อาวดี้ ประเทศไทย โดย บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ จนก้าวสู่ปีที่ 6 และได้มีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องรวมทั้งสิ้น 64 รุ่น 22 body type โดยครั้งนี้จะพิเศษว่าครั้งไหนเพราะได้เกณฑ์สื่อมวลชนเข้าร่วมกิจกรรม “Audi Press Trip Never Follow” ซิ่งรถยนต์อาวดี้กว่า 60 คัน ไปต้อนรับน้องใหม่สุดจี๊ดอย่าง The New Audi RS3 Sportback กันถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์กันเลยทีเดียว
บอกเลยครับว่าเป็นไปได้ยากมากที่จะได้เห็นฝูงรถยนต์อาวดี้กว่า 60 คันมารวมตัวกันได้เยอะขนาด โดยสื่อมวลชนทุกท่านต้องผ่านการตรวจ ATK จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเช็คความปลอดภัยจากโรคโควิด-19 ก่อนที่จะเข้าร่วมกิจกรรมโดยมีจุดนัดพบอยู่ที่ ร้าน Mellow ใน คริสตัล พาร์ค
สำหรับคู่หูการเดินทางของผมในครั้งนี้ที่จะไปต้อนรับน้องใหม่กัน คือเจ้ารถยนต์ Audi TT Coupé รถยนต์สายพันธ์สปอร์ตแต่กำเนิดที่สามารถขับขี่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน โดยเส้นทางที่ใช้เดินทางกันในวันนี้จะสตาร์ทปล่อยตัวกันที่ คริสตัล พาร์ค เลียบทางด่วน โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ โรงแรม บาบา บีช คลับ หัวหิน ชะอำ
ขบวนวันนี้ฝูงรถอาวดี้มันเยอะจริงๆ จึงต้องถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม Audi TT Coupé ถูกจัดอยู่ในกลุ่มแรก เดินทางออกจาก คริสตัล พาร์ค ยูเทิร์น ขึ้นทางด่วนมุ่งหน้าตามป้ายดาวคะนอง เลี้ยวลงถนนพระราม 2 สภาพการจราจรค่อนข้างหนาแน่น แต่เมื่ออยู่ในรถที่มีสมรรถนะที่ดี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ หรือช่วงล่าง ฝูงอาวดี้กว่า 20 คันจึงแตกกลุ่มเฮ สื่อมวลชนต่างใช้ความสามารถพิเศษลัดเลาะกันอย่างสนุกสนานบนพื้นฐานความปลอดภัยของกฏหมาย ส่วนเรานั้นได้ควบ Audi TT Coupé รถยนต์สปอร์ต ที่มีไซส์ขนาดรถที่คล่องตัวจึงทำให้การขับขี่ในเมืองนั้นสนุกสนานพลิ้วไหวเป็นพิเศษกว่าคันอื่นๆในกรุ๊ป
ผ่านพ้นช่วงทำถนนพระราม 2 ได้เป็นที่เรียบร้อยมุ่งหน้าสู่ประตูภาคใต้ ถนนโล่งๆได้ลองสมรรถนะรถยนต์ Audi TT Coupé กันหน่อย กับเครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร 1,984 ซีซี พละกำลังสูงสุด 245 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 4,300 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ S-Tronic ขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ระบบช่วงล่างแบบ Sports Suspenstion ที่สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ซม. ได้เพียง 5.2 วินาทีเท่านั้น
นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้สัมผัสกับสมรรถนะของเจ้า TT Coupé แต่! ทุกครั้งที่ได้อยู่หลังพวงมาลัย TT Coupé ก็รู้สึกหลงรักทุกครั้งได้รับกลิ่นอายของความเป็นสปอร์ตอย่างแท้จริง กับคำนิยามที่ผมมีให้เค้า “รถสปอร์ตที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ขับแล้วไม่เหนื่อย” เครื่องยนต์ตอบสนองได้อย่างทันใจ ไม่ว่าจะเป็นการออกตัวหรือเร่งแซง มั่นใจอุ่นใจในทุกย่านความเร็ว อีกทั้งยังมีโหมดการขับขี่ให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น comfort, auto, dynamic, efficiency หรือ individual เพื่อตอบสนองอารมณ์การขับขี่อีกด้วย และที่เห็นว่าจะถูกใจผมสุดในรถยนต์อาวดี้ก็คือระบบ ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ quattro ที่ให้ความมั่นใจในการขับขี่ได้อย่างดีทั้งทางตรงและทางโค้ง ยึดเกาะถนนอย่างกับตุ๊กแก แนะนำเลยว่าถ้าใครกำลังมองหารถยนต์สปอร์ตสักคันที่ขับใช้งานในเมืองก็ดีต่างจังหวัดก็ได้ ขนาดกะทัดรัด มีความคล่องตัว อัตราเร่งดี ช่วงล่างนุ่มหนึบ พวงมาลัยคมๆ และใครที่มี activity ชอบเล่นกีฬาหรือชอบขนสัมภาระ Audi TT Coupé ก็สามารถพับเบาะหลังได้และเก็บถุงกอล์ฟได้สบาย ไม่ได้อวยนะแต่ถ้ามีโอกาสอยากให้ไปลองสัมผัสกันดูกับเจ้า Audi TT Coupé ดูที่มีค่าตัวอยู่ที่ 3,499,000 บาท
เดินทางมาสักพักก็ถึงจุดหมายแรกคือร้าน อาหาร “ข้าวใหม่ ปลามัน ซึ่งเป็นร้านที่มันบรรยากาศดีมาก อีกทั้งอาหารยังเป็นแบบพื้นบ้านมีเมนูให้เลือกมากมายแถมยังรสชาตดีอร่อยอีกด้วย เมื่อทานของคาวจนท้องตึงจะให้ครบสูตรก็ต้องตบของหวาน กับจุดหมายที่สอง คือ ร้านกาแฟ Ta9 (ร้านกาแฟทนาย) ที่มีบรรยากาศร่มรื่นไม่แพ้กัน
เมื่อทานจนอิ่มจนหนังตาเริ่มหย่อนเป็นที่เรียบร้อยก็กลับมาตั้งขบวนในรูปแบบคาราวานอีกครั้งเมื่อมุ่งหน้าสู่จุดชมวิวเขื่อนแก่งกระจานเพื่อชมบรรยากาศสวยๆวิวแบบ 360 องศา พร้อมเก็บภาพขบวนรถยนต์อาวดี้ที่วิ่งเรียงกันริมสันเขื่อนอย่างสวยงาม สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณอย่างมาก จนบางคนถึงกับต้องหยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปถ่ายวิดีโอ ก่อนจะมุ่งหน้าสู่ โรงแรม BaBa Beach Club Huahin เพื่อไปต้อนรับน้องใหม่กัน The New Audi RS3 Sportback รถยนต์ตระกูล RS Model รุ่นที่ 9 ของไทย ตอกย้ำ DNA แห่ง Racing Sport
และไฮไลท์ในการเดินทางของฝูงอาวดี้กว่า 60 คันในวันนี้ก็คือการเปิดตัวรถยนต์ The New Audi RS3 Sportback เจนเนอเรชั่นที่ 3 ซูเปอร์คาร์ร่างรถคอมแพ็คที่เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวัน สมรรถนะโดดเด่น กับ จัดเต็มเครื่องยนต์ 5 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร คว้ารางวัล International Engine of the year 9 ปีซ้อน ให้กำลังสูงสุด 400 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ 7 สปีด คลัทช์คู่ที่เปลี่ยนเกียร์ได้ฉับไว ทันใจ สามารถทำอัตราเร่งอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง ท่อไอเสีย ดังกระหึ่ม เร้าใจ สามารถเปิดปิดได้ เพื่อให้เสียงท่อเงียบลงในเขตชุมชน หรือเปิดให้เสียงดังขึ้นเพื่อเพิ่มอรรถรสในการขับขี่
อีกทั้งยังเพิ่มความมั่นใจและความสนุกในการขับขี่ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ถูกบรรจุมาให้ The New Audi RS3 Sportback เป็นครั้งแรก นั่นคือ ระบบกระจายแรงบิดอัตโนมัติด้วยไฟฟ้า RS Torque splitter พร้อมโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย RS Torque splitter ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายแรงบิดที่ล้อหลังได้ดียิ่งขึ้นโดยมีแผ่น คลัทช์แยกการทำงานของล้อซ้าย-ขวาได้อย่างอิสระในช่วงที่เข้าโค้ง ถ้าไปด้านซ้ายระบบจะส่งกำลังที่มากขึ้นไปยังล้อหลังฝั่งขวาที่ต้องการกำลังมากกว่า ซึ่งจะช่วยลดอาการ understeer และทำให้รถมีความคล่องตัวมากขึ้นขณะเข้าโค้ง ระบบ Torque splitter นี้ ยังสามารถเพิ่มความสนุกในการขับขี่ในสถานที่ปิดหรือสนามแข่งได้ โดยจะทำให้รถยนต์สามารถดริฟท์ให้ท้ายปัดได้ โดยการสั่งการผ่านการเลือกโหมดการขับขี่แบบใหม่ในชื่อ RS Torque Rear ซึ่งระบบนี้จะสามารถส่งถ่ายกำลังจากเครื่องยนต์ทั้งหมดลงสู่ล้อหลังข้างเดียวเพียงล้อเดียวอีกด้วย
