หลังจากเผยโฉมอย่างเป็นทางการในไทยเมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในที่สุด Subaru Forester โฉมใหม่ ก็ได้ฤกษ์ประกาศราคาจำหน่ายแล้วในงาน Motor Expo 2022
Subaru Forester ใหม่ มีราคาจำหน่ายดังนี้
- รุ่น 2.0 i-L Eyesight ราคา 1,450,000 บาท
- รุ่น 2.0 i-S Eyesight ราคา 1,550,000 บาท
Forester ใหม่ ได้รับการปรับโฉมภายนอกให้ดูไดนามิกมากขึ้น ปรับดีไซน์ของกระจังหน้า ไฟหน้า และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ขณะที่การปรับดีไซน์ภายในมาพร้อม ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารเป็นไฟ LED ให้ความสว่างและกินพลังงานต่ำ รวมถึงขอเกี่ยวด้านบนบริเวณพื้นที่เก็บสัมภาระ ใช้งานได้จริงและสะดวก เป็นอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นจากขอเกี่ยว 4 จุดที่อยู่ด้านล่าง (เหมาะสำหรับครอบครัวที่ชอบกิจกรรมผจญภัยกลางแจ้ง)
โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Eyesight 4.0 อันเป็นคุณสมบัติที่ยกระดับความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับ จากกล้องสเตอริโอคู่หน้าที่ได้รับการพัฒนาใหม่ และถูกติดตั้งไว้ใกล้ตำแหน่งของกระจกมองหลัง สามารถตรวจจับวัตถุได้ในวงกว้างและแม่นยำ
EyeSight 4.0 มีระบบความปลอดภัยมากถึง 9 ระบบ โดยรวม 3 ระบบใหม่ไว้ด้วย ดังนี้
- Autonomous Emergency Steering ระบบบังดับพวงมาลัยฉุกเฉินอัตโนมัติ ช่วยหักหลบจากรถหรือวัตถุที่อยู่ด้านหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงการชน (ระบบทำงานที่ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่โมง)
- Adaptive Cruise Control (ACC) with Lane Centering Function ระบบไปและหยุดตามคันหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบดวบคุมรถให้อยู่กลางเลน
- Lane Departure Warning include Lane Departure Prevention ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลนพร้อมระบบบังคับรถกลับเข้าเลน (ระบบทำงานที่ความเร็วตั้งแต่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป)
EyeSight 4.0 ยังมาพร้อมระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ Pre-Collision Braking , ระบบตรวจจับวัตถุด้านหลัง Subaru Rear Vehicle Detection (SRVD ) และระบบไฟหน้าอัจฉริยะปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ High Beam Assist (HBA)
นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบ X-MODE ที่จะช่วยให้ผู้ขับฝ่าเส้นทางขรุขระและท้าทาย และยิ่งทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร “Symmetrical All-Wheel Drive” ของซูบารุ ผู้ขับจะยิ่งมั่นใจ เอาชนะได้แม้เส้นทางสุดโหด หรือทางชันที่ลื่น ผู้ขับสามารถเลือกใช้โหมด Snow/Dirt และ Deep Snow/Mud เพื่อให้เหมาะสมกับเส้นทาง
ระบบ X-MODE จะอยู่ที่ Stand by เมื่อใช้ความเร็วรถเกินกว่า 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจะทำงานกลับมาทำงานอัตโนมัติ เมื่อความเร็วรถลดลงต่ำกว่า 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนน โดยเฉพาะเส้นทางที่มีความยากลำบากที่ต้องใช้ระบบ X-MODE
ใต้ผากระโปรงติดตั้งเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ แบบสูบนอนขนาด 2.0 ลิตร ไดเร็กอินเจ็กชัน ที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 196 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผัน CVT (Lineartronic Continuously Variable Transmission) พร้อมโหมดแมนนวล 7 สปีด
สีภายนอกใหม่ 3 สี ได้แก่ สีเงิน บริลเลียนท์ บรอนซ์ เมทัลลิก (Brilliant Bronze Metallic) สีเขียว แคสเคด กรีน ซิลิกา (Cascade Green Silica) และ สีเทา แมกนิไทต์ เกรย์ เมทัลลิก (Magnetite Gray Metallic)