2022 Mercedes-Benz CLS ได้รับการเผยโฉมแล้วอย่างเป็นทางการ มาพร้อมการอัพเดทหน้าตา เพิ่มออปชั่น และตัวถังสีใหม่ ก่อนออกวางจำหน่ายในสหรัฐฯ ต้นปีหน้า
การปรับโฉมครั้งนี้ทำให้ CLS ใหม่ โดดเด่นสะดุดตาตั้งแต่กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ที่มาในลวดลายดาวสามมิติของ Mercedes-Benz ขณะที่กันชนหน้าถูกออกแบบให้ดูสปอร์ตขึ้น รวมถึงล้อลายใหม่ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบห้าก้านคู่ และแบบหลายก้านสำหรับล้อ 19 นิ้ว และล้อ 20 นิ้วที่มีให้เลือกทั้งสี Tremolite Grey หรือ High-Gloss Black
ที่ด้านหลังมีปลายท่อไอเสียโครเมียมสี่เหลี่ยมคางหมู ประกบคู่กับดิฟฟิวเซอร์หลังที่ตกแต่งด้วยแถบโครเมี่ยม และตัวถังสีน้ำเงินใหม่ที่ชื่อว่า spectral blue metallic (starling blue metallic ในสหรัฐอเมริกา)
การเปลี่ยนแปลงภายในห้องโดยสารค่อนข้างน้อย แต่สามารถพบเห็นพวงมาลัยใหม่ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์แบบ Capacitive สำหรับตรวจสอบว่าผู้ขับมีการจับพวงมาลัยอยู่หรือไม่ พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุลายใม้สีเทาที่มีความมันวาวสูงบนคอนโซลหน้า คอนโซลกลาง และแผงประตูข้าง นอกจากนี้ยังมีออปชั่นหนัง nappa สีทูโทนแบบใหม่ด้วย
ขุมพลังมีให้เลือกหลากหลาย โดยในรุ่นเริ่มต้นถูกติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 1.9 ลิตร ให้กำลัง 194 แรงม้า และแรงบิด 400 นิวตันเมตร ลูกค้ายังสามารถเลือกใช้เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลัง 265 แรงม้า และแรงบิด 550 นิวตันเมตร หรือเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลัง 330 แรงม้า และแรงบิด 700 นิวตันเมตร
ในฝั่งของรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน CLS 350 ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร ให้กำลัง 299 แรงม้า และแรงบิด 400 นิวตันเมตร ขยับขึ้นมาอีกเป็นรุ่น CLS 450 4MATIC ประจำการด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตร ให้กำลัง 367 แรงม้า และแรงบิด 500 นิวตันเมตร
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดคือ CLS 53 4MATIC + มาพร้อมเครื่องยนต์ 6 สูบขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลัง 435 แรงม้า และแรงบิด 520 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด และขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้อัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม. ภายใน 4.5 วินาที ก่อนไปแตะที่ท็อปสปีด 250 กม.ต่อชม.
สำหรับราคาจำหน่ายยังไม่มีการเปิดเผยแต่อย่างใด