ล่าสุดในงาน Motor Show 2023 ที่ผ่านมา บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ BYD ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ได้ประกาศเปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่นน้องเล็กอย่าง BYD Dolphine ด้วยราคา 799,000 บาท ซึ่งหลายๆคนคิดว่าราคานี้ แพงกว่าที่ควรจะเป็น รวมถึงสเปกของขุมพลังที่ดูจะธรรมดาไปเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด
และด้วยราคาค่าตัว 799,000 บาท มันเลยไปใกล้เคียงกับเจ้าแมวไฟฟ้าอย่าง Ora Good Cat รุ่นย่อย 400 Pro ซึ่งมีราคาขายอยู่ที่ 828,000 บาท วันนี้เรานำรถไฟฟ้า 2 รุ่นนี้มาเปรียบเทียบกัน ว่าใครจะมีจุดเด่นและจุดด้อยอะไรที่น่าสนใจบ้าง
ขนาดมิติตัวถัง
ขนาดของตัวรถ เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อรถของใครหลายๆคน ก่อนอื่นเรามาดูขนาดมิติตัวถังของรถทั้ง 2 คันกันก่อนครับ
BYD Dolphine – ยาว 4,150 มิลลิเมตร x กว้าง 1,770 มิลลิเมตร x สูง 1,570 มิลลิเมตร
Ora Good Cat – ยาว 4,235 มิลลิเมตร x กว้าง 1,825 มิลลิเมตร x สูง 1,596 มิลลิเมตร
หากเปรียบเทียบระหว่างรถทั้ง 2 คันจะพบว่า BYD Dolphine สั้นกว่า 8.5 ซม. แคบกว่า 5.5 ซม. และเตี้ยกว่า 2.6 ซม.
แบตเตอรี่ – ระยะทางที่วิ่งได้
มาถึงสิ่งที่คนน่าจะให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ นั่นก็คือ ปริมาณของแบตเตอรี่และระยะทางที่วิ่งได้ โดยรถทั้ง 2 รุ่นจะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ดังต่อไปนี้
BYD Dolphine – มาพร้อม BYD Blade Battery ขนาด 44.9 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 410 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) รองรับ DC Fast Charge สูงสุดที่ 60kWh
Ora Good Cat – มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion Phosphate (LFP) ขนาด 47.8 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 400 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) รองรับ DC Fast Charge สูงสุดที่ 60kWh
ดูเหมือนว่า เจ้าโลมา BYD Dolphine จะมีระยะทางวิ่งที่ไกลกว่า Good Cat อยู่เล็กน้อย (10 กิโลเมตร) แต่ขนาดตัวถังที่กว้างกว่า รวมถึงมอเตอร์ไฟฟ้าที่แรงกว่า เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Ora Good Cat ที่มีขนาดแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่า แต่กลับวิ่งได้สั้นกว่า Dolphine นั่นเอง
มอเตอร์ไฟฟ้า – กำลังแรงม้า
มาต่อกันที่ขุมพลังของรถทั้งสองคัน ซึ่งมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า “เดี่ยว” และขับเคลื่อนล้อหน้าเหมือกัน แต่มีกำลังสูงสุดที่แตกต่างกันดังนี้
BYD Dolphine – มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวกำลังสูงสุด 94 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้า
Ora Good Cat – มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวกำลังสูงสุด 143 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้า
ในหัวข้อนี้ Ora Good Cat ชนะ BYD Dolphine ไปแบบขาดลอย นั่นก็เป็นเพราะกำลังแรงม้าที่มากกว่าถึง 49 แรงม้า ซึ่งถือว่าเยอะพอสมควรและน่าจะส่งผลต่ออัตราเร่งและความสนุกในการขับไม่น้อยเลย
ออปชั่นความปลอดภัย
อีกหนึ่งส่วนสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจ นั่นก็คือ “ออปชั่นความปลอดภัย” โดยรถทั้ง 2 คันมีออปชั่นความปลอดภัยดังต่อไปนี้
ออปชั่นความปลอดภัยของ BYD Dolphine
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP
- ระบบป้องกันการลื่นไถล TCS
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า FCW
- ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องเลน LKA
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันจนถึงจุดหยุดนิ่ง ACC Stop & Go
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
- กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
ออปชั่นความปลอดภัยของ Ora Good Cat
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)
- กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินบนทางตรงและทางแยก (AEBI)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า (FCW)