นอกจากนั้นอาวดี้ยังเพิ่มอีกหนึ่งโหมดการขับขี่ในชื่อ RS Performance ที่จะตั้งค่ารถยนต์ให้เหมาะกับการใช้งานในสนามแข่งโดยเฉพาะ โดยทั้ง 2 โหมด การขับขี่แบบใหม่ได้ถูกพัฒนาและเพิ่มเข้ามาในรถยนต์อาวดี้เป็นครั้งแรกในรุ่น RS3 เพื่อตอบโจทย์การขับขี่แบบสปอร์ตได้อย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น อาวดี้ยังคงใส่ใจรายละเอียดสำหรับการขับขี่ในทุกรูปแบบ โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่แบบอื่นๆได้ ดังนี้ Comfort, Auto, Dynamic, Efficiency และ RS individual
RS sport suspension และการตั้งองศาล้อเพื่อการขับขี่ที่เข้มข้นต้องการความแม่นยำที่มากขึ้น
ระบบช่วงล่าง RS Sport suspension มาพร้อมกับระบบกันแรงสั่นสะเทือนและวาล์วที่ออกแบบใหม่ให้กับ The New Audi RS3 Sportback โดยเฉพาะ ทำให้ช่วงล่างตอบสนองต่อการขับขี่หลากหลายสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
การตั้งองศาแคมเบอร์ให้องศาลบทำให้การตอบสนองของพวงมาลัยแม่นยำมากยิ่งขึ้น และเข้าโค้งได้ดีขึ้น เมื่อเทียบกับ A3 ล้อหน้าจะถูกตั้งค่าให้มีแคมเบอร์ลบเพิ่มขึ้น 1 องศา และล้อหลังจะถูกตั้งค่าให้มีแคมเบอร์ลบเพิ่มขึ้น 0.5 องศา ทำช่วงล่างให้เตี้ยลงและเฟิร์มขึ้นเล็กน้อย เพื่อช่วยให้เกาะถนนมากยิ่งขึ้น และอีกหนึ่งระบบใหม่ใน The New Audi RS3 Sportback คือ ระบบ modular vehicle dynamics controller (mVDC) ซึ่งเป็นตัวกลางที่จะนำข้อมูลจาก Torque splitter, adaptive dampers และ wheel selective torque control มารวมกันทำให้รถมีความคล่องตัวเข้าโค้งมากยิ่งขึ้น
The New Audi RS3 Sportback มาพร้อมกับระบบเบรก 6 พอต แบบเจาะรูระบายอากาศออกแบบมาใหม่ให้ใหญ่ขึ้นและเบรกได้อย่างมั่นใจ เพื่อให้สามารถควบคุมพละกำลังมหาศาลจากเครื่องยนต์ 5 สูบได้ และระบบควบคุมอากาศที่ทำให้เบรกเย็นลงเร็วขึ้นกว่าเดิม 20 % ซึ่งจะทำให้เบรกไม่ร้อนจนเกินไป นอกจากนี้ยังสามารถลดการเสื่อมสภาพของผ้าเบรกให้ช้าลง เรียกได้ว่าเป็น Hatchback สมรรถนะซุเปอร์คาร์ที่สามารถใช้งานได้ทุกวัน
DNA ความเป็นรถสปอร์ต
การออกแบบ The New Audi RS3 Sportback เน้นให้รถมีความสปอร์ตและดุดันมากยิ่งขึ้น กันชนหน้าแบบ RS และช่องดักอากาศขนาดใหญ่ขึ้น มาพร้อมกระจังหน้าลายรังผึ้ง อันเป็นเอกลักษณ์ของตระกูล RS พร้อมชุดแต่งภายนอกแบบ Glossy black และ Audi Ring และป้ายชื่อรุ่นสี Glossy black ทำให้รถสปอร์ตคอมแพ็คคันนี้ดูดุดันมากขึ้น อุปกรณ์มาตรฐาน ไฟหน้า Matrix LED และไฟท้าย LED แบบ Dynamic ซึ่งจุดเด่นของไฟหน้าจะมี digital daytime running light แบบพิกเซลล์ขนาด 3×5 ที่มาพร้อมกับเอฟเฟกต์ light staging แบบ RS3-signature ด้านฝั่งคนขับ เมื่อปลดล็อครถได้ ส่วน Daytime running light จะแสดงในรูปแบบของธงตราหมากรุก ช่องระบายอากาศบริเวณซุ้มล้อหน้าและซุ้มล้อหน้าที่กว้างขึ้นกว่ารุ่นเดิม 33 มิลลิเมตร และซุ้มล้อหลังกว้างขึ้น 10 มิลลิเมตร ทำให้รถดูดุดันมากยิ่งขึ้น ล้อขนาด 19 นิ้ว ลาย Y spoke ปั้มลาย RS และคาลิปเปอร์เบรกสีแดงปั้มลาย RS ทำให้รถดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น
