fbpx
ท็อป 10 รถยนต์ที่แพงที่สุดในโลกอัพเดทล่าสุดปี 2023

ท็อป 10 รถยนต์ที่แพงที่สุดในโลกอัพเดทล่าสุดปี 2023

ในช่วงปีที่ผ่านมาผู้ผลิตไฮเปอร์คาร์และซุปเปอร์คาร์ระดับไฮเอนด์อย่าง Bugatti, Ferrari, Koenigsegg และ Pagani ต่างทยอยเปิดตัวรุ่นพิเศษออกมาเพื่อดึงดูดลูกค้าที่ร่ำรวย เช่นเดียวกับการมาถึงของรถสั่งทำพิเศษจาก Rolls-Royce ที่ออกมาเขย่าวงการรถหรูด้วยราคาที่สูงสุดเอื้อม และเพื่อหาคำตอบว่ารถรุ่นใดมีราคาสูงที่สุดในปี 2023 เราจึงได้รวบรวมมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน..

อันดับที่ 10. SP Automotive Chaos ราคา 6.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 225 ล้านบาท)
Chaos รถยนต์ที่ถูกเคลมว่าเป็น ‘Ultracar’ รุ่นแรกของโลก จากบริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติกรีซ SP Automotive ได้เข้ามาอยู่ในอันดับที่ 10 ของการจัดอันดับในปี 2023 พร้อมการออกแบบภายนอกที่ดุดันและกลมกลืนไปกับรายละเอียดที่ซับซ้อน

บริษัทกล่าวว่า Chaos มีการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในรถยนต์ ซึ่งรวมถึงดาวน์ฟอร์ซที่เทียบได้กับรถแข่ง F1 ส่วนภายในห้องโดยสารดีไซน์เรียบง่ายแต่ล้ำสมัย นอกจากนี้ยังมีการใช้คาร์บอนไฟเบอร์ ไซลอน ไททาเนียม แมกนีเซียม และอัลคันทาราสำหรับส่วนประกอบภายในแทบทุกชิ้น

Chaos มีวางจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ Earth Version และ Zero Gravity โดยในรุ่นท็อปสุดติดตั้งเครื่องยนต์ V10 ความจุ 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 3,065 แรงม้า พร้อมแรงบิดมหาศาล 1,984 นิวตันเมตร ส่งกำลังไปยังล้อทั้ง 4 ผ่าน เกียร์คลัตช์คู่ 7 หรือ 8 สปีด

อันดับที่ 9. Pagani Huayra Codalunga ราคา 7.4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 260 ล้านบาท
Codalunga เป็นภาษาอิตาลีที่มีความหายในภาษาอังกฤษว่า ‘Long-Tail’ หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นรุ่นที่มีหางยาวขึ้น 14 นิ้วจากรุ่นสแตนดาร์ด ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่งในช่วงปี 1960 ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกอันน่าทึ่งและการตกแต่งภายในสไตล์สตีมพังค์ และขุมพลังเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ที่ให้กำลัง 829 แรงม้า ทำให้รถรุ่นนี้ให้ความรู้สึกเหมือนรถแข่งจริงๆ โดย 1 ใน 5 ของรถรุ่นนี้มีราคาอยู่ที่ 7.4 ล้านเหรียญสหรัฐ

อันดับที่ 8. 777 Hypercar ราคา 7.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 264 ล้านบาท
777 Hypercar เป็นแทร็กคาร์สุดพิเศษที่มีโครงตัวถังโมโนค็อกคาร์บอนไฟเบอร์ที่ได้รับการรับรองจาก FIA และการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก LMP1 อันน่าทึ่ง ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.5 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ ให้กำลังสูงสุด 730 แรงม้า เรดไลน์ 9,000 รอบต่อนาที และท็อปสปีด 370 กม.ต่อชม. รถแข่งรุ่นนี้จะถูกผลิตเพียง 7 คันเท่านั้นในราคา 7.5 ล้านเหรียญสหรัฐ

อันดับที่ 7. Mercedes-Maybach Exelero ราคา 8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 282 ล้านบาท)
Exelero เปิดตัวคร้งแรกในปี 2004 ในรูปแบบ one-off หรือมีอยู่คันเดียวในโลก โดยรถคันนี้เป็นโปรเจ็กต์ที่ Mercedes-Maybach และ Fulda บริษัทยางในเครือ Goodyear ในเยอรมันร่วมกันพัฒนาเพื่อแสดงถึงความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี ภายใต้ฝากระโปรงติดตั้งเครื่องยนต์ V12 ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 690 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,020 นิวตันเมตร และท็อปสปีด 350 กม.ต่อชม.

อันดับที่ 6. Bugatti Centodieci – ราคา 9 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 317 ล้านบาท)
Centodieci เปิดตัวครั้งแรกในงาน Pebble Beach car week เผยให้เห็นรูปลักษณ์ของรถระดับอัลตร้าแรร์ ที่ถูกสร้างขึ้นแสดงความเคารพต่อซุเปอร์คาร์ระดับไอคอนในยุค 90 อย่าง Bugatti EB110 SS

ไฮเปอร์คร์รุ่นพิเศษนี้ถูกผลิตเพียง 10 คันเท่านั้น และมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่าง ทำให้รถรุ่นนี้มีน้ำหนักเบากว่ารถที่ใช้เป็นพื้นฐานอย่าง Chiron ถึง 20 กิโลกรัม อีกทั้งยังมีพละกำลังเพิ่มมากกว่าถึง 100 แรงม้า เป็น 1,600 แรงม้า

อันดับที่ 5. Bugatti Chiron Profilée ราคา 10.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 380 ล้านบาท
แม้ว่ามันอาจจะดูไม่แตกต่างจาก Chiron ทั่วไปมากนัก แต่ Profilée ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างแท้จริง โดยในช่วงแรกไฮเปอร์คาร์รุ่นนี้จะถูกสร้างในจำนวนจำกัด แต่ท้ายที่สุด Bugatti กลับตัดสินใจที่จะผลิตเหลือเพียงคันเดียว

Profilée ยังคงทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ W16 ความจุ 8 ลิตร ควอดเทอร์โบ 1,500 แรงม้า แบบเดียวกับ Chiron ทั่วไป แต่มีตัวถังที่เป็นเอกลักษณ์และสปอยเลอร์แบบคัสตอมที่ช่วยแยกออกจากรุ่นอื่นๆ รวมไปถึงตัวถังสีฟ้าพิเศษเฉพาะรุ่นด้วย

อันดับที่ 4. Rolls-Royce Sweptail ราคา 12.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 451 ล้านบาท)
สุดยอดอัครยานยนต์สั่งทำพิเศษแบบ 2 ประตู 2 ที่นั่ง ที่ Rolls-Royce ใช้เวลาพัฒนามากกว่า 4 ปีคันนี้คือเจ้าของตำแหน่งรถยนต์ที่มีราคาแพงที่สุดในปี 2017 มาพร้อมการออกแบบที่เน้นความประณีตวิจิตรบรรจงตั้งแต่ กระจังหน้าทรงประตูวิหารแพนธีออนตี ตัดกับการตกแต่งด้วยอะลูมิเนียม

ภายในเรียบหรูคล้ายกับนั่งอยู่ในเรือยอชต์ และทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ V12 ความจุ6.7 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 459 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 720 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

อันดับที่3. Bugatti La Voiture Noire ราคา 13.4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 472 ล้านบาท
ด้วยราคากว่า 13.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ Bugatti La Voiture Noire ที่ผลิตเพียงคันเดียวในโลกกลายเป็นรถยนต์ Bugatti ที่แพงที่สุดตั้งแต่เคยมีมาอย่างไม่ต้องสงสัย

La Voiture Noire นั้นมีความหมายในภาษาฝรั่งเศษว่า “รถยนต์สีดำ” ตัวรถถูกสร้างขึ้นมาจากพื้นฐานของ Chiron และมีการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถคลาสสิคระดับตำนานอย่าง Type 57SC Atlantic พร้อมด้วยตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ทำขึ้นด้วยมือ และเครื่องยนต์ W16 ความจุ 8.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จ 4 ตัว ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 1,500 แรงม้า

อันดับที่ 2. Rolls-Royce Boat Tail ราคา 28 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 987 ล้านบาท
แชมป์เก่าในปี 2022 ล่วงลงมา 1 อันดับ แต่ผู้สืบทอดต่อจาก Sweptail อันน่าทึ่งนี้ก็ยังคงโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอกแบบทูโทนที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมการตกแต่งระดับไฮเอนด์ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเรือยอร์ชระดับ J Class

ส่วนท้ายของรถตกแต่งด้วยแผงไม้วีเนียร์ และมาพร้อมตู้แช่เย็นสำหรับแชมเปญ ร่มกันแดดแบบบิ้วอิน โต๊ะด้านหลังตกแต่งด้วยไม้ Caleidolegno และเก้าอี้บาร์สูงที่ทำจากเส้นใยไฟเบอร์ ภายในห้องโดยสารตกแต่งแบบไฮเอนด์ ผสมผสานกับการใช้ไม้ตกแต่งบริเวณช่วงล่างและพื้นภายห้องโดยสารทั้งหมด ชวนให้นึกถึงโครงของลำเรือ

พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุสีมันวาว ไม้ Caleidolegno และนาฬิกา BOVET 1822 หนึ่งเรือนบนแผงหน้าปัด แม้ว่า Rolls-Royce จะไม่ประกาศราคาอย่างเป็นทางการ แต่มีข่าวลือว่า Boat Tail จะมีราคาสูงถึง 28 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว

อันดับที่ 1. Rolls-Royce La Rose Noire Droptail ราคา 30 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1,057 ล้านบาท
หลังจาก Boat Tail สุดงดงาม Rolls-Royce ก็ได้เปิดตัวผลงานชิ้นเอกจากแผนก Coachbuild อีกรุ่นที่ชื่อว่า La Rose Noire Droptail ในงาน Monterey Car Week 2023 โดยถือเป็นหนึ่งในสี่ของยนตรกรรม Droptail ที่มาพร้อมตัวถังสีแดงผสานเข้ากับเฉดสีดำ ซึ่งสื่อถึง “รักแท้” และ “ความลึกลับ”

การตกแต่งภายในห้องโดยสาร Rolls-Royce ต้องใช้เวลากว่า 2 ปีเพื่อจะทำให้ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบที่สุด โดดเด่นด้วยงานศิลปะอันซับซ้อนซึ่งแสดงถึงกลีบกุหลาบที่ร่วงหล่น สิ่งนี้ถูกประดิษฐ์ขึ้นทีละชิ้นจากแผ่นไม้วีเนียร์สามเหลี่ยมสีดำกว่า 1,603 ชิ้น ซึ่งถูกตกแต่งบนคอนโซลหน้าและส่วนท้ายของรถ

Rolls-Royce ไม่เปิดเผยราคาอย่างเป็นทางการ แต่มีรายงานว่า La Rose Noire Droptail จะมีราคาสูงถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐ และนั่นได้ทำให้ยนตรกรรมสั่งทำพิเศษรุ่นนี้กลายเป็นรถยนต์ที่แพงที่สุดในโลกคันใหม่ทันที

หมายเหตุ – ราคาเงินไทยทั้งหมดยังไม่รวมภาษี และอ้างอิงตามอัตราการแลกเปลี่ยนเงินในปัจจุบันที่เขียนบทความนี้

CR : Motor1

บทความที่น่าสนใจ

พาชม BMW X7 หุ้มเกราะคันแรกของโลก กันได้ทั้งกระสุนปืนไรเฟิลและระเบิดมือ 2 ลูกพร้อมกัน

idiot

ครบเครื่อง Rolls-Royce Wraith ทั้งหล่อและแรงแถมราคาแพ๊งแพงจนสำนักแต่งไม่กล้าบอก

idiot

McLaren 720S GT3X กลายเป็นซุปเปอร์คาร์ที่เร็วที่สุดหลังจากดวลชนะในศึก Goodwood Festival of Speed 2021

idiot

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy