เกรท วอลล์ มอเตอร์ จัดงาน “SAWASDEE THAILAND” เปิดตัวแบรนด์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมสวัสดีคนไทยด้วยการนำเทคโนโลยีสุดล้ำมาโชว์ในไลฟ์สตรีมมิ่ง แถลงทิศทางการดำเนินธุรกิจ ประกาศบุกตลาดไทยด้วย 3 กลยุทธ์หลัก โดยประเดิมบุกตลาดไทยด้วยรถยนต์ยอดนิยมถึง 2 รุ่น
หลังจากทำการสื่อสารกับคนไทยมาตลอดปีที่ผ่านมา เกรท วอลล์ มอเตอร์ ถือฤกษ์งามยามดี สวัสดีคนไทย ผ่านการไลฟ์สตรีมมิ่ง นำโดย มร. เอลเลียต จาง ประธาน และ มร. สตีเฟ่น หวัง รองประธาน ฝ่ายขายและการตลาด เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย ร่วมด้วย นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย ร่วมแถลงทิศทางการดำเนินธุรกิจพร้อมประกาศกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในเมืองไทย
เกรท วอลล์ มอเตอร์ รุกตลาดทั่วโลกด้วยรถยนต์ 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ HAVAL ORA WEY และ GWM Pick up เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์และความต้องการที่แตกต่างกัน ซึ่งธุรกิจของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ขยายไปยังกว่า 60 ประเทศทั่วโลกด้วยกลยุทธ์ Globalization รวมไปถึงการจัดตั้งโรงงานแบบ “12+5″ คือ โรงงานผลิตเต็มรูปแบบ 12 แห่งรวมถึงโรงงานล่าสุดของเราที่จังหวัดระยอง ประเทศไทย และมีโรงงานแบบ KD (Knock Down) อีก 5 แห่งนอกประเทศจีน
ทั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังมีเครือข่ายศูนย์วิจัยและพัฒนาใน 10 แห่งใน 7 ประเทศทั่วโลก ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จและความสามารถในการผลิตยานยนต์ที่ผสานนวัตกรรมและเทคโนโลยีคุณภาพสูง การันตีด้วยยอดขาย 1.11 ล้านคันในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท
ล่าสุด เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประสบความสำเร็จในการพัฒนาแบตเตอรี่ที่ปราศจากโคบอลต์เป็นรายแรกของโลก จากการริเริ่มคิดค้นพัฒนาการผลิตแบตเตอรี่ปริซึมเคลือบลามิเนตความเร็วสูงอย่างต่อเนื่องจนประสบความสำเร็จ โดยในปี 2020 ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดตัวแบตเตอรี่ที่ปราศจากโคบอลต์ NMX อย่างเป็นทางการ นับเป็นการตอกย้ำความเป็นเลิศด้านงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาด ควบคู่ไปกับความยึดมั่นของบริษัทในการคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและการพัฒนาระบบนิเวศของโลกอย่างยั่งยืน
สำหรับประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้เริ่มขยายธุรกิจตั้งแต่ในช่วงปีที่ผ่านมา รวมถึงการจัดตั้งโรงงานที่จังหวัดระยองให้เป็น “โรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory)” ที่ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยกับกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย เผยว่า “ปีที่ผ่านมาถือเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับทุกธุรกิจ แต่ในความท้าทายนั้นยังมีโอกาสอีกมากมายที่จะเติบโต เกรท วอลล์ มอเตอร์ ให้ความสำคัญกับการรับฟังเสียงของประชาชนชาวไทย เรามีการสำรวจความคิดเห็น เก็บข้อมูลความต้องการของผู้บริโภคอย่างใกล้ชิด เพื่อออกแบบแผนการดำเนินธุรกิจรวมถึงรูปแบบการให้บริการที่ตอบโจทย์ และตรงตามความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย ซึ่งเราจะดำเนินธุรกิจผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่
- xEV Leader การเป็นผู้นำด้านรถพลังงานไฟฟ้า กับ Mission “9 in 3” ที่จะนำรถยนต์รุ่นต่างๆ เข้ามา
ทำการตลาดในประเทศไทยทั้งหมด 9 รุ่น ภายในระยะเวลา 3 ปี โดยรถยนต์แทบทั้งหมดจะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่พร้อมสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้เมืองไทยด้วยเทคโนโลยีและสมรรถนะ สร้างนิยามใหม่ของความสนุกและคุ้มค่าในการขับขี่เพื่ออนาคต - Consumer Voice Focus การรับฟังเสียงของผู้บริโภค เกรท วอลล์ มอเตอร์ให้ความสำคัญเรื่องการรับฟังเสียงของผู้บริโภคชาวไทยมาตั้งแต่การเริ่มเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย อีกทั้งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้ผู้ผลิตสามารถรับฟังเสียงที่แท้จริงจากผู้บริโภคได้โดยตรงและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ใช้กลยุทธ์การรับฟังเสียงของลูกค้าเป็นหลักในการวางแผนธุรกิจ และนำมากำหนดแนวทางการทำการตลาดและการให้บริการ เพื่อนำไปพัฒนา ปรับปรุง และยกระดับการให้บริการในทุกมิติ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยให้ดีที่สุด
- New User Experience การสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า โดยนำเสียงของผู้บริโภคและคำแนะนำต่างๆ มาทำ New User Experience Concept ผ่านขบวนการ Design Thinking เพื่อออกแบบประสบการณ์ใหม่ของผู้บริโภคที่จะเริ่มต้นตั้งแต่ การค้นหาข้อมูล การเปรียบเทียบรุ่นรถ การทดสอบรถ การเลือกซื้อรถ การขอสินเชื่อ การส่งมอบรถ การบริการ และการสร้างความสุขตลอดการเป็นเจ้าของรถผ่านกิจกรรมต่างๆ แบบ O2O (Online-To-Offline) และประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกในโลกที่จะนำ New User Experience นี้เข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับผู้บริโภค โดย New User Experience ถูกสร้างบนความเชื่อ 3 ข้อ คือ 1) Best Choice: ลูกค้าต้องเป็นผู้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดได้ด้วยตัวเอง 2) Transparency: ลูกค้าต้องการการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่โปร่งใส ตรงไปตรงมา และ 3) Happiness & Loyalty : ลูกค้าจะต้องมีความสุขและประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์ตลอดการเป็นเจ้าของ และพร้อมที่จะส่งมอบความสุขนี้ให้กับผู้อื่นด้วยการบอกต่อ
อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของงานนี้ คือการเปิดตัวรถยนต์ที่เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย โดยประเดิมด้วยรุ่นยอดนิยมที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากจากผู้บริโภคชาวไทยอย่าง All New HAVAL H6 จากแบรนด์รถเอสยูวี HAVAL และ ORA Good Cat จากแบรนด์รถไฟฟ้า ORA และนอกเหนือจาก 2 รุ่นนี้แล้ว เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะมีการนำรถยนต์อีก 2 รุ่น จากทั้ง 2 แบรนด์ ให้แฟนๆ ชาวไทยได้สัมผัสและยลโฉมกันภายในปีนี้เช่นกัน
All New HAVAL H6 เป็นรถเอสยูวียอดนิยม ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในตลาดจีนและตลาดโลกซึ่ง All New HAVAL H6 นี้ จะเป็นรถยนต์ HAVAL H6 Generation 3 รุ่นใหม่ล่าสุดทั้งนี้แบรนด์รถยนต์ HAVAL นับได้ว่าเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ด้วยยอดขายรวมของรถยนต์ภายใต้แบรนด์นี้มากกว่า 6 ล้านคัน และเพิ่งทำสถิติยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อปีที่ผ่านมา เป็นรถที่เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ผสานกับดีไซน์อันโดดเด่น
ORA Good Cat เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรรี่รุ่นแรกที่เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ถือเป็นรถอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากๆ ทั้งในสื่อต่างๆ และทุกช่องทางออนไลน์ ORA Good Cat จะเข้ามาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มาสร้างมาตรฐานใหม่ ทั้งในด้านคุณภาพอันเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีที่ครบครัน และดีไซน์ที่ล้ำสมัยแนวเรโทร futuristic สำหรับคนไทยทุกคน
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีศิลปินชั้นนำขวัญใจชาวไทยอย่างคู่รัก “มาร์กี้ ราศรี บาเล็นซิเอก้า” และ “ป๊อก ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์” ร่วมด้วย “โย่ง อาร์มแชร์” และน้องแมว “ส้มหยุด” มาร่วมแสดงความยินดีกับการเปิดตัวแบรนด์ในครั้งนี้อีกด้วย พร้อมเปิดเวที GWM xEV World’s Battle ขับเคี่ยวกันด้วยเพลงซึ่งได้รับการโหวตจากแฟนๆ ชาวไทย บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสนุกสนาน โดยทั้ง 3 ท่านได้เชิญชวนคนไทยให้ติดตามอัพเดทข่าวสารของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย รวมถึงอดใจรอ All New HAVAL H6 และ ORA Good Cat ต่อไปด้วยกันในอนาคต
ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระดับโลก (Global Mobility Technology Company)”
เกรท วอลล์ มอเตอร์ มุ่งมั่นที่จะส่งมอบยานยนต์ และเทคโนโลยีอัจฉริยะ พร้อมประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับให้กับผู้บริโภคชาวไทย และพร้อมที่จะช่วยผลักดันการสร้างอีโคซิสเต็มของรถยนต์ไฟฟ้าในไทย รวมไปถึงการพัฒนาทักษะ องค์ความรู้ และศักยภาพของบุคลากรไทย ควบคู่ไปกับการยกระดับอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจไทยให้ก้าวไกลและเติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน