“BMF 2020” (แบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล ครั้งที่ 12) จัดใหญ่ ค่ายมอเตอร์ไซค์ 15 แบรนด์-อุปกรณ์ตกแต่ง-คอลเลคชั่น ขานรับ ผู้จัดมั่นใจแม้เศรษฐกิจจะซบเซา แต่ไม่ส่งผลกระทบ คาดยอดจองบิ๊กไบค์และมอเตอร์ไซค์พรีเมี่ยมแตะกว่า 500 คัน เงินสะพัด 600 ล้านบาท มีผู้เข้าชมงานกว่า 7 แสนคน เริ่ม 15 – 19 มกราคม นี้ ณ บริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ (ราชประสงค์) ชมฟรี! ตลอดงาน
งาน “แบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล ครั้งที่ 12” (Bangkok Motorbike Festival 2020 หรือ BMF 2020) จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “Culture of Ride” ที่จะพาคนรักมอเตอร์ไซค์มาร่วมกันค้นหาจุดกำเนิดของวัฒนธรรมการขับขี่ และพัฒนาวงการมอเตอร์ไซค์ของเมืองไทยจากอดีตมาถึงปัจจุบัน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก ศูนย์การค้า Central World, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ และภาคธุรกิจต่างๆ
โดยทุ่มงบกว่า 15 ล้านบาท เพื่อสร้างสรรค์บรรยากาศเทศกาลที่เหล่าไบค์เกอร์ทุกคนรอคอย ใช้พื้นที่ทั้งภายในและลานกิจกรรมหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ (ราชประสงค์) กว่า 10,000 ตารางเมตร ทั้งนี้ พื้นที่ลานกิจกรรมด้านหน้าศูนย์การค้าฯ ถูกแบ่งออกเป็น 4 โซน (กว่า 2,000 ตารางเมตร) ประกอบด้วย Moto Villa, Bangkok Custom Bike Competition, Moto Market และ Moto Garden
Moto Villa : บริเวณ Square A มีพื้นที่กว่า 500 ตารางเมตร
- จุดจอดมอเตอร์ไซค์กว่า 500 คัน
- กิจกรรมไฮไลท์จากคลับต่างๆ อาทิ กิจกรรม Japanese Retro จากกลุ่ม Old Timer Suite พบกับมอเตอร์ไซค์ญี่ปุ่นในยุคปี 1980-1990
- พบกับช่างซ่อมและช่างทำมอเตอร์ไซค์ฝีมือคุณภาพจากทั่วฟ้าเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็น ช่างตีท่อไอเสีย, ช่างทำเบาะ, ช่างทำถังน้ำมัน ฯลฯ นำเสนอโดยกลุ่ม Bangkok Custom Builders เพื่อแลกเปลี่ยนทัศนคติและความรู้ในการสร้างสรรค์ผลงาน
- สัมผัส Motorcycle Performance มอเตอร์ไซค์สายพันธุ์แรง ซึ่งถูกติดตั้งเทอร์โบหรือติดตั้งซูเปอร์ชาร์จ เพื่อนำไปใช้ลงแข่งขันในสนามแข่งโดยเฉพาะ พร้อมทั้งพบปะพูดคุยกับช่างตัวจริง เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้หรือต่อยอดการทำธุรกิจ
Bangkok Custom Bike Competition : บริเวณ Square B พื้นที่กว่า 500 ตารางเมตร
- พบกับกิจกรรมไฮไลท์ “Bangkok Custom Bike Competition ครั้งที่ 3” การประกวดมอเตอร์ไซค์ตกแต่ง 10 คลาส จำนวน 46 คันที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และกูรูมอเตอร์ไซค์ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น, อเมริกา, ออสเตรเลีย และไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้คัดเลือกและจะมาร่วมตัดสินหาผู้ชนะเลิศ
- พบกับกิจกรรมที่น่าสนใจตลอดการจัดงาน 5 วัน (15-19 มกราคม 2563) อาทิ ทอล์กโชว์จากกูรู มอเตอร์ไซค์, กิจกรรมพิเศษจากสนามไทยแลนด์เซอร์กิต, การเปิดตัวมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ เป็นต้น
Moto Market : บริเวณ Square C พื้นที่กว่า 800 ตารางเมตร
- พบกับบู๊ธจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่จะมามอบโปรโมชั่นพิเศษแบบล้างสต๊อกสินค้าภายในงานกว่า 60 บู๊ธ อาทิ น้ำมันเครื่อง, เครื่องมือช่าง, อุปกรณ์ตกแต่งมอเตอร์ไซค์ และคอลเลคชั่นเครื่องแต่งกาย ฯลฯ
Moto Garden : บริเวณ Square D พื้นที่ 600 ตารางเมตร ภายใต้บรรยากาศย้อนยุคสไตล์ Vintage
- นั่งชิลเดินช็อปภายใต้บรรยากาศวินเทจ พร้อมอิ่มอร่อยกับอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายเมนู
