fbpx
2024 Honda City ปรับดีไซน์ เพิ่มรุ่นย่อย ใส่ Honda SENSING ในทุกรุ่น

2024 Honda City ปรับดีไซน์ เพิ่มรุ่นย่อย ใส่ Honda SENSING ในทุกรุ่น เคาะเริ่ม 629,000 บาท

2024 Honda City รุ่นปรับโฉมใหม่ ได้รับการเปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการในไทย มาพร้อมการปรับดีไซน์ใหม่เพิ่มความสปอร์ตยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ e:HEV SV และนำเสนอ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 629,000 บาท

ภายนอก

    • กันชนหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่
    • กระจังหน้าโครเมียม
    • ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
    • ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
    • มือจับประตูด้านนอกโครเมียม (รุ่น SV และ e:HEV SV)
    • กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว
    • ฝาครอบกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ
    • เสาอากาศแบบครีบฉลามสีเดียวกับตัวรถ
    • ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว (รุ่น V) แบบทูโทน (รุ่น SV) และแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว (รุ่น e:HEV S

เสริมความสปอร์ตยิ่งขึ้นกับรุ่น RS และ รุ่น e:HEV RS

    • กระจังหน้าสีดำเงาดีไซน์ใหม่ เสริมความสปอร์ตแบบ RS
    • กันชนหน้า กันชนหลัง สเกิร์ตข้าง ดีไซน์ใหม่ เสริมความสปอร์ตแบบ RS
    • สปอยเลอร์หลังดีไซน์สปอร์ตแบบ RS
    • ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
    • มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ  (รุ่น RS และ e:HEV RS)
    • ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
    • ฝาครอบกระจกมองข้างสีดำเงา
    • ระบบปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาพร้อมระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (รุ่น e:HEV RS)
    • เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำเงา
    • ล้ออัลลอยแบบทูโทนสไตล์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว

ภายใน

    • วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าสีเงิน (เฉพาะรุ่น V) และสีดำ Piano Black (เฉพาะรุ่น SV และ e:HEV SV)
    • วัสดุหุ้มเบาะผ้า (เฉพาะรุ่น V) และวัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำ (เฉพาะรุ่น SV และ e:HEV SV)
    • มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม  

ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมยิ่งขึ้นกับรุ่น RS และรุ่น e:HEV RS

    • วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าสีแดงเมทัลลิก
    • วัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง

ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ อาทิ

    • มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
    • ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ  Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS)
    • ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth
    • พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
    • พวงมาลัยปรับระดับ 4 ทิศทาง
    • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) (รุ่น RS และ e:HEV RS)
    • ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
    • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
    • ปุ่ม ECON
    • ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง ด้านหลังแบบ Type-C 2 ตำแหน่ง (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
    • ลำโพง 8 ตำแหน่ง (รุ่น RS และ e:HEV RS)
    • กระจกมองหลังแบบตัดแสง
    • แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกแต่งหน้าแบบมีฝาปิดด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า (รุ่น RS และ e:HEV RS)
    • ไฟอ่านแผนที่และไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร
    • ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระท้าย
    • พนักเท้าแขนด้านหน้า
    • พนักเท้าแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้ว (รุ่น RS และ e:HEV RS)
    • ช่องเก็บของหลังเบาะนั่งคนขับและหลังเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมช่องเก็บของขนาดเล็ก (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
    • ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT (รุ่น RS และ e:HEV RS)
    • ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System)
    • ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)

พร้อมด้วยเทคโนโลยีและความปลอดภัยครบครัน อาทิ

    • ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) (รุ่น e:HEV RS)
    • กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera) (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS)
    • ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
    • ระบบ Auto Brake Hold (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
    • ถุงลมคู่หน้า
    • ถุงลมด้านข้างคู่หน้า
    • ม่านถุงลมด้านข้าง (รุ่น RS และ e:HEV RS)
    • ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติ (Auto Door Lock by Speed)
    • ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
    • ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)
    • ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า
    • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
    • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ
    • เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าและหลังแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง
    • ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมระบบสัญญาณกันขโมย
    • ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
    • จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
    • ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
    • ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
    • สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)

มี 2 ขุมพลังขับเคลื่อนให้เลือก ได้แก่

  • ขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และ แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน มอบแรงบิดมอเตอร์สูงสุดที่ 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 3,000 รอบต่อนาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมั27.8 กิโลเมตร/ลิตร และรองรับพลังงานทางเลือก E20 พร้อมโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ EV Drive Mode, Hybrid Drive Mode และ Engine Drive Mode

  • ขุมพลัง TURBO กับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว ที่มาพร้อม Turbo Charger มอบกำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) ให้อัตราการประหยัดน้ำมัน 23.8 กิโลเมตร/ลิตร และรองรับพลังงานทางเลือก E20

Honda City ใหม่ ในทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์ คนเดินถนน จักรยาน และจักรยานยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบไปด้วย 6 ฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC) (รุ่น V, SV และ RS) พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (with Low-Speed Follow: with LSF) (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
  • ใหม่ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)

Honda City ใหม่ มีวางจำหน่ายทั้งหมด 5 รุ่นย่อย แบ่งเป็น
Honda City e:HEV ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย
รุ่น e:HEV RS ราคา 839,000 บาท
รุ่น e:HEV SV ราคา 769,000 บาท

Honda City Turbo ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย
รุ่น RS ราคา 749,000 บาท
รุ่น SV ราคา 679,000 บาท
รุ่น V ราคา 629,000 บาท

สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีน้ำเงินออบซิเดียน (มุก) (เฉพาะรุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS) สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) (เฉพาะรุ่น RS และ e:HEV RS) สีขาวแพลทินัม (มุก) (เฉพาะรุ่น SV, RS, e:HEV SV, และ e:HEV RS) สีดำคริสตัล (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) และสีขาวทาฟเฟต้า (เฉพาะรุ่น V)

บทความที่น่าสนใจ

รถไฟพลังแบตเตอรี่ 700 kW ของ Hitachi: ก้าวสำคัญสู่การขนส่งที่ยั่งยืนในสหราชอาณาจักร

admin bell

หลุดภาพสิทธิบัตรกระบะ BYD ก่อนเปิดตัวปลายปี 2023 นี้

idiot

Rolls-Royce กระโดดเข้าร่วมวงการรถยนต์ไฟฟ้า คาดเปิดตัวก่อนปี 2030

idiot

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy