แบตเตอรี่หมด ไม่ใช่เรื่องน่าวิตกอีกต่อไป หากเรารู้จักวิธีในการ พ่วงแบตเตอรี่ ซึ่งมีวิธีง่าย ๆ เพียงขั้นตอนสั้น ๆ ไม่กี่ขั้ยตอนเท่านั้น แค่นี้ก็จะทำให้คุณไปต่อได้สบาย… แต่ทั้งนี้มองหารถที่จะช่วยเหลือคุณก่อนนะ
สัญญานเตือนเมื่อแบตเตอรี่รถใกล้จะหมด
- ไฟหน้าสว่างน้อยลง
- ระบบไฟฟ้า เช่นเครื่องเล่นเพลง หรือไฟต่าง ๆ ภายในตัวรถผิดปกติ หรือรวน
- กว่าจะสตาร์ทรถติดใช้เวลานานขึ้น
ทั้งนี้ บางคันอาจไม่มีสัญญานเตือนดังกล่าว แต่จู่ ๆ ก็สตาร์ทไม่ติดเอาดื้อ ๆ เลยก็มี
ข้อควรระวังสำหรับการพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์
- ห้ามให้ปลายหัวหนีบ ด้านขั้วลบ กับ ขั้วลบ โดนกันเด็ดขาด
- ห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์ขณะที่กำลังต่อสาย
- ห้ามทำให้เกิดประกายไฟ เช่น การสูบบุหรี่
- เลือกหาสายพวงที่ได้รับมาตรฐาน วิธีเลือกซื้อคือเลือกซื้อสายที่มีขนาดใหญ่ไว้ก่อน เนื่องจากจะทำให้หระแสไฟไหลเวียนได้ดี
5 วิธีพ่วงแบตเตอรี่ ที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนอย่างที่คิด
- ดับเครื่องยนต์รถที่มาช่วยจากนั้น ต่อสายพ่วงแบตเตอรี่ขั้วบวก (สีแดง) ต่อกับแบตเตอรี่ขั้วบวกของรถคันที่แบตเตอรี่หมด และนำสายพ่วงแบตเตอรี่ขั้วบวกอีกฝั่ง ต่อเข้ากับแบตเตอรี่ขั้วบวกของรถที่มาช่วย
- ต่อสายพ่วงแบตเตอรี่ขั้วลบ (สีดำ) เข้ากับแบตเตอรี่ขั้วลบของรถคันที่มาช่วย นำสายขั้วลบ(สีดำ) อีกฝั่ง หนีบส่วนที่เป็นโลหะในเครื่องยนต์ของรถที่แบตเตอรี่หมด เพื่อสร้างระบบกราวนด์ของแบตเตอรี่
- สตาร์ทเครื่องยนต์รถที่มาช่วยทิ้งไว้ ประมาณ 3 นาที บวกกับเร่งเครื่องยนต์เล็กน้อย เพื่อให้แบตเตอรี่ไหลเวียน
- สตาร์ทเครื่องยนต์รถที่แบตเตอรี่หมด จากนั้นให้เร่งเครื่องที่ 1,500-2,000 รอบต่อนาที เพื่อเช็คให้แน่ใจว่ามีประจุไฟฟ้าเข้าหลังจากชาร์จไฟหรือไม่
- ถอดสายพ่วงรถคันที่แบตเตอรี่หมดและถอดสายพ่วงรถคันที่มีแบตเตอรี่ปกติออก
และนี้ คือ 5 วิธี ง่าย ๆ สำหรับการพ่วงแบตเตอรี่ที่ใคร ๆ ก็ทำได้ หากรู้วิธี หลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่เจ้าของรถที่จะเอารถเขาอู๋ซ่อมโดยเร็วเพื่อทำการตรวจเช็คสภาพแบตเตอรี่ต่อไป