สุดยอดรถแข่ง “โมโตจีพี” กว่า 100 คัน ถูกขนส่งถึง สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เป็นที่เรียบร้อย เพื่อดวลความเร็วในศึก พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคมนี้ ก่อนที่ทีมแข่งจากทั้ง 3 คลาส โมโตจีพี, โมโตทู และ โมโตทรี จะเดินทางถึงเมืองไทย
ประเทศไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โมโตจีพี รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ซึ่งบรรจุเป็นสนามที่ 15 ของฤดูกาล ภายใต้การเฝ้ารอของแฟนความเร็วชาวไทย รวมถึงแฟนจากทั่วโลกรวมกว่าแสนคน โดยนับเป็นสนามสำคัญของการตัดสินแชมป์โลกประจำฤดูกาลนี้
ล่าสุดในวันพฤกหัสบดีที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา ทัพรถแข่งระดับพระกาฬมูลค่ากว่าหมื่นล้านจากศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก ที่ถือว่าใหญ่ที่สุดของโลก หรือ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รวมทั้งสิ้น 93 คัน จากทั้ง 3 คลาส ได้แก่ โมโตจีพี 23 คัน, โมโตทู 36 คัน และ โมโตทรี 35 คัน พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ ของรถแข่ง และเครื่องมือของทีมช่างได้ถูกเคลื่อนย้ายจาก สนาม มอเตอร์แลนด์ อรากอน ประเทศสเปน บินลัดฟ้าส่งตรงถึง สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ สถานการณ์ลุ้นแชมป์ล่าสุดของคลาส โมโตจีพี เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายอย่างแท้จริง และสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ อาจเป็นเรซที่ได้ตัวแชมป์โลกในปี 2019 ซึ่ง มาร์ค มาร์เกซ นักบิดสแปนิชจาก เรปโซล ฮอนด้า นั้นต้องการเก็บคะแนนมากกว่าคู่แข่งชาวอิตาเลียนอย่าง อันเดรีย โดวิซิโอโซ จาก มิสชั่น วินนาว ดูคาติ เพียง 2 แต้ม ก็จะก้าวขึ้นเป็นแชมป์โลกพรีเมียร์คลาสสมัยที่ 6 ในประเทศไทย
นอกจากนี้ แฟนชาวไทยจะยังได้ส่งเสียงเชียร์นักบิดหนึ่งเดียวของไทยใน โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ อย่าง “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา จากสังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ซึ่งได้รับการจับตามองจากสื่อมวลชนสายมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกในขณะนี้ ให้สร้างผลงานกระหึ่มโฮมเรซจต่อหน้าแฟนความเร็วในบ้านเกิดอีกด้วย
สำหรับ แฟนความเร็วชาวไทยสามารถซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขัน โมโตจีพี รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019 ได้ที่ เซเว่นอีเลฟเว่น ทุกสาขา หรือ www.allticket.com