DS No8 ถือเป็นเรือธงรุ่นใหม่ของแบรนด์ DS ที่เกิดขึ้นจากฝรั่งเศส โดย DS ได้แยกตัวออกจากการเชื่อมโยงกับ Citroen และถูกวางตำแหน่งให้เป็นแบรนด์พรีเมียมในกลุ่ม Stellantis แทน โดย DS No8 มาในดีไซน์ใหม่ที่ใช้ชื่อเรียกแบบใหม่ พร้อมทั้งตั้งเป้าเพื่อดึงดูดลูกค้าที่มองหารถจากแบรนด์อย่าง BMW, Audi, Mercedes รวมไปถึง Tesla และ Polestar ด้วย
DS No8 จะเริ่มวางจำหน่ายในกลางปี 2025 โดยมีราคาตั้งแต่ 50,790 ปอนด์ ในรุ่น Pallas และสูงสุดที่ 63,290 ปอนด์ ในรุ่น Etoile AWD ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ 97.2kWh ซึ่งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จะเพิ่มราคาประมาณ 4,000 ปอนด์ และสามารถเพิ่มระยะทางการขับขี่ได้มากขึ้นประมาณ 100 ไมล์ ในขณะที่รุ่น Etoile ก็จะเพิ่มราคาด้วยเช่นกัน รวมทั้งการเพิ่มระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD
แม้ DS No8 จะเป็นรถ SUV คูเป้ขนาดกลางที่ใช้พลังงานไฟฟ้า แต่ในตัวมันเองยังสะท้อนถึงการปรับกลยุทธ์ของ DS ในการทำตลาด โดยมุ่งเน้นเรื่องความหรูหรา ความสะดวกสบาย และสิ่งที่เรียกว่า “ความสงบ” ซึ่งหมายถึงการเป็นรถที่ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นและง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้งานที่สะดวกสบาย, ระบบขับขี่อัตโนมัติ, ประสิทธิภาพการชาร์จที่รวดเร็ว หรือระยะทางการขับขี่ที่ยาวนาน
สเปคที่สำคัญ
- ประเภทเชื้อเพลิง: พลังงานไฟฟ้า
- สไตล์ตัวถัง: SUV คูเป้ 5 ประตู
- พลังงาน: มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว (FWD) หรือมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ (AWD)
- ราคา: 50,790 ปอนด์ ถึง 63,290 ปอนด์
ระบบขับเคลื่อนและสมรรถนะ
DS No8 มีทางเลือกของระบบขับเคลื่อนสามแบบ:
- รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) ใช้แบตเตอรี่ 73.7kWh ให้กำลัง 227 แรงม้า โดยมีโหมดเพิ่มพลังที่จะเพิ่มกำลังได้ 30 แรงม้าในช่วงสั้นๆ รวมเป็น 257 แรงม้า และสามารถทำ 0-62 ไมล์/ชม. ได้ใน 7.7 วินาที
- รุ่น FWD Long Range ใช้แบตเตอรี่ 97.2kWh พร้อมกำลัง 242 แรงม้า (276 แรงม้าในโหมดเพิ่มพลัง) โดยสามารถทำ 0-62 ไมล์/ชม. ได้ใน 7.8 วินาที
- รุ่น AWD Long Range ขับเคลื่อนสี่ล้อ มีกำลังสูงสุด 345 แรงม้า (370 แรงม้าในโหมดเพิ่มพลัง) สามารถทำ 0-62 ไมล์/ชม. ได้ใน 5.4 วินาที
ระยะทางการขับขี่และการชาร์จ
- ระยะทาง: รุ่น FWD Long Range สามารถขับได้ถึง 466 ไมล์ในมาตรฐาน WLTP
- การชาร์จ: รุ่น FWD Long Range สามารถชาร์จจาก 20% ถึง 80% ในเวลา 27 นาทีบนเครื่องชาร์จ 200kW โดยสามารถเพิ่มระยะทางได้ถึง 200 กม. (124 ไมล์) ใน 10 นาที
- ความคุ้มค่า: ด้วยเทคโนโลยีการออกแบบที่เน้นความลู่ลม DS No8 จึงมีค่า Cd ที่ 0.24 ซึ่งถือเป็นการออกแบบที่ดีที่สุดในคลาสเดียวกัน
ดีไซน์ภายนอกและภายใน
ดีไซน์ของ DS No8 มุ่งเน้นการออกแบบที่หรูหราและเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน โดยมีไฟ DRL รูปแบบใบมีดที่ออกแบบมาอย่างเฉียบคม ด้านในก็เน้นความหรูหรา ด้วยวัสดุที่มีคุณภาพ เช่น หนัง, อะลูมิเนียม และ Alcantara พร้อมระบบไฟแอมบิเอนท์ 8 สี รวมถึงหน้าจอสัมผัสขนาด 16 นิ้ว สำหรับระบบอินโฟเทนเมนต์ที่ตอบสนองรวดเร็วและทันสมัย
ขนาดและความจุของห้องโดยสาร
- ความจุของห้องเก็บของ: 620 ลิตร ซึ่งถือว่าเยอะมาก
- การนั่ง: แม้จะเป็น SUV ขนาดกลาง แต่การออกแบบที่ต่ำลงทำให้ขับขี่สะดวกสบาย และมีพื้นที่ที่กว้างขวางสำหรับผู้โดยสาร
ระบบความปลอดภัย
ระบบความปลอดภัยของ DS No8 มาพร้อมกับเทคโนโลยี DS Drive Assist 2.0 ซึ่งรวมถึงระบบช่วยควบคุมช่องทางการขับขี่, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และระบบที่ปรับความเร็วของรถตามสภาพแวดล้อมจากแผนที่
ราคา
ราคาของ DS No8 เริ่มต้นที่ 50,790 ปอนด์ ในรุ่น Pallas โดยมีรุ่น Etoile AWD ที่ราคาสูงสุดที่ 63,290 ปอนด์ นอกจากนี้ยังมีออปชั่นเสริม เช่น แพ็คเกจเทคโนโลยี, แพ็คเกจความสะดวกสบาย เพื่อเพิ่มความพรีเมียมในการใช้งาน
การมาถึงของ DS No8 ในตลาดถือเป็นก้าวสำคัญของแบรนด์ในการแข่งกับแบรนด์พรีเมียมระดับโลก อย่างไรก็ตาม ความท้าทายใหญ่ของ DS คือการพิสูจน์ตัวเองในฐานะแบรนด์ที่คู่ควรกับลูกค้าในระดับเดียวกันกับแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอื่นๆ
แหล่งที่มา : autoexpress