Jeep ได้ทำการก้าวกระโดดครั้งสำคัญเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในญี่ปุ่นด้วยการเปิดตัวรถรุ่นไฟฟ้าล้วนรุ่นแรกอย่าง Avenger รถ SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดคันนี้เปิดตัวเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2024 โดยมุ่งหวังที่จะเจาะตลาดบ้านเกิดของ Toyota
Stellantis ระบุว่า Jeep Avenger เข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นด้วยราคาเริ่มต้นที่แข่งขันได้ที่ 5.8 ล้านเยน (40,000 เหรียญสหรัฐ) ทำให้มีศักยภาพเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวในตลาด EV ที่กำลังเติบโต ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ 54 kWh Avenger มาพร้อมระยะทางวิ่ง WLTP มากกว่า 486 กม. (300 ไมล์) สมกับเป็นรถ Jeep ที่แข็งแกร่ง Avenger มาพร้อมระบบ “Selec-Terrain” เฉพาะของแบรนด์ ให้เลือกโหมดขับขี่ได้ 6 โหมดเพื่อรับมือกับสภาพถนนที่หลากหลาย
ในแง่ของเทคโนโลยีและความสะดวกสบาย Avenger มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ (ADAS) รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับตัวได้พร้อมฟังก์ชัน Stop & Go และระบบช่วยรักษาตำแหน่งในช่องจราจร
ภายในติดตั้งหน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 10.25 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ตอบโจทย์ผู้ซื้อชาวญี่ปุ่นที่ชื่นชอบเทคโนโลยี นอกจากนี้ Jeep ยังคงรักษาเอกลักษณ์การออกแบบ ทั้งกระจังหน้าแบบ 7 ช่องและไฟหน้ารูปตัว “X” ทำให้ Avenger ยังคงความเป็น Jeep อย่างชัดเจนแม้จะเป็นรถพลังงานไฟฟ้า
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่น Jeep เสนอรุ่นพิเศษ “Launch Edition” ของ Avenger โดยจำกัดเพียง 150 คันและมีราคา 5,950,000 เยน (41,000 เหรียญสหรัฐ) รุ่นพิเศษนี้มาพร้อมฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น ซันรูฟไฟฟ้า ล้ออะลูมิเนียมขนาด 18 นิ้ว และหลังคาทาสีดำ
ที่น่าสนใจคือ ผู้ซื้อรุ่น Launch Edition จะได้รับรถโมเดลจำลองขนาด 1/43 ของรถคันจริงด้วย ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 330,000 เยน (2,300 เหรียญสหรัฐ)
จังหวะการเปิดตัว Avenger นั้นน่าสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากตลาดยานยนต์ญี่ปุ่นมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงที่ผ่านมา ในปี 2023 รถยนต์ไฟฟ้านำเข้าขายได้มากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศเป็นครั้งแรก โดยขายได้ 22,800 คัน เทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ 21,000 คัน แนวโน้มนี้บ่งชี้ว่าผู้ซื้อชาวญี่ปุ่นเปิดรับรถยนต์ไฟฟ้าจากต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงตลาดที่ Jeep ต้องการใช้ประโยชน์
การสนับสนุนจากภาครัฐ
รัฐบาลญี่ปุ่นก็มีบทบาทในการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดยเสนอเงินอุดหนุน 650,000 เยน (4,500 เหรียญสหรัฐ) สำหรับผู้ซื้อ Avenger การสนับสนุนนี้ ประกอบกับข้อเสนอของ Jeep ที่ให้ “Jeep Charging Card” พร้อมสิทธิประโยชน์การชาร์จฟรี 6 เดือนสำหรับผู้ซื้อ 500 คนแรก น่าจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจของ Avenger ในตลาดที่ยังคงครองตลาดโดยรถยนต์น้ำมันและไฮบริดได้อย่างมาก
การเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าญี่ปุ่นของ Jeep มาในช่วงที่ยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota กำลังประเมินกลยุทธ์ด้านรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ โดย Toyota ได้ปรับลดเป้าหมายยอดขาย EV ในปี 2569 จาก 1.5 ล้านคันเหลือ 1 ล้านคัน สะท้อนความท้าทายในการเปลี่ยนแปลงความชอบของผู้บริโภคในตลาดที่ถูกครอบงำด้วยเทคโนโลยีไฮบริดมานาน
ความสำเร็จของแบรนด์ต่างชาติ โดยเฉพาะ BYD ที่รุ่น Seal กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้านำเข้าขายดีที่สุดในญี่ปุ่นเมื่อสิงหาคม 2567 น่าจะเป็นแรงกระตุ้นให้ Jeep ตัดสินใจครั้งนี้ Stellantis มุ่งหวังจะทำซ้ำความสำเร็จนี้ โดยมองว่าตลาดรถยนต์ญี่ปุ่นที่กำลังเปลี่ยนแปลงคือโอกาสในการสร้างการมีอยู่อย่างเข้มแข็งในตลาด EV
ในขณะที่ Jeep แนะนำ Avenger ให้ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นรู้จัก เป็นที่ชัดเจนว่าการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกกำลังร้อนแรงขึ้น แม้แต่ในตลาดที่แบรนด์ในประเทศครองตลาดมาอย่างยาวนาน Avenger ที่ผสมผสานความแกร่งในสไตล์ Jeep เข้ากับเทคโนโลยีไฟฟ้าสมัยใหม่ ไม่ใช่แค่การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นการทดสอบว่าแบรนด์อเมริกันดั้งเดิมจะแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร
แหล่งที่มา : ev