All-New Honda CR-V ราคา

All-New Honda CR-V เปิดตัวในไทยพร้อมขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV เคาะเริ่ม 1.419 ล้านบาท

All-New Honda CR-V เจเนอเรชั่นที่ 6 ได้รับการเปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการในไทย มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม รองรับทุกไลฟ์สไตล์กับเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง มี Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย และครั้งแรกกับการนำเสนอระบบฟูลไฮบริด e:HEV ใน CR-V

ภายนอก

  • กระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีดำ Piano Black และกระจังหน้าสีดำ Piano Black ตกแต่งด้วยโครเมียม (เฉพาะรุ่น E)
  • กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ปรับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ
  • ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential
  • ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
  • ไฟท้ายแบบ LED
  • หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof)
  • ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-Free Power Tailgate with Walk Away Close)
  • เสาอากาศครีบฉลาม
  • ปลอกท่อไอเสียสเตนเลสคู่
  • ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว

รุ่น RS ยกระดับความสปอร์ตรอบคัน (รุ่น e:HEV RS 4WD)

  • เสริมสัญลักษณ์ RS บนกระจังหน้า
  • กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวสีดำ Piano Black
  • กันชนหน้าและหลังสีเดียวกับตัวรถ
  • ชายกันกระแทกด้านข้างสีเดียวกับตัวรถ
  • คิ้วตกแต่งประตูข้างสีดำ Gloss Black
  • ไฟตัดหมอกหลังแบบ LED
  • สปอยเลอร์หลังสีเดียวกับตัวรถและสีดำ Piano Black
  • เสาอากาศครีบฉลามสีดำ Piano Black
  • ล้ออัลลอย 19 นิ้ว แบบสปอร์ต

ภายในห้องโดยสาร

  • ชุดตกแต่งภายในลายอะลูมิเนียมปัดเงาและสีดำ Piano Black
  • เบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
  • พวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
  • แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต
  • ะบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ พร้อม Honda Smart Key Card (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
  • ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ (Driver Memory Seat)
  • ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร (Ambient Light) ที่ได้รับการติดตั้งในหลายตำแหน่งเป็นครั้งแรกใน ซีอาร์-วี อาทิ ถาดคอนโซลกลาง แผงประตูหน้าและหลัง และที่วางแก้ว
  • ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster (รุ่น e:HEV ES และ e:HEV RS 4WD)
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย/ขวา แบบ i-Dual Zone (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
  • ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 3 (เฉพาะรุ่น EL 4WD)
  • ไฟอ่านหนังสือด้านหลัง LED แบบสัมผัส

  • เบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Sliding) เลื่อนและแยกพับแบบ 60:40
  • รุ่นเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้าน สามารถปรับพับลงแนวราบได้เรียบ (Utility Mode) ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย และสามารถปรับพับเบาะด้านหน้าและด้านหลัง (Long Mode) เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
  • รุ่นเบาะโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง (เฉพาะรุ่น EL 4WD) สามารถปรับพับเบาะด้านหลังแถวที่ 3 เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้ายในขณะที่ผู้โดยสารแถว 2 สามารถนั่งได้อย่างสะดวกสบาย หรือปรับพับเบาะทั้งแถวที่ 2 และ 3 ลงแนวราบ (Utility Mode) เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย และสามารถปรับพับเบาะด้านหน้าและด้านหลังทั้งแถวที่ 2 และ 3 (Long Mode) เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว

มีขุมพลังให้เลือก 2 รูปแบบ ได้แก่

ครั้งแรกกับระบบฟูลไฮบริด e:HEV ใน CR-V ใหม่

  • ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ใหม่ขนาด
    0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่มีประสิทธิภาพสูง ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 335 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 2,000 รอบต่อนาที มอบอัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 20.8 กม./ลิตร* (รุ่น e:HEV ES) และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 113 กรัม/กิโลเมตร
  • โดยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานได้อย่างชาญฉลาด เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ใน 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
  • มาพร้อมสวิตซ์โหมดการขับขี่ (Drive Mode Switch) ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ตามสไตล์ได้อย่างง่ายดาย ได้แก่ โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode) โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode) และโหมดการขับขี่แบบประหยัด (Econ Mode)

เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Direct Injection DOHC VTEC TURBO 4 สูบ 16 วาล์ว ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Direct Injection และ Turbocharger ขับสนุก อัตราเร่งทันใจ มอบกำลังสูงสุด 190 แรงม้า
ที่ 6,000 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) และมีอัตรา
การประหยัดน้ำมันสูงสุด 14.3 กม./ลิตร (รุ่น E) และรองรับน้ำมัน E85

พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ในทุกรุ่นย่อย โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) หรือ ครั้งแรกกับระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD) ที่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับองศาของแสงไฟเพื่อลดการรบกวนรถด้านหน้าและคนเดินถนน
  • ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
  • ใหม่ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) (ยกเว้นรุ่น E)
  • ใหม่ เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด
  • ใหม่ ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
  • ใหม่ ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL)
  • ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
  • ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor)
  • ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) (รุ่น e:HEV ES และ e:HEV RS 4WD)
  • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)

All-New Honda CR-V มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย และมีราคาจำหน่าย ดังนี้

  • ระบบฟูลไฮบริด e:HEV มาพร้อม 2 รุ่นย่อย ได้แก่
  • รุ่น e:HEV RS 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,729,000 บาท
  • รุ่น e:HEV ES 5 ที่นั่ง ราคา 1,589,000 บาท
  • เครื่องยนต์เทอร์โบ มาพร้อม 3 รุ่นย่อย ได้แก่
  • รุ่น EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,649,000 บาท
  • รุ่น ES 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,599,000 บาท
  • รุ่น E 5 ที่นั่ง ราคา 1,419,000 บาท

โดยมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่ สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD และ e:HEV ES สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD สีขาวแพลทินัม (มุก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีดำคริสตัล (มุก)

บทความที่น่าสนใจ

เหนือล้ำท้าทายทุกสนามกับ The new Porsche 718 Cayman GT4 Clubsport สายพันธุ์แรง ที่มาพร้อมตัวถัง natural-fibre

idiot

Bertone เผยโฉมซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่ พร้อมรักษาจิตวิญญาณเครื่องยนต์ V-10 ไว้

admin bell

OMODA & JAECOO คว้ารางวัล Best off Road EV ในงาน Car of The Year 2025 ประกาศความมุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต

palm

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy