แม้ว่า Nissan Micra จะก้าวไปสู่เจเนอเรชั่นที่ 5 ในยุโรปมานานแล้ว แต่ในรุ่นก่อนหน้าก็ยังคงได้รับความนิยมในบางตลาด ทั้งนี้รถ hatchback ก็ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และยังคงถูกสร้างขึ้นเรื่อย ๆ ในเม็กซิโก สำหรับรถคันนี้มันมาพร้อมป้ายของ March มันคือผลิตภัณฑ์ที่ 2 ใน 3 ของ Nissan รองจาก Almera (ขายในชื่อ Versa ในเม็กซิโก) และ Navara (NP300)
ครบรอบ 10 ปี Nissan Micra ได้รับการปรับโฉมครั้งที่สอง โดยได้ดึงแรงบันดาลใจมากมายจาก Almera ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดคือกระจังหน้า V-motion ขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยคาร์บอนไฟเบอร์รอบทิศทาง ไฟหน้า arrow-shaped halogen พร้อมแถบไฟ LED ช่องดักอากาศยังมีความดุดันมากขึ้นทำให้รถรุ่นเก่าดูน่ารักไปเลย
ความสปอร์ตยังคงพบได้ที่ด้านหลังซึ่งมาพร้อมช่องระบายอากาศด้านหลัง กันชนดิฟฟิวเซอร์และไฟท้าย LED รุ่นยอดนิยมจะมีโทนสีทูโทนแบบ in-vogue พร้อมหลังคาสีดำ ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ที่พบใน Almera
ภายในมาพร้อมพวงมาลัยแบบ Almera และคอนโซลกลางที่ออกแบบใหม่พร้อมแผงหน้าปัดขนาดใหญ่สไตล์แท็บเล็ต มีหน้าจอสัมผัสขนาด 6.7 นิ้ว เชื่อมโยงกับระบบสาระบันเทิง NissanConnect โดยผ่านการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนด้วย Apple CarPlay และ Android Auto นอกจากนี้ยังมีบริการ NissanConnect Finder ซึ่งเป็นทางเลือกช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาและทำให้รถตั้งค่าขีดจำกัด ความเร็วได้จากระยะไกล
ส่วนชุดอุปกรณ์ความปลอดภัยได้รับการอัพเกรดเช่นกัน โดยได้ติดตั้งถุงลมนิรภัย 6 จุด, ระบบ ABS พร้อม EBD และระบบช่วยเบรก, เข็มขัดนิรภัยแบบสามจุดสำหรับผู้โดยสารทุกคน และระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า อย่างไรก็ตามเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติก็ไม่มีการกล่าวถึงการควบคุมเสถียรภาพ
ทั้งนี้มันยังคงขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร naturally-aspirated โดยให้กำลัง 106 แรงม้า ที่ 5,600 รอบต่อนาที และแรงบิด 142 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด
Cr. Paultan