Mazda ประกาศแผนงานที่สำคัญเกี่ยวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ในอนาคต โดยยืนยันว่าบริษัทจะเปิดตัว CX-50, CX-60, CX-70, CX-80 และ CX-90 ในปี 2022 และ2023 เพื่อขยายไลน์อัพรถเอสยูวีในปัจจุบันให้มากขึ้น
เริ่มจาก CX-50 จะเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ขนาดเล็ก Small Product ซึ่งจะแชร์แพลตฟอร์มกับ Mazda3 และ CX-30 โดยวางจำหน่ายในตลาดสหรัฐฯ เท่านั้น ขณะที่รถเอสยูวีอีก 4 รุ่นที่เหลือจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ่ Large Product โดย CX-60 จะวางจำหน่ายในตลาดญี่ปุ่น ยุโรป และอื่นๆ ในรูปแบบห้องโดยสาร 2 แถว
CX-80 จะมาพร้อมห้องโดยสาร 3 แถวซึ่งออกแบบมาเพื่อวางจำหน่ายในยุโรปและญี่ปุ่น ในทางตรงกันข้าม CX-70 จะมาในรูปแบบ 2 แถวที่มีขนาดตัวถังกว้าง เช่นเดียวกับ CX-90 ที่มีห้องโดยสารแบบ 3 แถว ซึ่งถูกกำหนดไว้สำหรับตลาดอเมริกาเหนือและอื่นๆ
เนื่องจาก Mazda ต้องการเปลี่ยนให้รถยนต์ทุกรุ่นขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าภายในปี 2030 ดังนั้นเอสยูวีรุ่นใหม่ของ Mazda ที่จะเปิดตัวในปี 2022 และ 2023 จึงถูกนำเสนอด้วยระบบไฮบริด โดย CX-60 และ CX-80 จะมีระบบส่งกำลังแบบปลั๊กอินไฮบริดพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ นอกจากนี้ยังได้มีการนำเสนอเครื่องยนต์ Skyactiv-X (เบนซิน) และ Skyactive-D (ดีเซล) เจนเนอเรชั่นใหม่ที่ติดตั้งระบบไมลด์ไฮบริด 48 โวลต์ด้วย
CX-70 และ CX-90 จะนำเสนอทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเทอร์โบชาร์จเจอร์และเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด สุดท้ายในญี่ปุ่น Mazda จะนำเสนอเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ Skyactive-D พร้อมระบบไมลด์ไฮบริด 48 โวลต์ และรุ่นปลั๊กอินไฮบริด
นอกจากกลุ่มรถยนต์รุ่นใหม่แล้ว Mazda ยังยืนยันอีกว่า MX-30 EV ที่มีเครื่องยนต์โรตารี่เป็นตัวขยายระยะทางจะเปิดตัวในครึ่งแรกของปี 2022 ด้วยเช่นกัน