เมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับ Toyota Motor Corporation เมื่อ Akio Toyoda ทายาทรุ่นที่ 3 ซึ่งดำรงตำแหน่ง CEO มาตั้งแต่ปี 2009 ได้ก้าวลงจากตำแหน่ง และพลักดันให้ Koji Sato ผู้บริหารรุ่นใหม่ฝีมือดีที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งแทน โดยจะมีผลในวันที่ 1 เมษายนที่จะถึงนี้
โดยการมาถึงของ CEO คนใหม่ หลายๆคนต่างคาดหวังว่าเขาจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบัน Toyota มีรถยนต์ไฟฟ้า EV ขายอยู่เพียงรุ่นเดียวได้แก่ bZ4x และดูเหมือนว่ามันจะยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกเพราะ Toyota เป็นตัวละครสำคัญในการพลักดันรถยนต์พลังงานทางเลือก (Hybrid) อย่าง Toyota Prius ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
แต่ดูเหมือนว่าทางโตโยต้าจะยังคงมีคำถามเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า เพราะล่าสุดพวกเขาได้ออกมาแถลงข่าวเกี่ยวกับนโยบาย EV-Only หรือนโยบายที่ต้องการเปลี่ยนรถยนต์ทุกคันในโลกให้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด ว่าการกระทำเหล่านี้เป็นสิ่งที่เลวร้ายสำหรับโลกของเรา โดย Gill Pratt หัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ของบริษัทกล่าวว่า จะเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลมากกว่าที่บริษัทรถยนต์จะนำเสนอรถยนต์ที่ใช้แหล่งพลังงานต่างๆ รวมถึงรถไฮบริดและไฮโดรเจน มากกว่ามุ่งเน้นไปที่การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว
โดย Pratt มองว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนลิเธียมในไม่ช้า รวมถึงแร่ธาตุอื่นๆ ที่ใช้ในการผลิตแบตเตอรี่ และจุดชาร์จไฟฟ้ายังเป็นปัญหาที่สำคัญเนื่องจากจำนวนของรถ EV เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้อาจเกิดปัญหาเมื่อต้องใช้สถานีชาร์จ นอกจากนี้ Pratt ยังได้กล่าวอีกว่ารถไฮบริดในจำนวนมากนั้นจะปล่อย CO2 น้อยกว่าการใช้ลิเธียมในปริมาณที่เท่ากันเพื่อสร้างรถ EV ในจำนวนที่น้อยกว่า และรถที่เหลือยังคงเป็นรถยนต์สันดาปแบบปกติ
โดย Gill Pratt ได้ลองยกตัวอย่าง รถยนต์สันดาป 100 คัน ซึ่งจะปล่อย CO2 เฉลี่ยที่ราวๆ 250 กรัม/กิโลเมตร และถ้าหากนำแบตเตอรี่ปริมาณ 100 kWh ไปใช้ทำแบตเตอรี่ของรถ Tesla รุ่น Long Range จะได้รถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ปล่อยมลพิษเลย 1 คัน ซึ่งอีก 99 คันที่เหลือยังคงเป็นรถน้ำมันแบบดั่งเดิม จะพบว่าหากนำรถ 100 คัน (รถไฟฟ้า 1 คัน รถน้ำมัน 99 คัน) วิ่งไปบนถนน จะมีอัตราการปล่อย CO2 อยู่ที่ 247.5 กรัม/กิโลเมตร
แต่ถ้าหากนำแบตเตอรี่ปริมาณ 100 kWh มาแบ่งใช้ทำแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฮบริดซึ่งจะได้ราวๆ 90 คัน (รถไฮบริดส่วนมากจะมีแบตเตอรี่ราวๆ 1 kWh) เท่ากับว่าในรถยนต์ 100 คันจะได้รถยนต์ไฮบริด 90 คัน และรถยนต์สันดาป 10 คัน ซึ่งจะพบว่าการปล่อยมลพิษไอเสียนั้นลดลงเหลือเพียงแค่ 205 กรัม/กิโลเมตร เท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : carscoops.com