ในช่วงนี้ราคาน้ำมันทั่วโลกต่างปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแน่นอนว่ามันส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันในประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยในปัจจุบัน (31 พฤษภาคม 2565) ราคาขายปลีกของน้ำมันเบนซิน 95 อยู่ที่ 51.26 บาท/ลิตร ซึ่งถือได้ว่าสูงที่สุดในรอบ 10 ปี ว่าแต่ทำไม “ราคาน้ำมัน” ในประเทศไทยถึงได้แพงกว่ามาเลเซียถึง 2 เท่า ทั้งที่สามารถผลิตน้ำมันได้เองเช่นเดียวกัน วันนี้ CarVariety จะมาไขข้อสงสัยให้กับทุกท่านครับ
ประเทศไทยผลิตน้ำมันเองได้ก็จริง แต่ผลิตได้เพียง 15% ของยอดการใช้น้ำมันในประเทศ
อย่างที่ทราบกันว่าประเทศไทยนั้นสามารถขุดเจาะน้ำมันและกลั่นเองได้ในประเทศ แต่ในความเป็นจริงแล้วประเทศไทยมีกำลังการผลิตน้ำมันเพียงแค่ราวๆ 15% ของปริมาณการใช้ในประเทศเท่านั้น ส่วนที่เหลือยังคงต้องพึ่งพาการน้ำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงจากต่างประเทศอยู่ ซึ่งหากเปรียบเทียบกับมาเลเซียที่สามารถผลิตน้ำมันได้เกินกว่าการใช้ในประเทศ พวกเขายังเหลือน้ำมันสำหรับส่งออก นี่คือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำมันในประเทศมาเลเซียนั้นถูกกว่าประเทศไทย
ประเทศมาเลเซีย ไม่เก็บภาษีจากน้ำมัน ทำให้ขายได้ในราคาที่ถูกกว่า
นี่เป็นอีก 1 สาเหตุของราคาน้ำมันในประเทศไทยที่สูงกว่ามาเลเซีย เนื่องจากประเทศไทยมีการเก็บภาษีจากน้ำมันมากมายหลายประเภท แบ่งได้เป็น 3 หมวดหมู่ได้แก่ ภาษีสรรพสามิต ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเทศบาล รวมถึงยังมีการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้คิดเป็นสัดส่วนราวๆ 20-45% (ขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำมัน) ในขณะเดียวกันในประเทศมาเลเซียจะไม่มีการเก็บภาษีตรงนี้
น้ำมัน (ดีเซล) ของไทย มีคุณภาพสูงกว่าของมาเลเซีย !!
น้ำมันดีเซลในประเทศไทย ณ ขณะนี้ เรากำหนดให้ใช้มาตรฐาน Euro 4 เป็นมาตรฐานขั้นต่ำที่สุด ในขณะที่ของทางฝั่งมาเลเซียนั้นยังคงใช้น้ำมันเกรดต่ำสุดที่ Euro 2 ซึ่งเป็นมาตรฐานน้ำมันดีเซลที่ออกมาตั้งแต่ปี 1996 จึงทำให้ต้นทุนการผลิตน้ำมันในประเทศไทยสูงกว่านั่นเอง
รัฐบาลมาเลเซียช่วยอุดหนุนราคาน้ำมัน
นี่เป็นอีก 1 สาเหตุหลักที่ทำให้ ราคาน้ำมัน ในประเทศไทยนั้นสูงกว่ามาเลเซีย นั่นก็เพราะทางประเทศมาเลเซียมีนโยบายช่วยอุดหนุนราคาน้ำมันในประเทศ โดยพวกเขานำเงินมาจากรายได้จากการส่งออกน้ำมันไปยังต่างประเทศนั่นเอง
ทำไมรัฐบาลไทย ถึงเลือกที่จะอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลเพียงอย่างเดียว ?
ในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า ทางภาครัฐช่วยพยุงราคาน้ำมันดีเซลเป็นหลัก จนทำให้ผู้ที่ใช้รถเครื่องยนต์เบนซินต่างรู้สึกสงสัย ซึ่งสาเหตุนั่นก็เป็นเพราะว่าในประเทศไทย หากเปรียบเทียบสัดส่วนระหว่างการใช้น้ำมันดีเซลกับเบนซินแล้วจะพบว่า จาก 100% มีการใช้น้ำมันดีเซลไปแล้วถึง 70 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงรถยนต์ที่ใช้ในภาคขนส่งนั้นแทบจะ 100% เป็นรถเครื่องดีเซล จึงทำให้ภาครัฐต้องอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซล เพื่อไม่ให้กระทบต่อภาคขนส่งซึ่งอาจส่งผลให้ราคาสินค้ามีการปรับตัวขึ้นนั่นเอง
แอดมินหวังว่า วิกฤติราคาน้ำมันแพงในประเทศไทยจะปรับเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นในเร็ววันนี้ เพราะเราไม่สามารถปฏิเสธได้จริงๆว่า ราคาน้ำมัน ส่งผลกระทบกับทุกคน ทุกอาชีพ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : thematter.co / greennetworkthailand.com / bangkokbiznews.com / freepik.com / pixabay.com