สำหรับพื้นที่จัดงานภายในศูนย์การค้าฯ (8,000 ตารางเมตร) บริเวณชั้น 1 และชั้น 2 จะเป็นการออกบู๊ธของค่ายมอเตอร์ไซค์ 15 แบรนด์ ประกอบด้วย AJ, BMW, Cub House by Honda, ETRAN, Edison Motors, Ducati, Harley-Davidson, Indian, Kawasaki, MV Agusta, Royal Enfield, Triumph, Victory, Yamaha และ Zero Engineering รวมถึงร้านจำหน่ายอะไหล่ อุปกรณ์ตกแต่ง เครื่องแต่งกาย
ในปีนี้ยังมีผู้ประกอบการชิ้นส่วนอะไหล่มอเตอร์ไซค์รายใหญ่จากไต้หวัน เช่น ระบบเบรก หมวกกันน็อค เครื่องมือช่าง มาออกบู๊ธบริเวณชั้น 2 เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์และมาหาพันธมิตรทางธุรกิจ และเพื่อตอบเทรนด์มอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้าที่เข้ามามีบทบาทในเมืองไทย โดยจัดการประกวด “Custom Bike มอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้า” เช่น ออกแบบเฟรมตัวถัง การดัดแปลงมอเตอร์ไซค์ที่ใช้เครื่องยนต์ให้มาเป็นมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้า
ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จะมานำเสนอระบบชาร์จแบตเตอรี่ และแอพพลิเคชั่นที่คิดค้นเพื่อใช้ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้า นอกจากนี้ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ได้จัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับยานยนต์พลังงานไฟฟ้าอีกด้วย
นายณัฐพล ไตรณัฐี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซเคิล คัลเจอร์ โชว์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “สถิติยอดจดทะเบียนมอเตอร์ไซค์กลุ่มบิ๊กไบค์ 11 เดือน (มค.-พย. 2562) ทำได้ที่ 29,500 คัน และก่อนจะหยุดเทศกาลปีใหม่ตัวเลขขายเพิ่มขึ้นกว่า 31,100 คัน ซึ่งใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของค่ายผู้ผลิตที่ประเมินสถานการณ์เอาไว้ แต่จากการพูดคุยกับผู้บริหารค่ายมอเตอร์ไซค์ 2-3 ท่าน บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า แม้ยอดขายปี 2562 จะเป็นไปตามเป้าหมาย แต่ต้องออกแรงอัดกลยุทธ์ส่งเสริมการขายอย่างเต็มที่ และเจรจากับไฟแนนซ์เพื่อลดเงื่อนไขให้ปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าง่ายขึ้น และต้องใช้กลยุทธ์นี้ต่อเนื่องข้ามมาถึงไตรมาสแรกปี 2563 เพื่อรอดูปัจจัยและสถานการณ์สักระยะ ขณะที่อัตราการจัดเก็บภาษีตามการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลกระทบกับบิ๊กไบค์ที่มีขนาดเกิน 1,000 ซี.ซี. ที่ต้องจ่ายภาษีเพิ่มคันละ 100,000 บาท ส่วนกลุ่มที่มี ซีซี. ต่ำลงมา จะเสียภาษีเพิ่มเติมไม่มากนัก ดังนั้นมั่นใจว่า ยอดจองมอเตอร์ไซค์ภายในงานจะทำได้กว่า 500 คัน มีผู้เข้าชมงานกว่า 7 แสนคน เม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 600 ล้านบาท โดยรวมยอดขายอุปกรณ์ตกแต่ง คอลเลคชั่นแต่งกาย และสินค้าบริการต่างๆ ไว้ด้วย”
ขณะที่กิจกรรมต่างๆ ภายในงาน ปีนี้เพิ่มความเข้มข้นมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ขับขี่ และในทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้นภายในงาน ไม่ว่าจะเป็น การพบปะช่างทำมอเตอร์ไซค์ฝีมือคุณภาพจากทั่วฟ้าเมืองไทย หรือการประกวด Bangkok Custom Bike Competition กับมอเตอร์ไซค์ตกแต่ง 46 คันที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ เจ้าของรถแต่งสามารถโชว์ไอเดียและธุรกิจตนเองได้อย่างเต็มที่ โดยเรามุ่งหวังให้เกิดการต่อยอดทางธุรกิจ Business to Business (B2B), Business to Government (B2G) หรือร้านกับผู้สนใจทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ คาดว่าน่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในส่วนนี้ไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท” นายณัฐพล ไตรณัฐี กล่าวในท้ายสุด