นอกจากภายนอกที่ออกแบบให้ดูมีความสปอร์ตแล้ว ภายในยังมีการออกแบบที่มีเฉพาะในรุ่น RS เท่านั้น หน้าจอ Virtual cockpit plus มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แสดงรอบเครื่องยนต์ในรูปแบบ bar graph เรียกว่า RS runway design ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก runway สนามบิน และ virtual cockpit plus แสดงค่า G- forces จับเวลารอบสนามแข่ง และจับเวลา 0-100, 0-200 หรือ ¼ mile และยังมี RS -Blinking shift indicator ระบบกระพริบไฟเพื่อบอกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการใช้ paddle shift เพื่อเปลี่ยนเกียร์ในโหมด manual หน้าจอกลางขนาด 10.1 นิ้ว ที่มีชื่อว่า RS Monitor ซึ่งแสดงข้อมูล อุนหภูมิของระบบหล่อเย็น เครื่องยนต์ และน้ำมันเกียร์ รวมไปถึงค่าลมยาง
The New Audi RS3 Sportback มาพร้อมกับพวงมาลัยท้ายตัดมัลติฟังชัน สไตล์ RS sport หุ้มหนังพร้อม paddle shift และยังมีปุ่มปรับโหมด RS performance บนพวงมาลัยฝั่งด้านขวา เพื่อให้ง่ายต่อการปรับโหมด โดยไม่ต้องเอามือออกจากพวงมาลัย เบาะหน้าแบบ RS sport stitching ลาย diamond cut
ระบบอำนวยความสะดวกอื่นๆ ภายในรถไม่ว่าจะเป็น ระบบเครื่องเสียงพรีเมียม Bang &Olufsen 3มิติ หลังคา panoramic sunroof ระบบปรับอากาศแยกอิสระ 3 โซน และระบบช่วยจอด (Park assist) ซึ่งระบบจะช่วยหาที่จอดและควมคุมพวงมาลัยให้ โดยจะมีคำแนะนำเพิ่มเติมให้บนหน้าจอ MMI เพื่อให้ผู้ขับขี่เข้าเกียร์เดินหน้า-ถอยหลัง เบรกหรือเร่ง
The New Audi RS3 Sportback รถซูเปอร์คาร์ไซส์คอมแพ็ค เร้าใจเหมือนอยู่ในสนามแข่ง และตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกวัน ราคา 5.399 ล้านบาท มีให้เลือก 6 สี คือ Glacier white, Mythos black, Python yellow, Tango red, Kyalami green และ Kemora grey เปิดให้จองพร้อมกันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่โชว์รูมอาวดี้ทั่วประเทศ
Audi เป็นรถยนต์นำเข้ามาตรฐานเยอรมัน ลูกค้าที่ออกรถใหม่จะได้รับการดูแลจาก Audi Protection การรับประกันรถใหม่ 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน รถไฟฟ้า Audi e-tron ใหม่ ทุกรุ่นรับประกันแบตเตอรี่อยู่ที่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance ทั่วประเทศ 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี ลูกค้าอาวดี้สามารถมั่นใจกับงานบริการหลังการขาย ซึ่งมีมาตรฐานคุณภาพเดียวกันทุกสาขา โดยในช่วงสถานการณ์โควิดนี้ เปิดบริการในวันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 08.00-18.00 น. วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00-18.00 น. หรือโทรนัดหมายได้ที่
- Audi Centre Thailand 02-765-8888
- Audi New Petchburi 02-023-4888
- Audi Pattaya 038-197-888
- Audi Phuket 076-646-666
- Audi Service Chiang Mai 052-081-188
- Audi Service Ratchapruek 02-034-5888
- Audi Udornthani 093-161-5588
เรื่องโดย : V.SONGSAIKET