อาวดี้ ประเทศไทย ประเดิมศักราชใหม่ด้วยการเปิดตัว Audi e-tron รถเอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของค่าย พร้อมเผยตัวจริงในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2019 ในราคา 5.099 ล้านบาท
Audi e-tron ยนตรกรรมเอสยูวีพรีเมียม 5 ที่นั่ง ที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยคือรุ่น Audi e-tron 55 quattro มาพร้อมระบบการขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro อันเป็นเอกลักษณ์ของ Audi โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวติดตั้งที่ตำแหน่งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งส่งกำลังไปยังล้อโดยตรง ทำให้เกิดการตอบสนองที่ฉับไวในทุกช่วงเวลา ไม่ว่าจะเป็นการออกตัวหรือว่าการเร่งแซง
มอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 266 กิโลวัตต์ หรือ 360 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 561 นิวตันเมตร และเพิ่มขึ้นเป็น 408 แรงม้า และ 664 นิวตันเมตร ในบูสต์โหมด ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.6 วินาที และ 5.7 วินาทีในบูสต์โหมด และทำความเร็วได้สูงสุด 200 กม./ชม.
นอกจากเรื่องของสมรรถนะแล้ว จุดเด่นของ e-tron ก็คือ ความสามารถในการใช้งาน โดยการชาร์จไฟ 1 ครั้ง เดินทางได้ถึง 417 กม. จากการทดสอบโดยใช้มาตรฐาน WLTP ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเทคโนโลยีการออกแบบที่เยี่ยมยอดทำให้ชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรีได้รวดเร็วเมื่อรถชะลอความเร็วหรือเบรก
รูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นด้วยไฟ LED ทั้งด้านหน้าและหลัง กระจกมองข้างแบบดั้งเดิมถูกแทนที่ด้วยกล้องจับภาพ ซึ่งถูกติดตั้งเข้ามาเป็นออปชั่นเสริมในแพ็คเกจ Driving Assistant รวมเข้ากับอีก 4 อุปกรณ์ทั้ง ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาเมื่อเปลี่ยนเลน Lane Change Warning, ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านหลังรถ Exit Warning, ระบบเตรียมความพร้อมหากเกิดการชนท้าย Audi Pre-sense rear และระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้าย เมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง Rear Cross Traffic Assist โดยแพ็คเกจดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก 2 แสนบาท
ขณะที่ภายในห้องโดยสารเน้นความหรูหรา สะดวกสบาย มาพร้อมระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระ, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, หน้าจอบริเวณแผงข้างประตูทั้งสองฝั่งสำหรับแสดงภาพจากกล้องมองข้าง, จอแสดงข้อมูลมาตรวัดแบบ Virtual Cockpit Plus ขนาด 12.3 นิ้ว นอกจากนี้ยังออกแบบพื้นที่จัดวางแบตเตอรี ไม่ให้รบกวนห้องโดยสาร จึงทำให้พื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านหลังมีความจุถึง 660 ลิตร
พบกับ Audi e-tron คันจริงได้ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2019 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 มีนาคม -7 เมษายน โดยรุ่นที่นำมาจัดแสดงจะยังคงเป็นเวอร์ชั่นพวงมาลัยซ้าย ส่วนเวอร์ชั่นพวงมาลัยขวาจะมาถึงไทยในช่วงต้นปีหน้า