fbpx
Mercedes-AMG ONE

2023 Mercedes-AMG One เปิดตัวพร้อมขุมพลังไฮริด 1,049 แรงม้า ท็อปสปีด 352 กม.ต่อชม.

เป็นเวลาเกือบ 5 ปีหลังจาก Mercedes-Benz เคยพูดว่าจะยัดเทคโนโลยีจากรถแข่ง Formula 1 เข้าไปในรถที่วิ่งบนถนนได้ถูกต้องตามกฎหมาย ในที่สุดวันนี้พวกเขาก็ได้ทำตามสัญญา เปิดตัว 2023 Mercedes-AMG One ไฮเปอร์คาร์ไฮบริดสุดพลังระดับ 1,049 แรงม้า พร้อมตัวเลขความเร็วที่ทำได้สูงถึง 352 กม.ต่อชม.

รูปลักษณ์ภายนอกของ 2023 Mercedes-AMG One นั้นเกือบจะเหมือนกับรถต้นแบบที่เปิดตัวในปี 2017 โดยยังคงไว้ตั้งแต่สกู๊ปดักลมบนหลังคา ครีบกลาง ช่องระบายอากาศแบบแอคทีฟที่ซุ้มล้อหน้า ประตูแบบเปิดขึ้นด้านบน และสปอยเลอร์หลังแบบแอ็คทีฟ

อย่างไรก็ตามส่วนท้ายได้มีการออกแบบใหม่เล็กน้อย โดยเพิ่มลิปสปอยเลอร์ที่เด่นชัดกว่าเหนือไฟท้าย LED และความแตกต่างเล็กน้อยบนดิฟฟิวเซอร์ขนาดใหญ่ที่มีท่อไอเสีย 3 ท่อที่ได้แรงบันดาลใจจากรถสูตรหนึ่ง

การเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ยังรวมถึงฝาครอบเครื่องยนต์คาร์บอนไฟเบอร์แบบถอดได้ซึ่งรวมเข้ากับช่องดักอากาศ NACA ขนาดใหญ่ และกระจกมองข้างที่ใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมล้ออะลูมิเนียมฟอร์จ 10 ก้านใหม่ที่มีฝาครอบคาร์บอนไฟเบอร์ตามหลักอากาศพลศาสตร์ และมีล้อแม็กนีเซียมฟอร์จ 9 ก้านเป็นออปชั่นเสริม

ระบบแอโรไดนามิกแบบแอคทีฟของ 2023 Mercedes-AMG One ถูกควบคุมด้วยระบบไฮดรอลิกซึ่งสามารถปรับได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ “Highway” มีไว้สำหรับบการใช้งานทั่วไป แบบถัดมาคือ “Track” ช่วยเพิ่มแรงกดขึ้นถึง 5 เท่า และ “Race DRS” ที่ช่วยลดแรงกดลง 20 เปอร์เซ็นต์ โดยทั้ง 3 แบบนี้จะมีการปรับรูปแบบของปีกหลัง ช่องระบายอากาศ รวมถึงลดความสูงของรถแตกต่างกันออกไป

2023 Mercedes-AMG One ทรงพลังด้วยขุมพลังไฮบริดจากแบรนด์ E Performance ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ V6 ขนาด 1.6 ลิตร พ่วงเทอร์โบไฟฟ้า และมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว ผลิตกำลังรวมสูงสุด 1,049 แรงม้า (HP) และรีดรอบได้สูงถึง 11,000 รอบต่อนาที

ระบบส่งกำลังเพลาหลังของไฮเปอร์คาร์รุ่นนี้เป็นแบบไฮบริด มาพร้อมเกียร์ธรรมดาอัตโนมัติ 7 สปีดที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ ในขณะที่เพลาหน้าใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ทำงานผ่าน AMG Performance 4Matic+ พร้อมระบบควบคุมแรงบิดบนเพลาหน้าช่วยให้การยึดเกาะที่ดีที่สุด นอกจากนี้มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้ายังสามารถกู้คืนพลังงานได้มากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ในระหว่างการลดความเร็ว ซึ่งจะช่วยชาร์จแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 8.4 kWh และให้ระยะการวิ่งโดยใช้ไฟฟ้า 18.1 กม.

ผู้ขับสามารถเข้าถึงโหมดการขับขี่ได้ 6 โหมด ประกอบด้วย Race Safe, Race, EV, Race Plus, Strat 2 และ Individual พร้อมก้วยฟังก์ชั่น Race Start ที่ช่วยให้ทำอัตราเร่ง 0-200 กม.ต่อชม. ภายใน 7 วินาที ขณะที่ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดที่ 352 กม.ต่อชม.

2023 Mercedes-AMG One ใช้แชสซีโมโนค็อกคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีซับเฟรมอะลูมิเนียมด้านหน้าและด้านหลัง ระบบกันสะเทือนแบบไฟว์ลิ้งค์และสตรัทกันสะเทือนแบบปรับได้ 2 ตัวในแต่ละเพลา สามารถปรับตั้งค่าได้ทั้ง Comfort, Sport และ Sport+ โดยแบบหลังสุดจะลดระดับด้านหน้าลง 37 มม. และด้านหลังลง 30 มม. เพื่อประโยชน์ในการควบคุมรถและแอโรไดนามิก นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นการยกเพลาหน้าสำหรับการขับขี่บนทางลาดหรือทางลาดชันด้วย

เปิดประตูเข้าห้องโดยสารจะพบกับเบาะนั่งสไตล์รถแข่ง พวงมาลัยสไตล์ F1 พร้อมไฟเปลี่ยนเกียร์และปุ่มในตัวปรับด้วยระบบไฟฟ้า และแป้นเหยียบคันเร่งที่สามารถปรับได้ ช่วยให้ผู้ขับขี่ค้นหาตำแหน่งการขับขี่ที่เหมาะสมที่สุดได้

ที่อื่นๆ ยังพบจอแสดงผลขนาด 10 นิ้ว 2 จอ สำหรับแสดงข้อมูลการขับขี่และระบบสาระบันเทิง มีกระจกมองหลังแบบดิจิทัลที่แสดงภาพเรียลไทม์จาก MirrorCam และการตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์แบบเปลือยทั่วทั้งห้องโดยสาร ผสมผสานกับหนัง Nappa และเบาะไมโครไฟเบอร์ Dinamica สีดำ

2023 Mercedes-AMG One จะถูกผลิตจำกัดเพียง 275 คัน และทุกคันถูกจองไปหมดแล้วในราคา 2.72 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 93 ล้านบาท ขณะที่การเปิดตัวต่อสาธารณชนจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ที่งาน Goodwood Festival of Speed 2022

 

CR : Carscoops

บทความที่น่าสนใจ

Bugatti สร้างสถิติยอดขายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยยอดขาย 80 คันในปี 2022

Nopkung

5 เหตุผลที่คนชื่นชอบ และขี่รถมอเตอร์ไซค์สไตล์คลาสสิก อย่าง Royal Enfield

idiot

Mazda ย่องจดสิทธิบัตรที่ญี่ปุ่น ในชื่อรุ่น MX-6 แต่ยังคลุมเครือกว่าจะเป็นรถสปอร์ตคันใหม่หรือไม่

idiot

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy