วันนี้เรานำ รถกระบะยกสูง ขับเคลื่อน 4 ล้อ สองรุ่นยอดฮิตอย่าง Toyota Revo Rocco 4X4 รุ่นท๊อป ราคาค่าตัว 1,281,000 บาท เทียบสเปกกับ Ford Ranger Wildtrak 2.0 Bi-Turbo 4X4 ราคาค่าตัว 1,314,000 บาท มาดูกันว่าใครจะมีสเปกและออปชั่นเป็นอย่างไรบ้าง
ขนาดมิติตัวถัง
ก่อนอื่นเรามาเริ่มกันที่ขนาดมิติตัวถังของ Hilux Revo Rocco และ Ranger Wildtrak 2.0 Bi-Turbo โดยรถทั้งสองคันมีขนาดมิติตัวถังดังนี้
|
Ford Ranger Wildtrak |
Toyota Hilux Revo Rocco |
ความกว้าง |
1,918 มิลลิเมตร |
1,900 มิลลิเมตร |
ความยาว |
5,370 มิลลิเมตร |
5,325 มิลลิเมตร |
ความสูง |
1,884 มิลลิเมตร |
1,815 มิลลิเมตร |
ระยะฐานล้อ |
3,270 มิลลิเมตร |
3,085 มิลลิเมตร |
ความสูงใต้ท้องรถ (Ground Clearance) |
230 มิลลิเมตร |
217 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก |
2,156 กิโลกรัม |
2090 กิโลกรัม |
หากเปรียบเทียบขนาดตัวถังระหว่างรถทั้ง 2 รุ่นจะพบว่า Ranger Wildtrak มีขนาดที่ “ใหญ่กว่าในทุกมิติ” โดยมีความกว้างที่มากกว่า 18 มิลลิเมตร, ยาวกว่า 45 มิลลิเมตร, สูงกว่า 69 มิลลิเมตร มีระยะฐานล้อที่ยาวกว่า 185 มิลลิเมตร และมีความสูงใต้ท้องรถ (Ground Clearance) ที่มากกว่า 13 มิลลิเมตร แต่แน่นอนว่าด้วยขนาดตัวถังที่มากกว่าตัวรถจึงมีน้ำหนักมากกว่าคู่แข่งอยู่ที่ 66 กิโลกรัม
เครื่องยนต์
มาต่อกันที่ขุมพลังของรถทั้ง 2 รุ่น ซึ่งจะได้เป็นเครื่องยนต์ดีเซลเหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันที่ขนาดความจุของเครื่องยนต์และจำนวนของเทอร์โบ รวมถึงพละกำลังสูงสุด โดยมีสเปกดังต่อไปนี้
- Ford Ranger Wildtrak – เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบเรียง ขนาดความจุ 2.0 ลิตร พร้อมด้วยเทอร์โบชาร์จ 2 ตัว (Bi-Turbo) ให้พละกำลังแรงม้าสูงสุดที่ 210 แรงม้า ที่รอบเครื่องยนต์ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่รอบเครื่องยนต์ 1,750 – 2,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ
- Toyota Hilux Revo Rocco เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบเรียง ขนาดความจุ 2.8 ลิตร พร้อมด้วยระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จ ให้พละกำลังแรงม้าสูงสุดที่ 204 แรงม้า ที่รอบเครื่องยนต์ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่รอบเครื่องยนต์ 1,600 – 2,800 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
หากเปรียบเทียบเครื่องยนต์ในรถทั้ง 2 คันจะพบว่าทาง Ranger Wildtrak ดูเหมือนจะได้เปรียบเรื่องกำลังแรงม้า สูงสุด ที่มากกว่า Revo Rocco อยู่เล็กน้อย (6 แรงม้า) แต่เมื่อมาดูในรายละเอียดดีๆแล้วจะเห็นว่า รอบเครื่องยนต์ที่ใช้รีดกำลังแรงม้าและแรงบิดสูงสุดของ Revo จะมาในรอบที่ต่ำกว่า Ranger อยู่พอสมควร อีกทั้งยังมีช่วงที่สามารถเรียกแรงบิดสูงสุดได้กว้างกว่า Ranger มากพอสมควร
ออปชั่นความปลอดภัย
มาต่อกันที่ออปชั่นความปลอดภัยของ Ranger Wildtrak และ Revo Rocco ซึ่งจะได้ออปชั่นดังต่อไปนี้
ออปชั่นความปลอดภัยของ Ford Ranger Wildtrak
- ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
- เซ็นเซอร์เตือนระยะด้านหน้าและด้านหลัง
- กล้องมองรอบคัน 360 องศา
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HLA และระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงเขา
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันจนถึงจุดหยุดนิ่ง adaptive cruise control with stop & go
- ระบบช่วยเตือนและควบคุมรถให้อยู่ในเลน
- ระบบไฟหน้าอัจฉริยะ Matrix LED ปรับมุมของลำแสงโดยอัตโนมัติ พร้อมระบบป้องกันไฟแยงตา และระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ
- ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้า และช่วยเบรกอัตโนมัติ
- ระบบตรวจจับรถในจุดอับสายตา Blind Spot และตรวจจับรถยนต์ขณะถอยออกจากช่องจอด Cross Traffic Alert
ออปชั่นความปลอดภัยของ Toyota Hilux Revo Rocco
- ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
- เซ็นเซอร์เตือน-กะระยะ ด้านหน้าและด้านหลัง
- กล้องมองรอบคัน 360 องศา
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control (ไม่ถึงจุดหยุดนิ่ง Stop & Go)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน และระบบหน่วงกลับอัตโนมัติ LDA
- ระบบเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง Blind Spot Monitor
- ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert
- ระบบความปลอดภัยก่อนการชน PRE-COLLISION SYSTEM
เมื่อเปรียบเทียบออปชั่นความปลอดภัยของรถทั้ง 2 คัน เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Ranger Wildtrak ค่อนข้างได้เปรียบอยู่มากพอสมควร ซึ่งถึงแม้ว่าออปชั่นความปลอดภัยพื้นฐานจะใกล้เคียงกัน แต่สิ่งที่โดดเด่นของ Ford ก็คือ ระบบไฟหน้าอัจฉริยะ Matrix LED ที่สามารถปรับมุมของลำแสงโดยอัตโนมัติ ซึ่งมาพร้อมกับระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันจนถึงจุดหยุดนิ่ง adaptive cruise control with stop & go ในขณะที่ทาง Revo จะได้เป็น adaptive cruise control เหมือนกัน แต่จะไม่ทำงานถึงจุดหยุดนิ่ง (Stop & Go)
ราคา การรับประกัน และสิทธิประโยชน์
ปิดท้ายกันที่ราคาและการรับประกันของรถทั้ง 2 รุ่น ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
Ford Ranger Wildtrak – ราคา 1,314,000 บาท
- รับประกันคุณภาพตัวรถ Ford Care 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน)
- รับประกันคุณภาพอะไหล่ในกลุ่มเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง 10 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน)
- ฟรีค่าแรงสำหรับการเช็กระยะตามมาตรฐานฟอร์ดจำนวน 5 ครั้ง ภายในระยะ 60 เดือน หรือ 75,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชม. ตลอด 3 ปี
- ฟรีประกันภัยชั้น 1
Toyota Hilux Revo Rocco 4×4 – ราคา 1,281,000 บาท
- รับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน)
- ฟรีค่าแรงเช็กระยะรอบ 10,000 – 50,000 กิโลเมตร โดยจะต้องนำรถเข้ารับบริการภายในรอบ 6 เดือนทุกครั้ง
- หมายเหตุ : ประกันภัยชั้น 1 และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับดีลเลอร์ผู้จัดจำหน่าย
ปิดท้ายกันที่การรับประกันและสิทธิประโยชน์ของรถทั้ง 2 คัน ซึ่งจะได้การรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร และฟรีค่าแรงบำรุงรักษา 5 ครั้งเหมือนกัน (Ford จะเข้าเช็กระยะทุกๆ 15,000 กิโลเมตร, Toyota เข้าเช็กระยะทุกๆ 10,000 กิโลเมตร) แต่ทาง Ford จะได้การรับประกันคุณภาพอะไหล่ในกลุ่มเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนาน 10 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (ของ Toyota ได้แค่ 5 ปี)
สำหรับท่านที่สนใจรถทั้ง 2 รุ่นนี้ สามารถสอบถามข้อมูลและสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม ได้ที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยรายละเอียดต่างๆอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตามนโยบายของแต่ละบริษัท