เมื่อเลือกยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จำเป็นต้องคำนึงถึงน้ำหนักที่มากกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน เนื่องจากแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ใน EV ทำให้รถมีน้ำหนักมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเลือกยางและประสิทธิภาพในการขับขี่ นี่คือสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการเลือกยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
รถยนต์ไฟฟ้ามีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในถึง 30% ซึ่งทำให้การเลือกยางที่มีคุณภาพและทนทานเป็นสิ่งสำคัญ ตัวอย่างเช่น Hyundai Kona EV มีน้ำหนัก 3,758 ปอนด์ ขณะที่รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปหนัก 3,053 ปอนด์ นอกจากนี้ยังมีรถบรรทุกไฟฟ้าอย่าง Ford F-150 Lightning ที่มีน้ำหนักสูงถึง 6,500 ปอนด์ ในขณะที่รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปมีน้ำหนักเพียง 5,000 ปอนด์
น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นของ EV ส่งผลให้ยางต้องรับแรงกดที่มากขึ้นระหว่างการขับขี่ ซึ่งทำให้เกิดการเสียดสีและการสึกหรอเร็วกว่ารถยนต์ทั่วไป ซึ่งจะส่งผลให้ยางของ EV มีอายุการใช้งานสั้นกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ดังนั้นยางที่ใช้สำหรับ EV จึงต้องมีความทนทานและสามารถรองรับน้ำหนักจากแบตเตอรี่ได้ดี ยางเฉพาะสำหรับ EV อย่าง Sailun ERange ได้รับการออกแบบด้วยขอบยางเสริมที่มีความแข็งแรง เพื่อรองรับน้ำหนักและยังคงประสิทธิภาพในการขับขี่ที่ดี
หนึ่งในลักษณะเด่นของรถยนต์ไฟฟ้าคือแรงบิดที่มีทันทีเมื่อเริ่มออกตัว ซึ่งทำให้เกิดแรงเสียดทานที่มากขึ้นระหว่างยางและถนน ส่งผลให้ยางสึกหรอเร็วขึ้น ยางที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับ EV จะช่วยลดแรงเสียดทาน และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเบรก โดยการออกแบบดอกยางที่เหมาะสมกับแรงบิดและน้ำหนักของรถยนต์ไฟฟ้า
ความสำคัญของการเลือกยางที่เหมาะสม : เมื่อเลือกยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ควรเลือกยางที่มี ความต้านทานการหมุนต่ำ (low rolling resistance) ซึ่งจะช่วยลดการเสียดทานในยาง ทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยเพิ่มระยะทางในการขับขี่ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
สามารถใช้ยางทั่วไปกับรถยนต์ไฟฟ้าได้หรือไม่ : การใช้ยางทั่วไปกับรถยนต์ไฟฟ้าเป็นไปได้ แต่ไม่แนะนำ เนื่องจากยางทั่วไปไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำหนักและแรงบิดที่สูงของ EV หากใช้ยางทั่วไปอาจทำให้การขับขี่ไม่ราบรื่น และลดระยะทางที่สามารถขับขี่ได้จากการชาร์จหนึ่งครั้ง
การเลือกยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าควรพิจารณาน้ำหนักที่มากขึ้นจากแบตเตอรี่และแรงเสียดทานที่สูงจากแรงบิดของมอเตอร์ไฟฟ้า ยางสำหรับ EV เช่น Sailun ERange ได้รับการออกแบบเพื่อรองรับความต้องการเหล่านี้ โดยมีคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มความทนทานและประสิทธิภาพการขับขี่ รวมถึงการช่วยเพิ่มระยะทางในการขับขี่ให้ยาวนานยิ่งขึ้น
การเลือกยางที่เหมาะสมกับน้ำหนักและลักษณะการขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้าจะช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของยางได้มากที่สุด
แหล่งที่มา : insideevs