ล่าสุดผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกาอย่าง Ford ได้ออกมาประกาศยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาของเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนมากถึง 307%
โดยทาง Ford สามารถขายรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาได้จำนวนทั้งสิ้น 5,897 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้วมากถึง 307% และคิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 3.9% (รถยนต์ไฟฟ้า) โดยยอดขายทั้งหมดมาจากรถไฟฟ้าดังต่อไปนี้
- Ford Mustang Mach-E : 3,120 คัน (เพิ่มขึ้น 115% จากปีที่แล้ว)
- Ford F-150 Lightning : 2,373 คัน (รถรุ่นใหม่)
- Ford E-Transit : 404 คัน (รถรุ่นใหม่)
โดยสาเหตุที่ทำให้ยอดขายของ Ford เติบโตอย่างก้าวกระโดดในเดือนนี้ นั่นก็เป็นเพราะว่าในมีรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ถึง 2 รุ่นที่เป็นรถรุ่นใหม่ซึ่งยังไม่มีขายในปีก่อนหน้า จึงทำให้ตัวเลขยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของพวกเขานั้นพุ่งสูงขึ้น รวมถึงยอดขายของ Mustang Mach-E ที่เพิ่มขึ้นมากถึง 115% จากปีที่แล้ว
ในปัจจุบัน Ford ถือได้ว่าเป็นผู้เล่นอันดับที่ 2 ในตลาดรถไฟฟ้าของประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นรองเพียงแค่ Tesla ซึ่งมียอดขายที่สูงกว่า Ford มากถึง 60% ต้องมารอดูกันว่าบริษัทรถยนต์ที่มีอายุกว่า 100 ปีนั้นจะแซงหน้า Tesla ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าได้หรือไม่
ขอบคุณข้อมูลจาก : insideevs.com