ทาง Catalytic Converter ตามมาตรฐาน EU4 เฟรมโครงสร้างได้รับการพัฒนาให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เสริมประสิทธิภาพของระบบกันสะเทือนด้วยโช้คหัวกลับและสวิงอาร์มคู่อะลูมิเนียม พร้อมโหมดการขับขี่มาตรฐาน ‘Rain’ และ ‘Road’
สำหรับรุ่น Exclusive Style มาพร้อม Riding Modes Pro ที่เพิ่มโหมดการขับขี่ ‘Dynamic’, ‘Enduro’ และ ‘Enduro Pro’ พร้อมเทคโนโลยีทันสมัย อาทิ Dynamic ESA, Dynamic Traction Control (DTC), Keyless Ride และ ABS Pro
BMW F 850 GS ใหม่ ยังมีดีไซน์ใหม่ที่เสริมเส้นสายความดุดัน รวมทั้งไฟหน้า LED แบบใหม่ พร้อมลุยบนพื้นผิวออฟโรดด้วยล้อซี่ลวดขนาด 21 นิ้วและ 17 นิ้ว โดยบีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS มาให้เลือกในสี Light White Uni (Rallye Style) และ Pollux Metallic Matt (Exclusive Style)
และ BMW C 400 X ใหม่ รถสกู๊ตเตอร์ระดับพรีเมียมที่ผสมผสานเสน่ห์และความคล่องตัว เพื่อมอบทั้งความสะดวกสบายในการฟันฝ่าการจราจรในเมือง ด้วยเครื่องยนต์หนึ่งสูบที่พัฒนาขึ้นเพื่อความประหยัดน้ำมันโดยเฉพาะ มอบพละกำลังสูงสุด 34 แรงม้า ลงสู่ล้อหลังด้วยระบบเกียร์ CVT และสวิงอาร์มที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงสั่นสะเทือนและมอบความนุ่มสบายในขณะขับขี่ ส่วนระบบ Automatic Stability Control (ASC) ก็ช่วยให้ตัวรถมั่นคง ปลอดภัยขณะเร่งความเร็ว แม้บนพื้นถนนที่เปียกและลื่น
เฟรมเหล็กกล้าอันแข็งแกร่งของ C 400 X ใหม่ ติดตั้งอยู่บนระบบช่วงล่างที่มีโช้คหน้าแบบเทเลสโคปิกและโช้คหลังแบบสปริงสตรัทคู่ ซึ่งได้รับการปรับแต่งมาให้ครบเครื่องทั้งความสนุกและความสบายในยามขับขี่ ส่วนดิสก์เบรกคู่ที่ล้อหน้า ดิสก์เบรกเดี่ยวที่ล้อหลัง พร้อมระบบ ABS ก็มอบความปลอดภัยด้วยแรงเบรกแบบเต็มประสิทธิภาพ
ด้านดีไซน์ถูกออกแบบให้มีความล้ำสมัยในแบบของมอเตอร์ไซค์ตระกูล Urban Mobility และผสมผสานทั้งความสวยงามและประโยชน์ใช้สอยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดดเด่นจากด้านหน้าด้วยไฟ LED ในรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ และแผงกันลมในขนาดที่พอดี เข้ากับตัวถังที่มีให้เลือกในสี Zenith Blue metallic และ Alpine White ส่วนช่องเก็บของแบ่งพื้นที่ภายในเป็นสองส่วนเพื่อความสะดวกสบายและเป็นระเบียบ พร้อมด้วยช่องเก็บหมวกกันน็อก Flexcase ที่พับเก็บอยู่ใต้เบาะแบบตอนเดียว ทำให้ C 400 X ใหม่ ตอบได้ทุกโจทย์ในชีวิตประจำวัน และยังพร้อมรับมือกับการเดินทางไกลได้อีกด้วย
C 400 X มาพร้อม Connectivity ด้วยหน้าจอ TFT Screen ขนาด 6.5 นิ้ว พร้อม BMW ConnectedRide ที่สามารถเชื่อมต่อและแสดงข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟนและหมวกกันน็อกผ่านบลูทูธได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย
พิเศษสุดสำหรับรุ่น Limited Edition ที่มีจำกัดเพียง 26 คันเท่านั้น มาพร้อมอุปกรณ์เสริมพิเศษ ได้แก่ Keyless Ride, ไฟส่องสว่างตอนกลางวัน Daytime Riding Lights, ระบบทำความอุ่นที่นั่ง Heated Seat และระบบทำความอุ่นมือจับ Heated Grip