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ (LSEB)
- ระบบช่วยเสี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
- ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK)
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า, ด้านข้างและม่านถุงลม) พร้อมสวิตซ์ปิดถุงลมนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS)
- ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC)
- ระบบป้องกันล้อล็อค (ABS) และระบบกระจ่ายแรกเบรก (EBD)
- ระบบควบคุมการทรงตัว (ESC)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางซัน (HSA)
- ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS)
- เซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด
- ระบบช่วยเตือนป้ายจราจร
- ระบบช่วยเตือนเมื่อความเร็วสูงเกินที่กำหนด
- กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
หากเปรียบเทียบออปชั่นความปลอดภัยระหว่างรถทั้ง 2 รุ่นนี้ ดูมเหนือว่าจะมีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกันบางส่วน โดย BYD Dolphine จะได้เปรียบตรงระบบ Adaptive Cruise Control จะทำงานถึงจุดหยุดนิ่ง (Ora Good Cat ไม่ทำงานถึงจุดหยุดนิ่ง) รวมถึงระบบเปิด-ปิดไฟสูง อัตโนมัติ (Ora Good Cat ไม่มี) แต่เจ้าแมวดีจะได้เปรียบตรงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ซึ่งจะช่วยประคองพวงมาลัยให้กับผู้ขับขี่ในขณะเข้าโค้ง และขณะที่ Dolphine จะมีระบบช่วยประคองรถให้อยู่ในเลนเมื่อวิ่งทางตรงเป็นหลัก
ราคา การรับประกัน และสิทธิประโยชน์
ปิดท้ายกันที่ราคาและการรับประกันของรถทั้ง 2 รุ่น ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
BYD Dolphine ราคา 799,000 บาท
- รับประกันตัวรถ (Warranty) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร
- รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง 8 ปี
- ฟรี ค่าบริการบำรุงรักษา ค่าแรง ค่าอะไหล่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
- ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พรบ. ระยะเวลา 1 ปี*
- โฮมชาร์จเจอร์พร้อมการติดตั้ง, สายต่อพ่วงอุปกรณ์ไฟฟ้า VtoL และสายชาร์จเคลื่อนที่ Portable Charger
Ora Good Cat 400 Pro ราคา 828,000 บาท
- ฟรี ค่าอะไหล่และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง สูงสุด 5 ครั้ง ภายใน 5 ปี หรือ 75,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน (ไม่รวมอะไหล่สิ้นเปลือง)
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ( Roadside Assistance ) ตลอด 24 ชั่วโมง ฟรี 5 ปี มูลค่า 10,000 บาท
- การรับประกันคุณภาพรถใหม่ ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- การรับประกันแบตเตอรี่ EV เป็นระยะเวลา 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ฟรี GWM โฮมชาร์จเจอร์พร้อมติดตั้งในระยะสายไฟยาวไม่เกิน 20 เมตร 1 ครั้ง จากตู้ควบคุมไฟฟ้าในบ้าน (ตู้เมน) (ไม่รวมแท่นชาร์จ หากต้องการติดตั้งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมและผู้รับการติดตั้งต้องตรวจสอบและเตรียมมิเตอร์ไฟที่สามารถใช้กับโฮมชาร์จเจอร์ด้วยตนเอง) มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 60,000 บาท
- ฟรีประกันภัยรถยนต์ ชั้น1
ดูเหมือนว่า Dolphine จะได้การรับประกันตัวรถและบริการช่อยเหลือฉุกเฉินที่นานกว่าถึง 3 ปี (Good Cat รับประกันตัวรถและบริการช่วยเหลือ 5 ปี) รวมถึงยังได้บริการฟรี ค่าบริการบำรุงรักษา ค่าแรง ค่าอะไหล่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร ซึ่ง Ora Good Cat จะได้แพคเกจฟรี ค่าอะไหล่และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง สูงสุด 5 ครั้ง ภายใน 5 ปี หรือ 75,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน (ไม่รวมอะไหล่สิ้นเปลือง)
สำหรับท่านที่สนใจรถไฟฟ้าทั้ง 2 รุ่นนี้ สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยรายละเอียดต่างๆอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตามนโยบายของแต่ละบริษัทครับ