เชื่อว่ายังมีผู้ใช้รถหลายๆคนที่นิยมเอา “น้ำเปล่าหรือน้ำก๊อก” มาเติมในหม้อน้ำรถยนต์ แต่พฤติกรรมเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ และส่งผลเสียต่อรถยนต์ของคุณมากกว่าที่คุณคิด
โดยปกติแล้ว ทางบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จะใส่ น้ำยาหล่อเย็น (Coolant) มาให้ในรถยนต์ทุกคัน โดยหน้าที่หลักๆของเจ้าน้ำยาหล่อเย็นก็คิอ การลดความร้อนของเครื่องยนต์ โดยน้ำยาหล่อเย็นจะวิ่งผ่านตาน้ำบริเวณเสื้อสูบ ก่อนที่จะไหลเข้าสู่หม้อน้ำ โดยตัวหม้อน้ำจะมีพัดลมขนาดใหญ่ เพื่อระบายความร้อนของน้ำยาหล่อเย็น ก่อนที่จะไหลกลับเข้าสู่เครื่องยนต์เพื่อระบายความร้อนอีกครั้ง
แต่เมื่อใช้รถมาระยะเวลาหนึ่ง น้ำเหล่านี้จะหายไปเนื่องจากการระเหยและการรั่วซึมในระบบ (ปกติแล้วน้ำยาหล่อเย็นจะหายไปช้าๆ หากต้องเติมบ่อยๆเช่นทุกเดือนหรือทุกสัปดาห์ ควรตรวจเช็กระบบระบายความร้อน) ซึ่งมีผู้ใช้รถยนต์หลายคนเลือกที่จะใช้ “น้ำเปล่า” หรือน้ำที่เปิดจากก๊อกน้ำเติมกลับเข้าไปแทนที่น้ำยาหล่อเย็นที่หายไปซึ่งเป็นสิ่งที่ ไม่ควรทำ เป็นอย่างยิ่ง ในวันนี้เรามี 3 เหตุผลว่าทำไมคุณถึงไม่ควรเติมน้ำเปล่าลงในหม้อน้ำของรถยนต์
1. น้ำเปล่า มีจุดเดือดที่ต่ำกว่าน้ำยาหล่อเย็น
โดยปกติแล้วน้ำเปล่านั้นจะมีจุดเดือดของน้ำอยู่ที่ 100 องศาเซลเซียส ซึ่งในบางครั้งหากคุณขับรถไปในสถานที่ที่มีการจราจรติดขัด อุณหภูมิของเครื่องยนต์อาจสูงเกิด 100 องศาเซลเซียส ทำให้น้ำเปล่าที่อยู่ในระบบระบายความร้อนอาจเกิดการเดือด ซึ่งจะทำให้เครื่องยนต์ของคุณอาจเกิดความเสียหายได้ ซึ่งในน้ำยาหล่อเย็นจะมีสาร Ethylene Glycol ซึ่งช่วยให้น้ำยาหล่อเย็นมีจุดเดือดที่สูงขึ้น ส่งผลให้ถ่ายเทความร้อนได้ดีกว่าน้ำเปล่านั่นเอง
2. น้ำเปล่า ทำให้ชิ้นส่วนในระบบระบายความร้อนเสียหาย
หากคุณใช้น้ำเปล่าเติมลงในหม้อน้ำแล้วล่ะก็ ชิ้นส่วนต่างๆภายในระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์อาจเกิดความเสียหายได้ เช่น เกิดสนิมในหม้อน้ำ หรืออาจเกิดคราบตะกรันบริเวณท่อยางน้ำ ซึ่งในน้ำยาหล่อเย็นนั้นจะมีสารพิเศษที่ช่วยให้ชิ้นส่วนต่างๆไม่เกิดสนิมและคราบตะกรัน
3. น้ำยาหล่อเย็น มีอัตราการระเหยที่น้อยกว่าน้ำปกติ
หากคุณใช้น้ำเปล่าเติมลงในหม้อน้ำแล้วล่ะก็ น้ำอาจเกิดการระเหยได้มากกว่าการใช้น้ำยาหล่อเย็น เนื่องจากในน้ำยาหล่อเย็นนั้นจะมีสารซึ่งส่งผลให้น้ำยาหล่อเย็นเกิดการระเหยตัวได้ช้ากว่าน้ำปกติ ซึ่งทำให้ผู้ใช้รถไม่ต้องคอยเติมน้ำในหม้อน้ำบ่อยๆนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้ผู้ใช้รถทุกท่านคอยตรวจสอบระดับของน้ำยาหล่อเย็นในหม้อพักน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการตรวจสอบความสมบูรณ์ของระบบระบายความร้อนไปในตัว ว่ามีจุดไหนที่เสียหายหรือเกิดการรั่วซึมหรือไม่ รวมถึงควรเปลี่ยนถ่ายน้ำยาหล่อเย็นทุกๆ 3 ปี เพื่อประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่ดี และป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : mechanicsatwork.com.au / pixabay.com / freepik.com / hks-power.co.jp
รับชมสาระความรู้และเทคนิคยานยนต์ดีๆจากเราเพิ่มเติม คลิกที่นี่