fbpx
Ford พาชาว Ranger Raptor สายลุย ร่วมผจญภัยในทริป “Ranger Raptor Adventure”

Ford พาชาว Ranger Raptor สายลุย ร่วมผจญภัยในทริป “Ranger Raptor Adventure”

ฟอร์ด ประเทศไทย จัดทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “Ranger Raptor Adventure” พาชาวเรนเจอร์ แร็พเตอร์ สายลุย จำนวนกว่า 64 ท่าน และแร็พเตอร์คู่ใจทั้งสิ้น 26 คัน ท่องขบวนคาราวาน Ford Ranger Raptor ณ ประเทศลาวและเวียดนาม รวมระยะทางกว่า 2,225 กิโลเมตร

เป็นการกระตุ้นอะดรีนาลีนให้หัวใจสูบฉีด ให้กับกลุ่มคาราวานในการขับรถออฟโรดสมรรถนะสูง ผจญภัยกับธรรมชาติอันน่าตื่นตาตื่นใจตลอด 8 วัน 7 คืนของการเดินทาง ระหว่างวันที่ 16-22 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา

คาราวานชาว Ranger Raptor ออกเดินทางจากภูมิลำเนา มุ่งหน้าไปยังจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเดินทางเข้าประเทศลาวผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองช่องเม็ก และมุ่งหน้าไปยังเมืองปากซองดินแดนแห่งที่ราบสูงโบโลเวน เปิดทริปท่องธรรมชาติด้วยการแวะชมดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ ณ สวนดอกไม้มนตรา ก่อนจะเดินทางไปยังแขวงอัตตะปือ ระหว่างทางชาวคณะมีโอกาสแวะรับความสดชื่นและดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดอันซีนของน้ำตกตาดแซพระ น้ำตกล้านปีที่ไหลลงมาตามธารลาวาจากปากปล่องภูเขาไฟสุดอลังการ ซึ่งคณะจะต้องขับผ่านถนนลูกรังที่เป็นหลุมเป็นบ่อ ระยะทางกว่า 90 กิโลเมตร บนเส้นทางปากซอง-สนามไชย-อัตตะปือ แต่ด้วยโช้คอัพคู่ด้านหน้าและหลังของ FOX Shock ที่ช่วยซับแรงกระแทกจากการขับขี่ออฟโรด ใน Ford Ranger Raptor ทำให้การเดินทางของคณะเป็นไปอย่างง่ายดาย ปลอดภัย และนิ่มนวล

เช้าวันต่อมา คณะเดินทางออกจากแขวงอัตตะปือ มุ่งหน้าไปยังประเทศเวียดนามผ่านด่านโบอี้ หลังจากนั้น คณะเดินทางมุ่งหน้าไปยังเมืองเปลกู ผ่านเส้นทางชนบทที่ยากลำบาก แต่สะท้อนวิถีการดำเนินชีวิตของชาวเวียดนามได้อย่างชัดเจน จากเมืองเปลกู คณะเตรียมตัวออกเดินทางสู่ทะเลทรายมุยเน่ชื่อดังในวันถัดมา ระหว่างการเดินทาง คณะได้เห็นความงดงามของทะเลสีฟ้าครามที่สะท้อนแสงแดดระยิบระยับและภูเขาสูงที่มีเส้นทางรถไฟแล่นผ่านเพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองฮานอย

ในวันที่สี่ของทริป คาราวาน Ranger Raptor พาผู้ร่วมเดินทางเข้าชมลําธารนางฟ้า หินทรายขนาดใหญ่ที่ถูกน้ำกัดเซาะจนเป็นร่องขนาดกว้างกว่า 20 เมตร เผยให้เห็นชั้นสีอันสวยงามของหินตัดกับสีน้ำลำธารที่พัดตะกอนแดงไหลผ่าน โดยน้ำในลำธารสูงระดับข้อเท้าทำให้ผู้คนสามารถเข้าไปเดินเล่น ดื่มด่ำบรรยากาศลำธารนางฟ้าแห่งนี้ได้ ก่อนเดินทางไปสัมผัสกับความอลังการของทะเลทรายขาวมุยเน่ บนพื้นที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา เพื่อทดสอบสมรรถนะของ Ranger Raptor โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โหมดบาฮา ที่ใช้ในการขับขี่แบบออฟโรดความเร็วสูง

