fbpx

Rolls-Royce Black Badge Cullinan เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย เคาะเริ่ม 37.8 ล้านบาท

Rolls-Royce Black Badge Cullinan ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย มาพร้อมภาพลักษณ์เคร่งขรึม และสุขุมลุ่มลึกที่สุดในประวัติศาสตร์ของยนตรกรรม Black Badge วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 37.8 ล้านบาท

Black Badge Cullinan เปลี่ยนโฉมรูปลักษณ์อันโดดเด่นด้วยสีดำสนิท เพื่อแฝงกายเป็นส่วนหนึ่งไปกับความมืดมิดยามราตรีจนได้ชื่อว่าราชันย์แห่งรัตติกาล (The King of the Night) โดยสีดำอันเป็นเอกลักษณ์ของ Black Badge ผ่านการพ่นอย่างประณีตหลายชั้น และขัดด้วยมือถึง 10 รอบ ณ Home of Rolls-Royce ในกู๊ดวูด เวสต์ซัสเซ็กซ์ ความลุ่มลึกและเคร่งขรึมของสีตัวถัง เปรียบดังผืนผ้าใบที่รองรับการวาดเส้น Coachline ด้วยมือ โดยใช้สีที่ตัดกันเพิ่มความโดดเด่นแบบเดียวกับงานศิลปะ

ด้านหน้าเป็นจุดที่อัตลักษณ์แห่ง แบล็ค แบดจ์ ได้ตั้งอยู่อย่างสง่างาม คือ สัญลักษณ์สปิริต ออฟ เอ็กสตาซี ซึ่งครั้งนี้ถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยโครเมียมรมดำเคลือบผิวไฮกลอส และเป็นครั้งแรกที่ฐานของนางฟ้าก็ใช้วัสดุเดียวกัน รวมไปถึงส่วนอื่นๆ อาทิ โลโก้ ‘RR’ รอบคัน ที่ถูกเปลี่ยนเป็นลายเส้นสีเงินบนพื้นดำ

ขณะที่กรอบกระจังหน้า กรอบหน้าต่าง มือจับประตูและฝาท้าย กรอบช่องดักอากาศด้านล่าง รวมถึงท่อไอเสียถูกพ่นสีเข้ม ส่วนกระจังหน้ารถแม้จะเป็นสีดำ แต่ยังคงความเงางาม ทำให้เด่นชัดขึ้นด้วยกรอบสีดำโดยรอบ เพิ่มความเด่นชัดของการเคลื่อนไหว ที่บ่งบอกเป็นนัยถึงเจตคติอันทรงพลัง

ห้องโดยสารถูกนำเสนอโดยผสมผสานความสะดวกสบายขั้นสูงสุด สุนทรียภาพ วัสดุที่ล้ำสมัย เข้ากับงานฝีมืออันวิจิตรบรรจง แนวคิดนี้ถูกนำมาปรับใช้อย่างลงตัวกับแผงวีเนียร์เทคนิคัลคาร์บอนที่ทำตามหลักปรัชญาของเซอร์ เฮนรี รอยซ์ ที่ว่า ‘หากสิ่งใดไม่มีอยู่ จงออกแบบมันขึ้นมา’

เพดาน Starlight Headliner ช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร ด้วยแสงเรืองรองที่ส่องลงบนเบาะหนังสุดหรู เพดานที่ผลิตด้วยหนังแท้สีดำคุณภาพสูง ประกอบด้วยแสงสว่างจากเส้นไยไฟเบอร์ออฟติกที่ร้อยด้วยมือจำนวน 1,344 จุด สะท้อนบรรยากาศท้องฟ้ายามราตรี และมีลูกเล่นดาวตกสีขาวจำนวน 8 ดวง ที่พุ่งผ่านเพดานหลากทิศทาง

Black Badge Cullinan ตกแต่งห้องโดยสารแบบไร้ขีดจำกัดด้วยการใช้หนังแท้สีเหลืองสด ฟอร์จ เยลโลว (Forge Yellow) ซึ่งสามารถนำไปใช้ตามจุดต่างๆ ของห้องโดยสารได้ตามชอบ ไม่ว่าจะเป็น ที่นั่งชมวิว (Viewing Suite) หรือบริเวณพื้นที่เก็บสัมภาระ ‘Recreation Module’ ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า

องค์ประกอบสุดท้ายที่เติมเต็มห้องโดยสาร ได้แก่ สัญลักษณ์อินฟินิตี ที่ปักลงบนที่พักแขนแบบพับได้บริเวณเบาะหลัง สัญลักษณ์อันเรียบง่ายแต่ทรงพลังนี้ ยังถูกใช้สลักบนแผ่นโลหะเรืองแสง และบนกรอบโลหะสีเข้มของนาฬิกา ซึ่งปลายเข็มนาฬิกาสีแดงและหน้าปัด ล้วนสะท้อนถึงพลังอันน่าเกรงขาม

อีกหนึ่งกุญแจสำคัญของ Black Badge Cullinan คือสถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา (Architecture of Luxury) ซึ่งเป็นโครงสร้างตัวถังอะลูมิเนียม มีจุดเด่นคือความแข็งแกร่งแต่ยืดหยุ่น รองรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และเลี้ยว 4 ล้อ

Black Badge Cullinan มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินทวินเทอร์โบ วี12 สูบ 6.75 ลิตร ที่ผ่านการปรับแต่งเพิ่มกำลังจากรุ่นปกติ 29 แรงม้า รวมเป็น 592 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตันเมตร พร้อมติดตั้งระบบไอเสียแบบใหม่ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ควบคุมผ่านดาวเทียม (Satellite Aided Transmission) พร้อมช่วงล่างถุงลมที่นุ่มนวลดุจพรมวิเศษ (Magic Carpet Ride) และมีการทรงตัวที่ดี ในทุกสภาพเส้นทาง

Rolls-Royce Black Badge Cullinan มีราคาเริ่มต้นที่ 37.8 ล้านบาท

บทความที่น่าสนใจ

Ford ประกาศหยุดพัฒนา Ford Focus RS รุ่นใหม่ อย่างเป็นทางการ

idiot

Nissan อาจจับมือกับ Honda พัฒนารถ EV แข่งกับจีน

idiot

สิ้นสุดการรอคอย GWM ประกาศราคา All New HAVAL H6 Hybrid SUV อย่างเป็นทางการ เริ่มต้นที่ 1,149,000 บาท

idiot

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy