ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา หลายคนคงไม่ได้ออกจากบ้านเป็นเวลานาน เพราะต้องงดออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายและการติดโรคโควิด-19 หลายคนรอคอยที่จะเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะไปทำงาน ไปร้านอาหารร้านโปรด หรือแม้กระทั่งไปท่องเที่ยวพักผ่อนต่างจังหวัดกับครอบครัวหรือคนที่คุณรัก
ดังนั้น คงไม่แปลกหากจำนวนรถบนท้องถนนจะสูงขึ้นหลังจากการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ที่มักจะมีการจราจรที่หนาแน่น โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อความพร้อมและเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ หลังไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานาน การตรวจเช็ครถยนต์ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์และพร้อมใช้งานก่อนออกเดินทางจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อความปลอดภัยของทั้งผู้ขับขี่และเพื่อนร่วมทางบนท้องถนน
ฟอร์ดรวบรวมเคล็ดลับในการเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง และการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะในรถยนต์ฟอร์ดที่สามารถช่วยให้คุณและครอบครัวเดินทางไปถึงจุดมุ่งหมายได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ผู้ขับขี่ยังต้องใช้รถใช้ถนนอย่างระมัดระวัง และเคล็ดลับต่อไปนี้ยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายขณะขับขี่ได้อีกด้วย
ก่อนออกจากบ้าน อย่าลืมตรวจเช็คจุดต่างๆ ของรถยนต์ ดังนี้
- ตรวจสอบ แบตเตอรี่ ระบบไฟ น้ำมันหล่อลื่น น้ำหรือน้ำยาหล่อเย็น เบรก ลมยาง และน้ำมันเชื้อเพลิง
- ปรับเบาะนั่ง กระจก และเข็มขัดนิรภัย ปรับเบาะนั่งคนขับให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและรู้สึกสบายทันทีที่ขึ้นนั่งบนรถ ผู้ขับขี่ไม่ควรนั่งไกลจากพวงมาลัยเกินไปจนต้องยืดแขนเหยียดตรง ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ควรนั่งใกล้พวงมาลัยเกินไปจนไม่สามารถขยับแขนได้อย่างสะดวก คุณควรนั่งห่างจากพวงมาลัยพอประมาณเพื่อสามารถบังคับควบคุมพวงมาลัยได้และไม่รู้สึกเมื่อยแขนถึงแม้จะต้องขับรถทางไกล โดยระยะห่างที่เหมาะสมควรเป็นระยะห่างที่วางข้อมือของคุณเหนือพวงมาลัยได้อย่างสบาย และข้อศอกพับเพียงเล็กน้อยเมื่อมือของคุณอยู่ในตำแหน่งสามนาฬิกาและเก้านาฬิกา นอกจากนี้ คุณควรปรับกระจกมองหลังให้อยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ชัดเจน ปรับกระจกมองข้างให้สามารถมองเห็นตัวรถของคุณบริเวณขอบด้านในกระจกข้างเพียงเล็กน้อย ตั้งกระจกมองหลังของคุณเพื่อสะท้อนให้เห็นจุดกึ่งกลางของด้านหลังรถของคุณ โดยคุณควรมองเห็นรถคันอื่นด้านหลังของคุณตลอดเวลา และควรปรับกระจกหากมองไม่เห็นรถที่อยู่ด้านหลังระหว่างกระจกด้านแต่ละบานเพื่อกำจัดจุดบอด
ก่อนที่จะออกเดินทาง ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าคุณและผู้โดยสารทุกคนคาดเข็มขัดนิรภัยแล้ว เด็กทารกจะต้องนั่งในเบาะรถยนต์นิรภัยสำหรับเด็ก (Car Seat) บนเบาะหลัง และเด็กเล็กจะต้องนั่งบนเบาะนั่งเสริม (Booster Seat) หากมีความสูงไม่ถึงตามข้อกำหนด
ระหว่างการเดินทาง เปิดใช้งานระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อช่วยป้องกันหรือหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ ดังต่อไปนี้
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping Aid)
ระบบนี้จะใช้กล้องหน้าในการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางของถนน ซึ่งสามารถตั้งค่าการใช้งานได้ถึง 2 รูปแบบ ได้แก่ โหมดการแจ้งเตือน และโหมดการช่วยรักษาช่องทาง โดยโหมดการแจ้งเตือนจะเตือนผู้ขับขี่เมื่อรถกำลังเบี่ยงออกจากช่องทางด้วยการสั่นที่พวงมาลัย ขณะที่โหมดการช่วยรักษาช่องทางจะบังคับพวงมาลัยเล็กน้อยเพื่อทำให้รถกลับสู่ตรงกลางของช่องทาง ซึ่งรถของคุณสามารถตั้งค่าให้ทั้ง 2 โหมดทำงานพร้อมกันได้ และฟอร์ดแนะนำให้เปิดใช้งานทั้ง 2 โหมดพร้อมกัน เนื่องจากโหมดการแจ้งเตือนจะทำงานต่อเมื่อคุณเบี่ยงออกจากช่องทางในระยะที่ห่างออกไปพอสมควร
คุณสามารถเปิดใช้งานระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางด้วยการกดปุ่มที่อยู่ปลายก้านสัญญาณไฟเลี้ยว โดยระบบจะขึ้นรูปภาพแจ้งเตือนบนแผงหน้าปัดรถยนต์ของคุณ และมีเส้นสีเขียวปรากฎบนแผงหน้าปัดเพื่อจำลองเส้นช่องทางและแสดงให้รู้ว่ามีการเปิดใช้งานระบบอยู่ ทั้งนี้ ระบบดังกล่าวไม่ได้เป็นระบบการขับขี่อัตโนมัติ และผู้ขับขี่ยังต้องบังคับควบคุมรถตลอดเวลา หากคุณปล่อยมือออกจากพวงมาลัย ระบบจะแจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่กลับมาจับพวงมาลัยด้วยภาพและเสียง โดยระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางจะทำงานในขณะที่รถของคุณเคลื่อนตัวด้วยความเร็วมากกว่า 64 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- ระบบตรวจจับรถในจุดบอด (Blind Spot Information System)
แม้กระจกมองข้างและกระจกมองหลังมีขีดจำกัดในการมองเห็นรอบข้างรถคุณอย่างเต็มรูปแบบ แต่รถฟอร์ดบางรุ่นมาพร้อมกับระบบตรวจจับรถในจุดบอด (Blind Spot Information System หรือ BLIS) ที่เป็นฟีเจอร์พื้นฐาน โดยระบบจะแจ้งเตือนด้วยไฟเตือนสีเหลืองที่กระจกมองข้างเมื่อเซ็นเซอร์ตรวจจับยานพาหนะคันอื่นที่กำลังอยู่ในจุดที่มองไม่เห็น ซึ่งไฟเตือนจะมีอยู่ทั้ง 2 ข้างของกระจกมองข้าง และระบบจะแจ้งเตือนบนกระจกข้างเมื่อตรวจพบยานพาหนะคันอื่น ทั้งนี้ ระบบ BLIS จะสามารถตรวจจับได้แค่ยานพาหนะที่มีเครื่องยนต์เท่านั้น และไม่สามารถตรวจจับคนเดินถนน จักรยาน และสิ่งกีดขวางอื่นๆ ได้ ดังนั้น จึงควรระมัดระวังในขณะเปลี่ยนช่องทาง โดยเฉพาะการขับขี่ในเมือง
- ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control)
ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติได้เข้ามายกระดับความปลอดภัยของระบบควบคุมความเร็วของรถไปอีกระดับ เพราะระบบดังกล่าวใช้เทคโนโลยีเรดาร์และกล้องในการตรวจจับสภาพการจราจรข้างหน้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจเช็คว่ามีรถยนต์ที่เคลื่อนตัวช้ากว่าความเร็วที่คุณตั้งเอาไว้หรือไม่ เมื่อพบรถที่เคลื่อนที่ช้าข้างหน้า ระบบจะลดความเร็วของรถและรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยระหว่างรถไว้ คุณสามารถปรับระยะห่างได้ด้วยการกดลูกศรรูประยะห่างบนพวงมาลัยใกล้ปุ่มระบบควบคุมความเร็ว
- แอปพลิเคชันบนระบบ SYNC
หากคุณกำลังมองหาเส้นทางกลับบ้านที่ใช้เวลาน้อยที่สุด คุณสามารถใช้แอปพลิเคชันนำทางในมือถือของคุณได้ผ่านระบบ SYNC จากฟอร์ด ด้วยการต่อมือถือของคุณผ่านสาย USB เลือกกดรูปสัญลักษณ์แอปพลิเคชันบนหน้าจอแสดงผล และเลือกแอปพลิเคชันนำทางของคุณจากรายชื่อที่ปรากฎ ระบบจะแสดงแผนที่เส้นทางบนหน้าจอแสดงผลและมีเสียงเตือนผ่านระบบเสียงของรถ สำหรับรถบางรุ่น คุณสามารถเลือกให้หน้าจอแสดงแผนที่เส้นทางบนแผงหน้าปัดได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณไม่ต้องปล่อยมือออกจากพวงมาลัยและมีสมาธิกับท้องถนน
- ฟีเจอร์ที่ช่วยให้คุณไม่ต้องปล่อยมือจากพวงมาลัย
ผู้ขับขี่ที่เสียสมาธิเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่หลายครั้งสามารถหลีกเลี่ยงได้ ระบบ SYNC ของฟอร์ดคือตัวช่วยสำคัญที่ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อการสื่อสารได้โดยไม่ต้องปล่อยมือจากพวงมาลัย เพียงเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือของคุณผ่านบลูทูธ หรือผ่าน Apple CarPlay หรือ Android Auto คุณก็สามารถโทรออก หรือรับสายโทรศัพท์ รวมทั้งอ่านข้อความผ่านระบบเสียงของรถ และตอบข้อความกลับได้ด้วยข้อความตามที่ได้ตั้งค่าและเขียนไว้แล้ว
* เทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะเป็นเพียงระบบช่วยการขับขี่เท่านั้น และไม่สามารถทดแทนสมาธิขณะขับขี่และการตัดสินใจของผู้ขับขี่ได้ ผู้ขับขี่จะต้องบังคับควบคุมรถตลอดเวลา โดยสามารถเปิดใช้งานระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะเพื่อช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุได้ ทั้งนี้ ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะอาจไม่ทำงานภายใต้ความเร็วระดับหนึ่งหรือสภาวะแวดล้อมบางสภาวะ
**ระบบความปลอดภัยอาจแตกต่างกันในรถบางรุ่น โดยคุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดทั้งหมดและฟีเจอร์ของรถได้ที่ www.ford.co.th