หากเราพูดถึงรถยนต์ขนาดเล็กที่มีรูปทรงที่สวยงาม ภายในห้องโดยสารหรูหรา สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม และมีอัตราสิ้นเปลืองที่ต่ำ เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะนึกถึง Mazda 2 รถขนาดเล็กขวัญใจวัยรุ่น ซึ่งถึงแม้ว่ารถรุ่นนี้จะทำตลาดในประเทศไทยมาแล้วถึง 9 ปี นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 แต่ยังไม่มีการเปลี่ยนโฉม (Model Change) สักที
ล่าสุดในวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา ทางมาสด้าได้เปิดตัว 2023 Mazda 2 Minorchange รุ่นปรับโฉม ซึ่งหลายๆคนต่างมองว่าด้วยอายุของตัวรถที่ทำตลาดมานานถึง 9 ปี จึงไม่น่าจะทำยอดจองได้มากนัก แต่หลังจากเปิดตัวได้ 5 วันทางมาสด้าประเทศไทยได้ออกมาประกาศว่า มีลูกค้าจอง Mazda 2 ใหม่เข้ามามากกว่า 1,500 คน เรียกได้ว่าหักปากกาเซียนหลายๆคน เรามาดูกันว่าเพราะอะไรทำให้รถรุ่นนี้ ยังคงขายได้อย่างต่อเนื่องทั้งๆเป็นเพียงการ Minorchange เท่านั้น
อ่านข่าว : New Mazda 2 Minorchange ปรับหน้าตา เพิ่มออปชั่น เคาะราคาเริ่ม 599,000 บาท
ดีไซน์ภายนอก-ภายใน ดูโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
เริ่มกันที่ปัจจัยที่ผู้ซื้อรถหลายๆคนมักให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆอย่าง “ดีไซน์” ที่ต้องบอกเลยว่า Mazda 2 ที่ถึงแม้จะทำตลาดมาแล้วกว่า 9 ปี แต่รถคันนี้ยังคงดูทันสมัยและไม่ตกยุคเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งดีไซน์ภายใน ที่ออกมาแบบมาได้เรียบหรู ดูดี ในแบบฉบับของมาสด้า
Mazda 2 มีให้เลือก 2 ตัวถังทั้งแบบ Sedan และ Hatchback
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Mazda 2 ก็คือรถรุ่นนี้มีให้เลือกใช้ทั้งแบบ Sedan 4 ประตู และแบบ Hatchback 5 ประตู ซึ่งทั้งสองรุ่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันอยู่พอสมควร ทำให้ลูกค้าที่สนใจรถรุ่นนี้มีตัวเลือกในการซื้อเพิ่มมากยิ่งขึ้น
ขุมพลัง “ดีเซล” ในรถขนาดเล็ก เจ้าเดียวในตลาด
เชื่อว่ามีหลายๆคนตัดสินใจซื้อ Mazda 2 เพราะเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร เทอร์โบ skyactiv-d ที่มาพร้อมกับแรงบิดที่มากกว่าเครื่องยนต์เบนซิน ทำให้รถมีอัตราเร่งที่ดีเยี่ยม แถมยังประหยัดน้ำมันอย่างเหลือเชื่อ โดยหากคุณขับทางไกลด้วยความเร็ว 90-100 รถคันนี้อาจมีอัตราสิ้นเปลืองต่ำถึง 30 กิโลเมตร/ลิตร เรียกได้ว่าประหยัดสุดๆ
ช่วงล่าง พวงมาลัย ดีที่สุดใน Segment
ปิดท้ายกันที่ฟิลลิ่งการขับขี่ของ Mazda 2 ที่ปรับเซ็ทมาเอาใจ “คนชอบขับรถ” แบบสุดๆ ด้วยช่วงล่างที่แน่น หนึบ เกาะโค้ง พร้อมด้วยพวงมาลัยที่คมและแม่นยำ ให้ความมั่นใจในการขับขี่ด้วยความเร็วสูง แต่สำหรับคนที่ชื่นชอบรถยนต์ที่ให้ความนุ่มนวลอาจจะไม่ชอบรถรุ่นนี้สักเท่าไหร่
ถึงแม้ว่าเจ้า Mazda 2 จะเป็นรถที่ขับสนุกและให้ความมั่นใจเมื่อใช้ความเร็วสูง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารที่ค่อนข้างด้อนกว่าคู่แข่ง (แคบและอึดอัด) รวมถึงตัวรถอาจมีความ “จุกจิก” บ้างเมื่อเทียบกับรถยนต์เจ้าตลาด แต่ถ้าหากมองในแง่ของสมรรถนะของตัวรถ เราปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่ารถรุ่นนี้ยังคงยืนอยู่ในระดับหัวแถว หากเปรียบเทียบกับรถยนต์ใน Segment เดียวกัน