fbpx

‘ฮอนด้า’ ทำใจไร้รถใหม่ ปี 61 ขอขาย 1.2 แสนคันเท่าปีนี้ พร้อมยื่นลงทุนไฮบริด

ฮอนด้า ทำใจปีหน้าไร้สินค้าใหม่สู้ศึกตลาดรถยนต์ ขอตั้งเป้าขายเท่าปีนี้ที่ 1.2 แสนคัน ย้ำไม่เคยตั้งเป้าเป็นที่ 1 ตลาดรถยนต์นั่ง แต่ที่ได้มาเพราะยอดขายเป็นไปตามแผนที่วางไว้ วอนรัฐบาลให้ความสำคัญกับโครงการลงทุนก่อนหน้านี้ด้วย ไม่ใช่ให้ประโยชน์แต่กับโครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจนลืมอีโคคาร์ 2 ยันสิ้นปีนี้ยื่นลงทุนโครงการไฮบริดแน่

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์พิเศษ “carvariety” ว่าในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมียอดจำหน่ายรถยนต์ตามเป้าที่ตั้งไว้คือ 1.2 แสนคัน หรือมีส่วนแบ่งการตลาด 32% ของตลาดรถยนต์นั่งอย่างแน่นอน ขณะที่ยอดจำหน่าย 10 เดือนที่ผ่านมาสามารถทำยอดจำหน่ายไปได้แล้วกว่า 1.08 แสนคัน และคาดว่าปีนี้ตลาดรวมรถยต์น่าจะอยู่ที่ 8.5 แสนคันอย่างแน่นอน

สำหรับในปี 2561 คาดว่าตลาดรถยนต์เมืองไทยจะเติบโตอยู่ในระดับ 4-5% จากยอดจำหน่ายในปีนี้ หรืออยู่ที่ประมาณเกือบ 9 แสนคัน เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศไทยอยู่ในช่วงฟื้นตัว ประกอบกับมีรถยนต์ที่อยู่ในโครงการรถยนต์คันแรกอีกกว่า 5 แสนคันมีสิทธิขายเปลี่ยนมือได้ รวมถึงสถานการณ์ด้านการเมืองก็อยู่ในภาวะที่นิ่ง มีทิศทางที่ชัดเจน เศรษฐกิจโลกมีทิศทางเติบโตดี จะส่งผลในเรื่องของการส่งออกของไทย

อย่างไรก็ตามในส่วนของ ฮอนด้า ตั้งเป้ายอดขายปีหน้าไว้ที่ 1.2 แสนคัน เท่ากับยอดขายในปีนี้ เนื่องจากในปีหน้า ฮอนด้า ไม่ได้มีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่เป็นรุ่นหลักในการทำตลาดแต่อย่างใด จะมีก็แต่การปรับปรุง ไมเนอร์เชนจ์รถยนต์บางรุ่นเท่านั้น

“เรามองทุกอย่างด้วยความเป็นจริง ปีหน้าเราไม่มีของใหม่ และการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นด้วย เพราะคู่แข่งเปิดตัวสินค้าใหม่ เราเลยขอยืนยอดขายเท่าปีนี้ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป้าหมายจริงๆ ของฮอนด้าคือการสร้างความพอใจให้กับลูกค้า การทำกิจกรรมร่วมกับลูกค้า การเชื่อมโยงกับลูกค้า เราต้องการสร้างความน่าเชื่อถือของแบรนด์ฮอนด้าต่อลูกค้าเป็นหลัก”

สำหรับในปีหน้า ตลาดหลักของฮอนด้ายังคงเป็นรถยนต์ในกลุ่ม Sub Compact (ซิตี้-แจ๊ซ) และรถในกลุ่มอีโคคาร์ ที่ยังเป็นรถยนต์กลุ่มใหญ่สุดของตลาดรถยนต์เมืองไทย ขณะที่กลุ่มรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ (SUV) ก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันนี้ ฮอนด้า (CR-V ,HR-V ,BR-V) มีส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มรถ SUV มากถึง 63% ขณะที่ตลาดรวมรถยนต์นั่งนั้น คาดว่าส่วนแบ่งตลาดของรถ SUV ในปีหน้าจะเพิ่มเป็น 15-16% จากปีนี้ที่อยู่ที่ประมาณ 14% จากการเปิดตัวของ โตโยต้า CH-R  และ MG ZS ที่คาดว่าจะทำให้ตลาด SUV เล็กกลับมาคึกคักอย่างมาก

นายพิทักษ์ กล่าวถึงความคืบหน้า การยื่นข้อเสนอการลงทุนผลิตรถยนต์ไฮบริด ที่ภาครัฐกำหนดว่าจะต้องยื่นความจำนงค์ในการเข้าร่วมโครงการผลิตรถยนต์ไฮบริดภายในสิ้นปีนี้ว่า ฮอนด้า จะยื่นความจำนงค์เข้าร่วมโครงการผลิตรถยนต์ไฮบริดภายในสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน เพราะฮอนด้าเป็นภาคเอกชนที่จะลงทุนในโครงการที่รัฐบาลให้การสนับสนุน และมีนโยบายเกี่ยวกับเรื่องนั้นอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ทางฮอนด้ายังมีความกังวลในเรื่องของสิทธิประโยชน์ที่ภาครัฐให้กับการลงทุนในโครงการรถไฮบริด กับการสนับสนุนการลงทุนในโครงการรถยนต์อีโคคาร์ เฟส2 ที่มีความเหลื่อมล้ำกันค่อนข้างมาก ซึ่งฮอนด้าเอง ในขณะนี้ยังเดินหน้าในโครงการอีโคคาร์เฟส 2 อยู่เช่นเดิม นั่นหมายความว่าในขณะนี้ฮอนด้า จะทำทั้งอีโคคาร์เฟส 2 และรถยนต์ไฮบริด

  “การที่รัฐบาลประกาศสนับสนุนโครงการรถยนต์ไฮบริดขึ้นมานั้น หากมองระยะยาวจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน เนื่องจากสิทธิประโยชน์ของรถยนต์ในโครงการไฮบริดนั้นดูแล้วไม่สมดุลย์กับสิทธิประโยชน์ของโครงการรถยนต์อีโคคาร์เฟส 2 ทำให้ผู้ลงทุนในโครงการก่อนมีความรู้สึกว่าเสียเปรียบ ซึ่งผมเชื่อว่าจุดนี้ไม่ใช่ความต้องการ หรือวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของรัฐบาลที่ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันของการลงทุนทั้ง 2 โครงการ ก็หวังว่ารัฐบาลจะเข้ามาดูแลความเสมอภาคในเรื่องนี้” 


บทความที่น่าสนใจ

อันตรายของมลภาวะที่มาจากเครื่องยนต์

Warunya T.

SOLAR GARD คืนตลาดฟิล์มรถยนต์ ลั่นปีนี้ขอ 70 ล้าน

idiot

วิเคราะห์ ทำไม Ford EV ถึงขาดทุน 2.4 หมื่นล้านบาท ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2023

Nopkung

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy