ดูเหมือนว่าปัญหาสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนจะยังคงยืดเยื้อและไม่มีท่าทีที่จะจบลงได้ง่ายๆ ซึ่งแน่นอนว่าการทำสงครามส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ รวมถึงอุตสหกรรมยานยนต์ในรัสเซียก็ได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นเดียวกัน
ในปี 2022 ที่ผ่านมาได้มีการส่งมอบรถยนต์ใหม่ให้กับเจ้าของเป็นจำนวนทั้งสิ้น 687,370 ซึ่งหากมองกันที่ตัวเลขนี้จะดูเหมือนว่าเป็นจำนวนที่มาก แต่ต้องอย่าลืมว่ประเทศรัสเซียเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และมีจำนวนประชากรมากถึง 143 ล้านคน และเมื่อมองเปรียบเทียบย้อนกลับไปในปี 2021 หรือช่วงก่อนเกิดสงคราม พวกเขาสามาถขายรถยนต์ไปได้มากถึง 1.6 ล้านคัน ซึ่งมากกว่าปี 2022 ที่ผ่านมาถึง 58.8 เปอร์เซ็นต์
ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติตะวันตกได้ทยอยออกจากตลาดรัสเซียอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการคว่ำบาตรรัสเซียที่ก่อสงครามในครั้งนี้ ซึ่งรวมถึง Renault บริษัทรถยนต์ชื่อดังจากประเทศฝรั่งเศษ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ใหม่ในรัสเซียมากถึง 29 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำอย่าง Ford, Mercedes-Benz, Toyota, Honda, BMW และ Nissan ต่างระงับกิจการและเริ่มทะยอยเลิกกิจการในประเทศรัสเซียตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้ผู้ผลิตรถยนต์ท้องถิ่นของรัสเซียหลายรายถูกบังคับให้หยุดการผลิตชั่วคราวในช่วงปี 2022 ที่ผ่านมาเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนและชิปเซมิคอนดักซ์เตอร์ ซึ่งรถยนต์หลายๆรุ่นจะถูกขายโดยไม่มีถุงลมนิรภัยและระบบเบรก ABS เนื่องจากไม่มีชิ้นส่วนที่จำเป็นนั่นเอง
โดยในปี 2023 สมาคมธุรกิจยุโรป (The Association of European Businesses) ได้คาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศรัสเซียอาจเพิ่มขึ้นราวๆ 12 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ (770,000 คัน) แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัย ทั้งปัญหาสงครามที่กำลังยืดเยื้อ และปัญหาการคาดแคลนชิ้นส่วนชิปเซมิคอนดักซ์เตอร์ ซึ่งบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกต่างก็เจอปัญหาดังกล่าวเช่นเดียวกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก : carscoops.com / wsj.com / nytimes.com