Nissan Hyper Force

ชมคันจริง Nissan Hyper Force Concept ต้นแบบรถสปอร์ตไฟฟ้าว่าที่ GT-R รุ่นใหม่?

Nissan Hyper Force Concept ถูกเปิดผ้าคลุมเผยโฉมออกมาแล้วในงาน Japan Mobility Show 2023 มาพร้อมดีไซน์ที่แสดงให้เห็นถึงแนวทางการออกแบบรถสปอร์ตในอนาคตของ Nissan ซึ่งว่ากันว่าอาจวิวัฒนาการเป็น GT-R รุ่นต่อไปที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า   

Hyper Force Concept เป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อ “ผู้ชื่นชอบการแข่งรถและนักเล่นเกมที่กระหายความตื่นเต้นจากอะดรีนาลีนในสนามแข่ง แต่ยังคำนึงถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

หัวใจหลักของรถยนต์รุ่นนี้คือระบบส่งกำลังไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่ให้พละกำลังสูง พร้อมด้วยแบตเตอรี่โซลิดสเตตที่มีความสมดุลของน้ำหนักอย่างเหมาะสม ซึ่งสามารถผลิตพลังงานได้สูงถึง 1,000 กิโลวัตต์ หรือ 1,341 แรงม้า พร้อมระบบควบคุมการขับเคลื่อน e-4ORCE ที่ควบคุมล้อทั้งสี่ได้อย่างแม่นยำ ตัวถังน้ำหนักเบาที่ประกอบด้วยคาร์บอนที่มีความแข็งแรงสูง ช่วยให้เข้าโค้งได้ดีขึ้นและควบคุมได้อย่างยอดเยี่ยมในสนามแข่งและถนนที่คดเคี้ยว

การออกแบบภายนอกมีสัดส่วนที่กว้างและลงตัวเป็นการผสมผสานระหว่างส่วนโค้งเพรียวที่เข้ากันอย่างลงตัวกับรูปทรงเรขาคณิตที่โดดเด่น สะท้อนถึงสมรรถนะที่โดดเด่นของเครื่องยนต์ที่อยู่ด้านล่าง องค์ประกอบต่างๆ ที่รวมอยู่ในการออกแบบ อาทิ ไฟหน้าและไฟท้าย ถือเป็นสัญลักษณ์ของรถยนต์สมรรถนะสูงจาก Nissan

รูปโฉมภายนอกตอบสนองสมรรถนะสูงจากหลักอากาศพลศาสตร์ซึ่งได้รับการพัฒนาร่วมกับทีมแข่ง NISMO เพื่อสร้างแรงกด Downforce อันทรงพลัง โครงสร้างหลักอากาศพลศาสตร์สองชั้นใต้ฝากระโปรงหน้าให้ทั้งแรงกดที่แข็งแกร่ง และประสิทธิภาพการระบายความร้อนสูง

ในขณะเดียวกัน ดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังแบบสองระดับ จะควบคุมการไหลเวียนของอากาศได้อย่างเหมาะสม ชิ้นส่วนคานาร์ดด้านหน้า บังโคลนหน้า และปลายทั้งสองข้างของปีกหลัง มอบประสิทธิภาพเชิงอากาศพลศาสตร์ที่ยอดเยี่ยม ในขณะที่ ชิ้นส่วนแอคทูเอเตอร์พลาสม่าที่พัฒนาขึ้นใหม่จะควบคุมการไหลของอากาศเพื่อเพิ่มการยึดเกาะสูงสุดและลดการยกตัวของล้อด้านในระหว่างการเข้าโค้ง ล้อคาร์บอนลายหินอ่อนน้ำหนักเบาช่วยเสริมอากาศพลศาสตร์และการระบายความร้อนจากเบรก

รถยนต์ต้นแบบนี้มีโหมดการขับขี่สองโหมด ได้แก่ “R” (Racing) และ “GT” (Grand Touring) ซึ่งการแสดงผลผ่านกราฟิกที่จะเปลี่ยนสีและการแสดงผลตามโหมดที่เลือก

ในโหมด R ห้องโดยสารจะปรับแสงบรรยากาศเป็นสีแดงและสร้างพื้นขับขี่ที่ใช้งานง่ายซึ่งโฟกัสไปที่คนขับเพื่อทำให้เกิดสมาธิแผงบนแผงหน้าปัดขยายออกไปบริเวณที่นั่งเพื่อเพิ่มความรู้สึกของการขับขี่ ในขณะเดียวกัน หน้าจอแสดงผลสี่จอรอบตัวและรอบพวงมาลัยจะแสดงลมยาง และอุณหภูมิ ความดันอากาศ อุณหภูมิของจานเบรก การกระจายกำลัง และข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการแข่งรถ

ในโหมด GT ห้องโดยสารจะปรับแสงสว่างเป็นสีน้ำเงินและหน้าจอที่อยู่รอบพวงมาลัยจะเคลื่อนออกไปและรวมเข้าด้วยกันมอบประสบการณ์ที่ดื่มด่ำด้วยอินเทอร์เฟซในระบบอินโฟเทนเมนต์ที่เรียบง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงการตั้งค่าระบบปรับอากาศ เครื่องเสียง ระบบกันสะเทือน และระบบกันการโคลง เพื่อการขับขี่ที่สะดวกสบาย ระบบกันสะเทือนและเหล็กกันโคลงได้รับการออกแบบให้เป็นรายแรกของโลกที่สามารถสั่งการบนหน้าจอได้อย่างง่ายดายในขณะขับขี่

นอกจากนี้ Hyper Force Concept ยังมาพร้อมเทคโนโลยีของโลกเสมือนผสมผสานกับโลกแห่งความจริง (Augmented Reality) และความเป็นจริงเสมือน (Virtual Reality) ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ ที่ช่วยให้การขับขี่ทั้งในโลกจริงและโลกเสมือนจริงเป็นไปอย่างราบรื่น เมื่อรถหยุด ผู้ขับขี่สามารถใช้หมวกกันน็อกแบบพิเศษที่มีกระบังหน้าสำหรับ VR ที่ช่วยให้เข้าสู่ประสบการณ์การขับขี่แบบเกม พร้อมด้วยโหมดที่ช่วยให้สามารถแข่งกับเวลาหรือนักแข่งออนไลน์ได้

ภาพจาก : Carscoops

บทความที่น่าสนใจ

Lexus LX 700h ปี 2025 ราคาเริ่มต้นที่ 115,350 ดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อม 4 รุ่นย่อยให้เลือก

admin bell

Nissan ยืนยันเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในงาน CES คาดเป็น Nissan Leaf เวอร์ชั่นขับเคลื่อนระยะทางไกล

idiot

ออสเตรเลีย เตรียมออกกฎความปลอดภัยของรถยนต์ในขณะที่ “จมอยู่ในน้ำ”

Nopkung

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy