All-New Honda WR-V ราคา 799,000 บาท

All-New Honda WR-V เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการในไทย เคาะเริ่ม 799,000 บาท

ฮอนด้า ประเทศไทย เปิดตัว All-New Honda WR-V ยนตรกรรมเอสยูวีอเนกประสงค์ 5 ที่นั่งรุ่นล่าสุด โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ต โฉบเฉี่ยวทันสมัย ผสานความแกร่งในสไตล์เอสยูวีพร้อมห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะนั่งด้านหลังแถว 2 ปรับพับได้ และ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย

Honda WR-V ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่

  • รุ่น SV ราคา 799,000 บาท
  • รุ่น RS ราคา 869,000 บาท

ภายนอก

  • กระจังหน้าโครเมียม
  • มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ
  • ไฟหน้าพร้อมไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED sequential และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
  • ระบบเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
  • กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับและพับไฟฟ้า
  • ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบหน่วงเวลา และระบบปัดน้ำฝนด้านหลัง
  • เสาอากาศแบบครีบฉลาม
  • ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว

รุ่น RS ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมไปอีกขั้น ด้วยดีไซน์เอกซ์คลูซีฟรอบคัน

  • กระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ต โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ RS
  • ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
  • กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับและพับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ
  • ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว

ภายใน

  • แบบพับเบาะแถวหลัง 60:40 (ซ้ายหรือขวา)
  • แบบพับเบาะแถวหลังทั้งหมด
  • วัสดุที่ใช้กับเบาะที่นั่งให้สัมผัสนุ่ม เสริมความพรีเมียมมากขึ้นด้วยภายในสีดำ
  • วัสดุตกแต่งภายในสีดำ Piano black และตกแต่งแถบสีเงิน
  • มือจับประตูด้านในสีเงิน
  • เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ วัสดุหุ้มเบาะหนังสังเคราะห์สีดำ ตกแต่งด้วยผ้าและด้ายสีน้ำเงิน
  • พวงมาลัยหุ้มหนัง ตกแต่งด้วยด้ายสีน้ำเงิน ปรับระดับสูง-ต่ำได้

ภายในให้ความรู้สึกสปอร์ตยิ่งขึ้นกับรุ่น RS

  • วัสดุตกแต่งภายในสีดำ Piano black และตกแต่ง Piano black แถบสีแดง
  • เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ วัสดุหุ้มเบาะหนังสังเคราะห์สีดำ ตกแต่งด้วยผ้าและด้ายสีแดง
  • พวงมาลัยหุ้มหนัง ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง ปรับระดับสูง-ต่ำได้
  • คิ้วบันไดสเตนเลสที่ประตูหน้า พร้อมสัญลักษณ์ RS

ติดตั้งเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับระบบเกียร์ CVT ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อมอบสมรรถนะที่ดีเยี่ยม ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 145 นิวตัน-เมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างคล่องตัว ทรงพลังแต่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยอัตราการประหยัดน้ำมัน 16.7 กม./ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20

ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC)
  • ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)

พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่นๆ อาทิ

  • ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) (รุ่น RS)
  • ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS)
  • ถุงลมด้านข้างคู่หน้า (Side Airbags)
  • ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags) (รุ่น RS)
  • ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
  • ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
  • กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera)
  • ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติตามความเร็วรถ (Auto Door Lock by Speed)
  • ระบบเซ็นทรัลล็อกพร้อมสวิตช์ควบคุมตำแหน่งคนขับ
  • ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า
  • เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง แบบดึงกลับอัตโนมัติ พร้อมเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารแถวที่ 2 แบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง
  • ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมสัญญาณกันขโมย
  • สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
  • ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
  • ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
  • ระบบป้องกันล้อล็อกและระบบกระจายแรงเบรก (ABS & EBD)
  • โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-CON และ ACETM ช่วยปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง
  • จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
  • ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED

สั่งการได้ด้วยปลายนิ้วสัมผัส กับเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่และความสะดวกสบาย เชื่อมต่อคุณและรถให้เป็นหนึ่งเดียว

  • ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)
  • ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System)
  • ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)
  • มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 2 นิ้ว
  • ไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด (Eco Indicator)
  • ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
  • ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth)
  • พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
  • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) (รุ่น RS)
  • ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง
  • ช่องจ่ายไฟสำรอง 2 ตำแหน่ง
  • ลำโพง 4 ตำแหน่ง (รุ่น SV) และ 6 ตำแหน่ง (รุ่น RS)
  • Honda CONNECT เทคโนโลยีที่เชื่อมคุณและรถยนต์เข้าไว้ด้วยกัน ผ่านการทำงานของแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน (รุ่น RS)

สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีใหม่ สีเงินสเตลลาร์ ไดมอนด์ (มุก) สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) / หลังคาสีดำ (ทูโทน) (เฉพาะรุ่น RS) สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) และสีขาวทาฟเฟต้า

บทความที่น่าสนใจ

Mitsubishi Triton Absolute รถกระบะแต่งพิเศษ เผยโฉมแล้วที่งาน Motor Show 2019

idiot

เพราะเหตุใด ORA Good Cat GT จึงมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับ ORA Good Cat

idiot

ส่องราคา Chevrolet Corvette C8 เปิดราคาในออสเตรเลียเพียง 3.4 ล้าน

idiot

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy