fbpx
์NEDC WLTP EPA Test

มาตรฐานวัดระยะทางรถไฟฟ้า NEDC / WLTP / EPA เรื่องที่คนใช้รถไฟฟ้าต้องรู้ !!

ปัจจัยสำคัญข้อหนึ่งของรถยนต์ EV หรือรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ผู้คนให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆก็คือ ระยะทางที่วิ่งได้สูงสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งมาตรฐานที่ทำการทดสอบระยะทางสูงสุดที่วิ่งได้ในปัจจุบันหลักๆแล้วจะมีทั้งหมด 4 มาตรฐาน ได้แก่ NEDC , WLTP , EPA และ CLTC ซึ่งในัวันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับวิธีการทดสอบของมาตรฐานทั้ง 4 แบบว่าจะแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

 

NEDC – New European Driving Cycle

 

"<yoastmark

เรามาเริ่มกันที่มาตรฐาน NEDC หรือ New European Driving Cycle ซึ่งเป็นมาตรฐานที่บริษัทรถยนต์ในประเทศไทยนิยมใช้กันมากที่สุด ซึ่งเป็นมาตรฐานที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงยุค 80s โดยการทดสอบจะเน้นไปที่การทดลองในห้องวิจัย จึงทำให้ค่าที่ได้ออกมานั้นอาจเกิดความคลาดเคลื่อนได้ง่าย ซึ่งในจุดนี้เองทำให้ผู้ผลิตรถยนต์เลือกที่จะใช้มาตรฐานนี้ในการโฆษณา เนื่องจากเมื่อเทียบกับการทดสอบด้วยมาตรฐานอื่นๆมักจะได้ค่าที่สูงกว่าความเป็นจริงอยู่มาก จนหลายๆคนแซวกันว่าจริงๆแล้วย่อมาจาก Never Even Damn Close ที่แปลเป็นไทยได้ว่า “มันไม่ได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงเลย” !!

WLTP – Worldwide Harmonised Light Vehicle Test Procedure

 

WLTP
WLTP – Worldwide Harmonised Light Vehicle Test Procedure


มาต่อกันที่ WLTP หรือ Worldwide Harmonised Light Vehicle Test Procedure เป็นหน่วยงานที่กำลังจะเข้ามาแทนที่ NEDC ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์การวัดให้มีความเที่ยงตรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีการทดสอบจากสถานการณ์จริงบนท้องถนนเข้ามาเป็นส่วนประกอบในการทดสอบด้วย เพื่อให้ได้ค่าออกมาตรงกับความเป็นจริงให้ได้มากที่สุด โดยความเร็วที่ใช้ในการทดสอบจะอยู่ที่ 47 – 132 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีการจำลองอุณหภูมิที่สูงและสภาพแวดล้อมที่แย่กว่าการทดสอบตามมาตรฐาน NEDC ทำให้ผลการทดสอบนั้นออกมาใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น

EPA – Environmental Protection Agency

 

 

EPA - Environmental Protection Agency
Environmental Protection Agency

ข้ามฝั่งมาที่มาตรฐานกับมาตรฐานการทดสอบจาก Environmental Protection Agency ซึ่งถือได้ว่าเป็นมาตรฐานที่โหดและเข้มงวดที่สุดในขณะนี้ โดยพวกเขาเป็นหน่วยงานที่ดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมในสหรัฐอเมริกา โดยการวัดอัตราการสิ้นเปลืองของรถยนต์ก็ถือเป็นอีก 1 หน้าที่ของพวกเขา

สำหรับวิธีการทดสอบของ EPA จะนำรถไฟฟ้ามาชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม จากนั้นจะนำรถจอดทิ้งไว้ก่อน 1 คืนก่อนที่ในวันรุ่งขึ้นจะนำรถยนต์ขึ้นบนไดโน่และเริ่มทำการทดสอบ โดยจำลองสถานการณ์การขับขี่ในรูปแบบ Highway 45% และ City 55% โดยจะมีการจำลองสภาพการจราจรจริงในการทดสอบอีกด้วย โดยพวกเขาจะทำการทดสอบซ้ำๆจนแบตเตอรี่หมด ก่อนนำระยะทางที่ได้มาคำนวนด้วยสูตรเฉพาะของ EPA (ส่วนมากจะนำระยะทางที่วิ่งได้จากการทดสอบในห้องทดสอบ คุณด้วย 0.7) โดยรถยนต์ไฟฟ้าที่นิยมใช้มาตรฐานการทดสอบนี้ได้แก่ Tesla นั่นเอง

CLTC – China Light-Duty Vehicle Test Cycle

ปิดท้ายกันด้วยมาตรฐาน CLTC หรือ China Light-Duty Vehicle Test Cycle ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนนิยมใช้เป็นอย่างมาก โดยการทดสอบด้วยมาตรฐานนี้ส่วนมากจะได้ระยะทางมากที่สุดเมื่อเทียบกับ 3 มาตรฐานการทดสอบก่อนหน้านี้ โดยการทดสอบของ CLTC จะประกอบไปด้วย 3 ขึ้นลักษณะการขับขี่ได้แก่ การขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ , ปานกลาง และความเร็วสูง ซึ่งการทดสอบนั้นจะกินเวลาประมาณ 30 นาที รวมถึงการทดสอบอัตราการกินพลังงานขณะหยุดนิ่ง ซึ่งใช้เวลามากกว่ามาตรฐาน NEDC ถึงสองเท่า แต่ความเร็วสูงสุดที่ใช้ทำการทดสอบนั้นกลับอยู่ที่เพียง 114 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่ง “ต่ำกว่า 3 มาตรฐานข้างต้น” อยู่พอสมควร


จะเห็นได้ว่ามาตรฐานทั้ง 3 แบบนั้นมีลักษณะการทดสอบและผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยเรามีผลการทดสอบระยะทางที่วิ่งได้ของ BMW I3 ซึ่งผ่านการทดสอบถึง 3 มาตรฐาน โดยได้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้

BMW i3
BMW i3

 

  • NEDC  =  359 กิโลเมตร
  • WLTP  =  285 – 311 กิโลเมตร
  • EPA     =  246 กิโลเมตร

จากผลการทดสอบนั้นจะพบว่า มาตรฐานการทดสอบ NEDC ดูเหมือนจะได้ตัวเลขระยะทางเยอะที่สุด และแน่อนว่ามาตรฐาน EPA นั้นได้ตัวเลขระยะทางน้อยที่สุด ตามความโหดของกฎการทดสอบนั่นเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก : licarco.com / lifewire.com / jdpower.com

รับชมข่าวสารยานยนต์ที่น่าสนใจ คลิกที่นี่

รับชมคลิปวีดีโอทดสอบรถของเรา คลิกที่นี

บทความที่น่าสนใจ

ลือ! Bugatti จ่อสร้างรถโมเดลใหม่ที่คล้ายเอสยูวี เริ่มต้น 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

idiot

8 รถจักรยานยนต์ ที่น่าจับตามอง และคาดว่าจะเปิดตัวในปีนี้!!

idiot

ยอดขาย “รถยนต์ใช้น้ำมัน” ในงาน Motor Expo 2022 ลดลงกว่าปีก่อนถึง 30%

Nopkung

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy