บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกันยายน 2563 มียอดการขายรวมทั้งสิ้น 77,943 คัน ลดลง 3.5% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 29,245 คัน ลดลง 22.7% รถเพื่อการพาณิชย์ 48,698 คัน เพิ่มขึ้น 13.5% ขณะที่ รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 38,196 คัน เพิ่มขึ้น 11.6%
ประเด็นสำคัญ
ตลาดรถยนต์เดือนกันยายนมีปริมาณการขาย 77,943 คัน ลดลง 3.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 22.7% และตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 13.5% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ส่วนตลาดรถยนต์สะสม 9 เดือน มีปริมาณการขาย 534,765 คัน ลดลง 29.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 38.2% ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 24.2% เป็นผลกระทบมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19
สำหรับเดือนกันยายนนี้ จากการที่ภาครัฐฯ ออกมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจในด้านต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และผู้บริโภคให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้เช่นกัน นอกจากนี้ในด้านของตลาดรถยนต์ บรรดาค่ายรถยนต์ต่างพยายามกระตุ้นการตัดสินใจซื้อรถของผู้บริโภค โดยการออกกลยุทธ์และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย อาทิเช่น การจัดกิจกรรมโรดโชว์ตามห้างสรรพสินค้า รวมถึงการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ รุ่นตกแต่งพิเศษเพื่อดึงดูดความสนใจ และสร้างสีสันให้กับตลาดรถยนต์ ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ในเดือนกันยายนมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนกันยายน 2563
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 77,943 คัน ลดลง 3.5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า | 23,757 คัน | ลดลง 3.6% | ส่วนแบ่งตลาด 30.5% |
อันดับที่ 2 อีซูซุ | 15,438 คัน | เพิ่มขึ้น 44.8% | ส่วนแบ่งตลาด 19.8% |
อันดับที่ 3 ฮอนด้า | 9,077 คัน | ลดลง 12.4% | ส่วนแบ่งตลาด 11.6% |
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 29,245 คัน ลดลง 22.7%
อันดับที่ 1 ฮอนด้า | 7,598 คัน | ลดลง 8.4% | ส่วนแบ่งตลาด 26.0% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 5,430 คัน | ลดลง 44.0% | ส่วนแบ่งตลาด 18.6% |
อันดับที่ 3 นิสสัน | 2,240 คัน | ลดลง 16.7% | ส่วนแบ่งตลาด 7.7% |
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 48,698 คัน เพิ่มขึ้น 13.5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า | 18,327 คัน | เพิ่มขึ้น 22.5% | ส่วนแบ่งตลาด 37.6% |
อันดับที่ 2 อีซูซุ | 15,438 คัน | เพิ่มขึ้น 44.8% | ส่วนแบ่งตลาด 31.7% |
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ | 3,124 คัน | ลดลง 22.5% | ส่วนแบ่งตลาด 6.4% |
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 38,196 คัน เพิ่มขึ้น 11.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า | 15,332 คัน | เพิ่มขึ้น 13.9% | ส่วนแบ่งตลาด 40.1% |
อันดับที่ 2 อีซูซุ | 14,143 คัน | เพิ่มขึ้น 51.4% | ส่วนแบ่งตลาด 37.0% |
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ | 3,124 คัน | ลดลง 22.5% | ส่วนแบ่งตลาด 8.2% |
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 3,903 คัน
โตโยต้า 2,147 คัน- มิตซูบิชิ 959 คัน – ฟอร์ด 514 – คัน- อีซูซุ 268 คัน – เชฟโรเลต 14 คัน – นิสสัน 1 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 34,293 คัน เพิ่มขึ้น 15.7%
อันดับที่ 1 อีซูซุ | 13,875 คัน | เพิ่มขึ้น 59.7% | ส่วนแบ่งตลาด 40.5% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 13,185 คัน | เพิ่มขึ้น 13.0% | ส่วนแบ่งตลาด 38.4% |
อันดับที่ 3 ฟอร์ด | 2,331 คัน | ลดลง 24.5% | ส่วนแบ่งตลาด 6.8% |