Mazda ประเทศไทย เปิดเผยข้อมูลและสเปกเบื้องต้นของ All New Mazda BT-50 เวอร์ชั่นไทยในกิจกรรมพิเศษ Mazda Thailand Sneak Preview 2020 ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2021
BT-50 ใหม่ ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด โคโดะ ดีไซน์ เช่นเดียวกับรถยนต์มาสด้ารุ่นอื่นๆ ด้วยคอนเซ็ปต์การออกแบบเพื่อให้สามารถ “ใช้งานได้ทุกโอกาส” จึงทำให้รถปิกอัพ BT-50 ใหม่ โดดเด่นในทุกการใช้งาน ตั้งแต่การใช้งานแบบทางการไปจนถึงการขับแบบออฟโร้ด
ด้านหน้ารถประกอบด้วยกระจังหน้าที่สูงและตั้งตรงที่ให้ความรู้สึกสง่าผ่าเผย ซิกเนเจอร์วิงส์ที่แผ่ขยายออกทางด้านข้างและไฟหน้า LED รูปทรงกระบอก มีซุ้มล้อที่ดูทรงพลัง และไฟท้ายเป็นรูปทรงกระบอกเช่นเดียวกับไฟหน้า ซึ่งสอดคล้องกับสไตล์การออกแบบไฟทรงกลม
ห้องโดยสารของ BT-50 ใหม่ ถูกพัฒนาขึ้นโดยเน้นความสะดวกสบายและให้ความเงียบเทียบเท่ากับรถเอสยูวี มีฟังก์ชั่นอันหลากหลายที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและง่ายต่อการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง กุญแจรีโมทอัจฉริยะ ที่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยรีโมทและมีฟังชั่นเปิดไฟในห้องโดยสารอัตโนมัติ (Welcome Light)
มีหน้าจอแสดงผลระบบ Infotainment ความละเอียดสูง WXGA ขนาด 7 นิ้ว หรือ 9 นิ้ว ซึ่งตั้งอยู่ด้านบนของคอนโซลหน้า รวมถึงจอแสดงผล Multi-information Display ขนาด 4.2 นิ้ว ที่สามารถควบคุมระบบนำทางด้วยการสัมผัส นอกจากนี้ยังมี Apple CarPlay และฟังก์ชั่น Android Auto ซึ่งในบางรุ่นยังรองรับฟังก์ชั่นการควบคุมการทำงานด้วยเสียง อีกด้วย
ขุมพลังของ BT-50 ใหม่ มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาที และเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,600 รอบต่อนาที
จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด หรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ขับ มีระบบขับเคลื่อนแบบ 4×4 ที่สามารถสลับโหมดการขับเคลื่อนและการทำงาน 4H/4L ได้เร็วขึ้นโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมระบบล็อกเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า และสามารถขับลุยน้ำได้สูงถึงระดับ 800 มม.
เทคโนโลยีความปลอดภัยเชิงป้องกันใน BT-50 ใหม่ ประกอบด้วย ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM, ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA, ระบบช่วยจอด Parking Aid, ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC, ระบบช่วยออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน หรือ HLA, ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง นอกจากนี้เบาะนั่งด้านหน้ายังถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดความรุนแรงจากการบาดเจ็บที่คอเมื่อเกิดการชนท้าย และมีเซ็นเซอร์แจ้งเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัยด้านหน้า เป็นต้น