หลังจากที่ทาง “ค่ายใบพัดฟ้าขาว” ได้เปิดตัว BMW M2 (รหัสตัวถัง F87) รถสปอร์ตน้องเล็กในสายรหัสความแรง M ไปในช่วงปี 2015 หรือเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ล่าสุดพวกเขาได้เปิดตัว M2 เจนเนอเรชั่นที่ 2 อย่างเป็นทางการ พร้อมขุมพลังใหม่ที่แรงมากยิ่งขึ้น
BMW M2 ใหม่จะใช้เครื่องยนต์รหัส S58 ของ BMW ที่ประจำการอยู่ในรถหลากหลายรุ่นไม่ว่าจะเป็น M3, M4, X3 M, X4 M (แต่กำลังแรงม้าจะไม่เหมือนกันในแต่ละรุ่น) โดยขุมพลังบล๊อกนี้เป็นเครื่องยนต์แบบ 6 สูบเรียง 3.0 ลิตรพร้อมเทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุดที่ 453 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 48 แรงม้าจากรุ่นก่อน) และแรงบิดสูงสุดที่ 550 นิวตัน-เมตร โดยจะมีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ M Steptronic 8 จังหวะพร้อมระบบ Drivelogic
โดยในรุ่นเกียร์ธรรมดาจะสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-96กิโลเมตร/ชั่วโมง (0-60 ไมล์) ได้ใน 4.1 ในขณะที่รุ่นเกียร์อัตโนมัติจะสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 3.9 วินาที BMW และจะจำกัดความเร็วสูงสุดของรถไว้ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (155 ไมล์ต่อชั่วโมง) ซึ่งลูกค้าสามาถซื้อ M Driver’s Package ซึ่งจะปลดล๊อกความเร็วสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 284 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจะมาพร้อมกับคาลิปเปอร์เบรกหน้าแบบ 6 ลูกสูบและด้านหลังลูกสูบเดี่ยวตกแต่งด้วยสีน้ำเงินเมทัลลิกและสีแดง
มิติตัวรถของ BMW M2 ใหม่จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อน โดยจะมีความยาวเพิ่มขึ้น 10 เซนติเมตร, กว้างขึ้น 3 เซนติเมตร, และเตี้ยลง 0.7 เซนติเมตร โดยทาง BMW ได้มีการขยายระยะฐานล้อให้มากขึ้น 5 เซนติเมตร
การดีไซน์ด้านหน้าแน่นอนว่าจะต้องมาพร้อมกระจังหน้าแบบไตคู่ (kidney grille) และชุดกันชนหน้าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้มีความเป็นเหลี่ยมสันและเปลี่ยนแนวซี่ของกระจังหน้าจากแนวตั้งเป็นแนวนอนซึ่งสามารถเปิดและปิดได้เพื่อช่วยในเรื่องการระบายความร้อนในห้องเครื่องรวมถึงระบบเบรก
ด้านท้ายของตัวรถจะมาพร้อมกับชุดกันชนและดิฟฟิวเซอร์หลังที่ดูดุดัน พร้อมด้วยชุดท่อไอเสียแบบ 4 รู รวมถึงฝากระโปรงท้ายที่ได้รับการออกแบบให้คล้ายกับรถที่ติดสปอยเลอร์ท้ายแบบ Duck Tail ช่วยเพิ่มความโหดให้กับรถคันนี้ได้เป็นอย่างดี
เมื่อเข้ามาในห้องโดยสารจะพบกับการตกแต่งด้วยโทนสีดำ และมีการเล่นสีแดง และน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีประจำตัวของ M Performance รวมถึงหน้าจอแบบใหม่ของ BMW ขนาด 12.3 นิ้วสำหรับหน้าจอมาตรวัด และ 14.9 นิ้วสำหรับหน้าจอกลาง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับแต่งระบบต่างๆ ของตัวรถได้ เช่น ความแข็ง-อ่อนของช่วงล่าง น้ำหนักของพวงมาลัยและแป้นเบรก รวมถึงโหมดการขับขี่และการตั้งค่าอื่นๆก็สามารถควบคุมได้ผ่านหน้าจอกลาง นอกจากนี้ยังได้เบาะนั่งแบบ M Sport ที่ได้รับการออกแบบใหม่พร้อมโลโก้ M แบบเรืองแสงบริเวณพนักพิงศรีษะ และหากยังไม่พอใจทาง BMW ยังได้มีเบาะนั่ง M Carbon ซึ่งเบากว่ารุ่นมาตรฐาน 10.8 กิโลกรัม เป็นออปชั่นเสริมอีกด้วย
สำหรับ BMW M2 จะเริ่มผลิตและส่งมอบให้กับลูกค้าได้ในช่วงเดือนเมษายนปี 2023 โดยมันจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 63,194 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 2.4 ล้านบาท (ไม่รวมภาษี)
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : motor1.com
รับชมข่าวสารอื่นๆของ BMW คลิกที่นี่
รับชมคลิปวีดีโอทดสอบรถของเรา คลิกที่นี