ชาว Ranger Raptorได้สัมผัสกับสมรรถนะที่แท้จริงของตัวรถ ทั้งการทำงานที่ลงตัวระหว่างเครื่องยนต์และเกียร์ อัตราเร่ง การตอบสนอง รวมถึงความพิเศษของโหมดบาฮา ที่ช่วยให้การขับขี่เป็นเรื่องง่ายดายในการฟันฝ่าอุปสรรคของทุกสภาพถนน ต่อจากนั้นคณะเดินทางต่อไปยังเมืองดาลัด เมืองแห่งดอกไม้สุดโรแมนติก ที่มาพร้อมกับอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปีเนื่องจากตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,500 เมตร ระหว่างทางไปเมืองดาลัด คณะยังได้ซึมซับกับธรรมชาติป่าเขาอันเขียวขจี สองข้างฝั่งถนนรายล้อมไปด้วยภูเขาสูง

วันต่อมา คณะได้เที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวประจำเมืองดาลัด เริ่มต้นด้วยการชมทุ่งไฮเดรนเยีย ดอกไม้ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองดาลัด และท่องเที่ยวต่อที่น้ำตกดาตันลา ที่ชาว Ranger Raptor ได้นั่งรถรางสุดตื่นเต้นลงไปชมน้ำตก เพลิดเพลินกับวิวเขียวชอุ่มและดอกไม้สีสดใสตลอดสองข้างทาง

หลังจากนั้น คณะเดินทางได้เข้าชมพระราชวังตากอากาศของจักรพรรดิเบ๋าได๋ ซึ่งตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมตะวันตกและตะวันออกที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง ต่อด้วยการเข้าชมวัดตั๊กลัม วัดนิกายเซนที่ตั้งอยู่บนเนินเขารายล้อมด้วยสวนดอกไม้ผลิบาน ก่อนที่จะแวะชม Crazy House บ้านดีไซน์แปลกตาเหมือนบ้านในจินตนาการที่หลุดออกมาจากเทพนิยาย และเดินเที่ยวเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองที่ตลาดดาลัด

ในวันถัดมา คาราวานเรนเจอร์ แร็พเตอร์ ยกขบวนออกจากเมืองดาลัดเพื่อเดินทางกลับประเทศไทย โดยมุ่งหน้าไปยังเมืองเปลกูและพักค้างคืน ก่อนจะเดินทางต่อไปยังประเทศลาว ผ่านด่านช่องเม็กเพื่อกลับเข้าสู่แผ่นดินสยามและเดินทางต่อถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ นับเป็นการจบทริปผจญภัย “Ranger Raptor Adventure” อย่างน่าประทับใจ

ตลอดทริปการเดินทางครั้งนี้ Ford Ranger Raptor ได้พิสูจน์ให้ชาว Ranger Raptor สัมผัสกับสุดยอดสมรรถนะของรถคู่ใจและการทำงานของขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร แบบ Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด เทคโนโลยีเปี่ยมสมรรถนะของฟอร์ด ที่มอบพละกำลัง 213 แรงม้า และแรงบิดสูงถึง 500 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งและการตอบสนองที่ดีขึ้น พร้อมทั้งระบบTerrain Management System (TMS) ที่มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ถึง 6 รูปแบบ ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดหญ้า/กรวด/หิมะ โหมดหิน โหมดโคลน/ทราย และโหมดบาฮา (Baja) ทำให้สามารถพิชิตได้ทุกเส้นทางหฤโหด

พร้อมระบบกันสะเทือนที่มาพร้อมโช๊ค FOX Shock ซับแรงกระแทกตลอดการเดินทาง นอกจากนี้ Ranger Raptor มีระบบเบรกอันทรงพลังโดยการใช้ชิ้นส่วนพิเศษที่ทำขึ้นเฉพาะรุ่น คาลิปเปอร์เบรกคู่หน้าเป็นแบบลูกสูบคู่ มาพร้อมกับจานเบรกคู่หน้าแบบมีครีบระบายความร้อนที่มีขนาดใหญ่ ส่วนด้านหลังมาพร้อมกับดิสก์เบรกที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเบรกให้ดียิ่งขึ้น ทำให้การเดินทางไทย – ลาว – เวียดนาม ในครั้งนี้ผ่านไปอย่างได้อย่างราบรื่น


 

บทความที่น่าสนใจ

Zeekr อาจเป็นแท็กซี่แบบไร้คนขับคันต่อไปในสหรัฐอเมริกา

Warunya T.

ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของ BMW ในเดือนกันยายนปี 2024 เติบโตอย่างน่าพอใจ

admin bell

กรุงศรี ออโต้ เปิดคู่มือวางแผนเที่ยว กับฟีเจอร์ใหม่ ‘บัดดี้ท่องเที่ยวคู่ใจผู้ใช้รถ’ บน GO Travel

palm

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy