แม้ว่า Bentley จะกำลังเปลี่ยนไปเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าล้วน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าบริษัทจะเลิกนำเสนอรถเครื่องยนต์สันดาปภายในทันที ล่าสุดได้มีการเปิดตัว Bentley Mulliner Batur รถแกรนด์ทัวริ่งคูเป้ที่ได้ชื่อว่าทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ออกมา คาดส่งมอบคันแรกในช่วงกลางปี 2023
Bentley Mulliner Batur ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ W12 ความจุ 6.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่ได้รับการอัพเกรดใหม่ทั้งเทอร์โบชาร์จเจอร์ อินเตอร์คูลเลอร์ขนาดใหญ่ ท่อไอเสียไททาเนียม และการอัพเกรดอื่นๆ อีกจำนวนมาก
ส่งผลให้เครื่องยนต์ผลิตกำลังได้มากกว่า 740 แรงม้า (PS) และแรงบิด 1,000 นิวตันเมตร หรือเพิ่มขึ้น 81 แรงม้า และแรงบิดเพิ่ม 100 นิวตันเมตร เมื่อเทียบกับ Continental GT ส่งกำลังด้วยเกียร์คลัทช์คู่ 8 สปีด สามารถเร่งจากจุดหยุดนิ่งถึง 96 กม.ต่อชม. ได้ภายใน 3.5 วินาที และทำความเร็วได้สูงสุด 335 กม.ต่อชม.
นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อ ระบบควบคุมแรงบิด ระบบกันช่วงล่างถุงลมแบบปรับได้ ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ รวมถึงระบบเบรกคาร์บอน-ซิลิคอน-คาร์ไบด์ (CSiC) ที่มีคาลิปเปอร์ 10 สูบและดิสก์เบรกด้านหน้าขนาด 440 มม. และคาลิปเปอร์ 4 สูบจับคู่กับดิสก์เบรกหลัง ขนาด 410 มม.
Bentley Mulliner Batur ไม่เพียงแต่เป็นรถที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Bentley เท่านั้น แต่ยังโดดเด่นด้วยการออกแบบที่ทันสมัย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงทิศทางการจัดสไตล์ของรถ EV ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย
ผู้ผลิตรถยนต์จากอังกฤษไม่ได้เจาะจงรายละเอียดมากนัก แต่สังเกตว่ารถได้รับการติดตั้งกระจังหน้าที่ถูกปรับปรุงให้ต่ำลงและตั้งตรงมากขึ้นเพื่อให้มีรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งและมั่นใจ เช่นเดียวกับไฟหน้าแบบมินิมอล เมื่อถอยห่างออกไป เราจะเห็นตัวถังที่โฉบเฉี่ยวและเส้นสายที่เด่นชัด ด้านหลังดูมีความสปอร์ตและบึกบึน พร้อมสปอยเลอร์หลังแบบแอคทีฟ
ไฮไลท์อื่นๆ ยังรวมถึงล้อขนาด 22 นิ้วที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น สปลิตเตอร์ด้านหน้า สเกิร์ตข้างแอโร่ไดนามิค และดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังที่ทำขึ้นจากวัสดุผสมคาร์บอนไฟเบอร์หรือเส้นใยธรรมชาติ
ภายในห้องโดยสารลูกค้าสามารถปรับแต่งได้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่การเลือกใช่แผ่นไม้อัดคอมโพสิตไฟเบอร์ธรรมชาติไปจนถึงลายไม้แบบดั้งเดิม หากไม่พิเศษพอปุ่มควบคุมสามารถเปลี่ยนเป็นแบบทองคำ 18K ที่พิมพ์ 3 มิติได้อีกด้วย
Bentley Mulliner Batur จะถูกผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 18 คันเท่านั้น และมีราคาเริ่่มต้นที่ 1.65 ล้านปอนด์ หรือราว 70 ล้านบาท (ไม่รวมภาษี)
CR : Carscoops