All New BMW 5-Series เจเนอเรชั่นที่ 8 ถูกเปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการ ในรหัสตัวถัง G60 พร้อมกับการนำเสนอระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 51 ปีของรถรุ่นนี้ด้วย BMW i5 ที่มากับรหัสตัวถัง G61
i5 และ 5-Series ใหม่ที่เปิดตัวออกมาพร้อมกันนี้ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม CLAR ของ BMW แทนที่จะเป็นสถาปัตยกรรม Neue Klasse เจเนอเรชั่นใหม่ที่จะไม่พร้อมใช้จนกว่าจะถึงปี 2025
นอกจากระบบขับเคลื่อนและกระจังหน้าแล้ว ทั้ง 2 รุ่นแทบจะเรียกได้ว่าคือรถคันเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นฝากระโปรงยาว ไฟหน้าคู่อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ มือจับประตูแบบฝังเรียบไปกับตัวถัง เครื่องหมายเลข ‘5’ ที่เสา C แบบ Hofmeister kink ไฟท้าย LED และกันชนทรงสปอร์ต
5-Series ใหม่มีขนาดใหญ่กว่ารุ่นก่อน โดยมีความยาว 199.2 นิ้ว (+3.4 นิ้ว) ความกว้าง 74.8 นิ้ว (+1.3 นิ้ว) และความสูง 59.6 นิ้ว (+1.4 นิ้ว) ฐานล้อยังเพิ่มขึ้นอีก 0.8 นิ้วเป็น 117.9 นิ้วซึ่งยาวที่สุดในเซ็กเมนต์นี้ ส่งผลให้ผู้โดยสารด้านหลังนั่งสบายขึ้น
BMW กล่าวว่า i5 มีพื้นที่ห้องโดยสารเท่ากันกับรุ่น 5 Series เนื่องจากทีการจัดวางแบตเตอรี่ในตำแหน่งที่ต่ำด้านล่างของตัวถัง อย่างไรก็ตามอาจจะมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยในส่วนของพื้นที่วางขา
ภายในห้องโดยสารใช้เค้าโครงแดชบอร์ดที่ทำให้นึกถึง iX SUV โดยมีหน้าจอโค้ง BMW Curved Display แบบดิจิตอลเต็มรูปแบบ อันประกอบด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลขนาด 12.3 นิ้วที่ด้านหลังพวงมาลัยและหน้าจอควบคุมขนาด 14.9 นิ้ว ซึ่งทำงานผ่านระบบปฏิบัติการ BMW iDrive 8.5 รุ่นล่าสุด ที่มีการแสดงกราฟิกแบบใหม่ พร้อมหน้าจอเริ่มต้นที่ชัดเจน
และการเข้าถึง QuickSelect เพื่อการใช้งานแบบสัมผัสที่ง่ายและไม่ซับซ้อน
นวัตกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจยังรวมถึง BMW Interaction Bar พร้อมไฟส่องสว่าง ambient lighting บริเวณแผงหน้าปัดและประตู สวิตช์เลือกเกียร์แบบใหม่บนแผงควบคุมคอนโซลกลาง หน้าจอ BMW Head-Up และ BMW Natural Interaction สำหรับการควบคุมด้วยท่าทางมีให้เลือกใช้เป็นอุปกรณ์เสริม
นอกจากนี้ BMW i5 ยังเปิดตัวเกมในรถยนต์โดยร่วมมือกับแพลตฟอร์มเกม AirConsole ซึ่งทำให้คนขับและผู้โดยสารสามารถเล่นเกมทั่วไปอย่าง แข่งรถ กีฬา ตอบคำถาม จำลองสถานการณ์ กลยุทธ์ และอื่นๆ ได้อีกด้วย
ในการเปิดตัวสู่ตลาดโลกในเดือนตุลาคม i5 ใหม่จะมีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น eDrive40 มอเตอร์เดี่ยว RWD และรุ่นสมรรถนะสูง M60 xDrive AWD ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมเทคโนโลยี BMW eDrive เจนเนอเรชั่นที่ 5 โดยในรุ่นเริ่มต้นอย่าง i5 eDrive40 ให้กำลัง 335 แรงม้า และแรงบิด 400 นิวตันเมตร หรือ 429 นิวตันเมตร เมื่อเปิดใช้งานฟังก์ชัน Sport Boost หรือ Lanch Control ช่วยให้ทำความเร็ว 0-96 กม.ต่อชม. ได้ใน 5.7 วินาที และความเร็วสูงสุดถูกล็อคไว้ที่ 193 กม.ต่อชม.
i5 M60 xDrive มาพร้อมมอเตอร์คู่ที่ให้กำลัง 590 แรงม้า และแรงบิด 743 นิวตันเมตร หรือ 819 นิวตันเมตร เมื่อเปิดใช้งานฟังก์ชัน M Sport Boost หรือ M Launch Control ทำ 0-96 กม.ต่อชม. ได้ใน 3.7 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 230 กม.ต่อชม.
ทั้ง 2 รุ่นใช้พลังงานจากแบตเตอรี่แรงดันสูงที่มีความจุ 84.3 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ช่วยให้สามารถขับขี่ได้ไกลประมาณ 474 กม. สำหรับ i5 eDrive40 บนล้อมาตรฐานขนาด 19 นิ้ว หรือประมาณ 411 กม. สำหรับ i5 M60 xDrive
เมื่อพูดถึงการชาร์จ BMW i5 สามารถใช้การชาร์จไฟแบบ AC Level 2 ได้สูงสุด 11 กิโลวัตต์ หรือการชาร์จเร็วแบบ DC รองรับสูงสุด 205 กิโลวัตต์ โดยวิธีหลังช่วยให้แบตเตอรี่ชาร์จไฟจาก 10 เป็น 80 เปอร์เซ็นต์ได้ในเวลาประมาณ 30 นาที
ในส่วนของกลุ่มผลิตภัณฑ์ 5 Series ใหม่ จะวางจำหน่ายในสหรัฐฯ แต่รุ่นพื้นฐาน 530i และ 530i xDrive ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จที่ให้กำลัง 255 แรงม้า ถัดไปคือ 540i ที่มีให้เฉพาะกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น ติดตั้งเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียงขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลัง 375 แรงม้า หรือเพิ่มขึ้นอีก 40 แรงม้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ด้วยเทคโนโลยี mild-hybrid ส่งผลให้วิ่ง 0-96 กม.ต่อชม. เหลือเพียง 4.5 วินาที
All New BMW 5-Series มีราคาจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นที่ 57,900 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 2 ล้านบาท (ไม่รวมภาษี)
CR : Motor 1