Tesla Cybertruck เป็นรถกระบะไฟฟ้าที่หลายคนเฝ้ารอมาตั้งแต่ตอนเผยโฉมครั้งแรกเมื่อปี 2019 หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางและเริ่มต้นส่งมอบให้กับลูกค้าที่สนใจมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ตอนนี้รถกระบะไฟฟ้ารุ่นแรกของ Tesla ก็เริ่มสร้างความประทับใจให้กับบรรดาเจ้าของหลายคนหลังจากใช้งานจริงมาราวครึ่งปี หนึ่งในนั้นคือ Butter_EV ยูทูบเบอร์ชื่อดังที่ทำคอนเทนต์เกี่ยวกับการใช้งานรถกระบะ Tesla Cybertruck แบบเจาะลึก ที่ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลทุกอย่างทั้งข้อดีและข้อเสียเกี่ยวกับกระบะทรงเหลี่ยมสุดล้ำคันนี้
Butter_EV อธิบายเกี่ยวกับการใช้ชีวิตร่วมกับรถกระบะ Tesla Cybertruck ที่เขาขับใช้งานเป็นประจำทุกว่ารถคันนี้ไม่ได้เหมาะกับทุกคน รูปลักษณ์ภายนอกของรถอาจจะมีทั้งคนที่ชอบและคนที่เกลียดจนอยากจะปาสิ่งของใส่ แต่แน่นอนว่ามันเป็นรถกระบะไฟฟ้าที่ให้ความรู้สึกที่ดีการขับขี่จากการมีระบบพวงมาลัยไฟฟ้าที่นุ่มนวล ควบคุมง่าย และเบาแรง สามารถขับขี่ในเมืองได้อย่างคล่องตัว และยังเป็นรถที่เหมาะสำหรับการขับขี่ท่องเที่ยวแบบ Road Trip ที่ดีมาก ๆ ในความคิดของเขา
สิ่งที่ทำให้ Butter_EV ประทับใจในรถกระบะ Tesla Cybertruck ที่สุดคือเขามองว่า Cybertruck คือรถสำหรับเดินทางที่ดีที่สุดและเป็นรถลากจูงที่ดีที่สุดเท่าที่เคยขับมา ซึ่งขัดกับรีวิวของยูทูบเบอร์หรือเจ้าของรถหลายคนที่มักจะตำหนิมากกว่าชื่นชม โดยเฉพาะในแง่ของการลากจูง
เป็นที่ทราบกันว่า Tesla Cybertruck มักจะมีปัญหาในการขับขี่ทางไกลพร้อมกับการลากจูงสิ่งของขนาดใหญ่ และต้องใช้เวลานานพอสมควรในการชาร์จแบตเตอรี่ที่สถานี Supercharger แต่ Butter_EV กลับบอกว่ารถกระบะทรงเหลี่ยมนี้เป็นรถกระบะที่ดีที่สุดที่เขาเคยมีมา แม้เขาจะไม่ได้พูดถึงปัญหาเรื่องระยะทางขับขี่ที่ลดลงอย่างมากและปัญหาเรื่องระยะเวลาในการชาร์จไฟ แต่เขาพูดถึงข้อเท็จจริงที่ว่า Cybertruck นั้นเป็นรถกระบะที่นั่งสบายมากเนื่องจากระบบกันสะเทือนของรถเป็นแบบถุงลมซึ่งให้ความนุ่มนวลและดูดซับแรงสะเทือนจากพื้นผิวถนนได้ดี ขับขี่แล้วรู้สึกสบาย นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เพียงพอสำหรับครอบครัว สุนัข และสัมภาระจำนวนมาก
Tesla Cybertruck มีความจุกระบะท้ายขนาด 2,500 ปอนด์ และรองรับน้ำหนักการลากจูงได้สูงสุด 11,000 ปอนด์ ซึ่งเพียงพอสำหรับการขนสัมภาระของครอบครัวพร้อมกับการลากรถบ้านไปเดินทาง Road Trip ด้วยกัน นอกจากนี้ บริเวณกระบะท้ายยังมีช่องจ่ายไฟสำหรับเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ขณะกำลังตั้งแคมป์ รวมถึงมีช่องเก็บของใต้ฝากระโปรงหน้าที่เพียงพอสำหรับใส่สิ่งของจิปาถะเมื่อต้องเดินทางไกล คุณสมบัติทั้งหมดนี้คือข้อดีของ Cybertruck ที่ Butter_EV สัมผัสได้ในการเดินทางท่องเที่ยวหลาย ๆ ทริปตลอดระยะเวลา 6 เดือน
อย่างไรก็ตาม Butter_EV ยังคงมองว่า Cybertruck ไม่ใช่รถที่สมบูรณ์แบบมากนักสำหรับการลากจูงรถบ้าน เนื่องจากด้านข้างของรถรูปทรงสามเหลี่ยมที่ทำให้ทัศนวิสัยในการมองแคบลง และกระจกมองข้างที่มีขนาดเล็กจนแทบจะใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ในขณะลากจูงพ่วงยาว นอกจากนี้ ภาพจากกล้องข้างรถที่แสดงผลบนหน้าจอสัมผัสกลางขนาด 18.5 นิ้วของรถยังค่อนข้างเล็ก ไม่สามารถขยายหรือปรับแต่งรูปแบบการแสดงผลได้ อีกทั้งยังต้องคอยสลับไป-มาระหว่างการดูภาพจากกล้องและการดูแผนที่นำทาง GPS ไม่สามารถรวมทั้งสองอย่างนี้ในจอเดียวกันได้ สิ่งนี้ทำให้การขับขี่ในขณะลากจูงรถบ้านเกิดความยากลำบากและต้องใช้ความระมัดระวังเพิ่มขึ้น ซึ่งเขาก็หวังว่าทาง Tesla จะแก้ไขข้อบกพร่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ในการอัปเดตครั้งถัดไป
อีกหนึ่งปัญหาในตอนนี้คือ Tesla Cybertruck ยังคงไม่มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบให้ใช้งานแม้ว่าจะผ่านการส่งมอบรถไปนานกว่า 8 เดือนแล้วก็ตาม คาดว่า Cybertruck ล็อตใหม่ที่กำลังจะส่งมอบเร็ว ๆ นี้น่าจะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบตามที่ Elon Musk เคยประกาศไว้ แต่สำหรับรถที่มีราคาเริ่มต้นระดับ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.5 ล้านบาท) ผู้ใช้อย่างเขาก็คงคาดหวังว่าจะได้รับฟีเจอร์ตามที่โฆษณาไว้ทั้งหมดตั้งแต่แรก
โดยรวมแล้ว Butter_EV ค่อนข้างพอใจกับ Tesla Cybertruck ของเขาอยู่พอสมควร รับชมวิดีโอรีวิวฉบับเต็มได้ที่ https://youtu.be/m2atGGXY7Vg
Cr.insideevs