“ฮอนด้า LPGA ไทยแลนด์ 2018 คือความภูมิใจของฮอนด้า” คือคำพูดของ พิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัทฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด บอกกับ www.carvariety.com หลังงานแถลงข่าว การจัดงาน “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018” ที่ในปีนี้ จัดขึ้นเป็นปีที่ 12 ติดต่อกันมาแล้ว
กิจกรรม ฮอนด้า LPGA ไทยแลนด์ เป็นการตัดสินใจอย่างมุ่งมั่นของของฮอนด้าที่ต้องการพัฒนาวงการกีฬากอล์ฟเมืองไทยให้ก้าวขึ้นสู่ระดับนานาชาติ เพราะเมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 12 ปีก่อน คุณพิทักษ์บอกว่า กิจกรรมดังกล่าว ยังไม่ได้การตอบรับอย่างดี มีสปอนเซอร์เข้าร่วมมากมายเหมือนอย่างในขณะนี้ และที่สำคัญ รายการ “ฮอนด้า LPGA ไทยแลนด์” กลายเป็น ทัวร์นาเมนท์ ที่นักกอล์ฟระดับโลกต้องการเข้ามาร่วมแข่งขันมากที่สุดรายการหนึ่งของโลกเลยทีเดียว
“เราโฟกัสและมุ่งมั่นอย่างจริงจัง และเดินหน้าอย่างต่อเนื่องกับกิจกรรมนี้ โดยฮอนด้า ต้องการทำกิจกรรมเพื่อสังคมให้สมกับที่เราเป็นบริษัทที่อยู่ในเมืองไทย เราต้องการคืนกำไรกลับให้กับสังคม ไม่ได้ต้องการใช้กิจกรรมนี้ในลักษณะ Sport Marketing แต่ต้องการคืนกำไรกลับสู่สังคม ในรูปแบบที่เราคิดและมุ่งมั่น”
ในปีแรกของการจัดกิจกรรมนี้เมื่อปี 1997 รายการนี้ชื่อว่า “Asian Honda Golf Classic” ซึ่งในปีนั้น ฮอนด้า สร้างความตื่นแต้นให้กับวงการกอล์ฟเมืองไทยอย่างมาก เมื่อเชิญ ไทเกอร์ วูดส์ นักกอล์ฟ มือ 1 ของโลกเข้าร่วมการแข่งขันด้วย ส่งผลให้เกิดการตื่นตัวอย่างมากต่อวงการกีฬากอล์ฟเมืองไทย
การเชิญนักกอล์ฟระดับโลกมาแข่งในรายการที่จัดขึ้นที่ประเทศไทย โดยเอกชนที่ทำธุรกิจในเมืองไทย ก็เพื่อสร้างเวที และให้โอกาสแก่นักกอล์ฟไทยในการแข่งขันระดับโลก รวมถึงสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกอล์ฟเยาวชนไทยให้ “กล้า” พัฒนาตัวเองให้ก้าวไปสู่เวทีการแข่งขันระดับโลก และความตั้งใจนั้น ก็ส่งผลให้เห็นแล้วจากที่ประเทศไทย มีโปรกอล์ฟ หญิงเกิดขึ้นมากมาย โไม่ว่าจะเป็น โปรอุ๋ย-วิรดา นิราพาธพงศ์พร นักกอล์ฟดาวรุ่งสาวไทยในการก้าวสู่เส้นทางนักกอล์ฟมืออาชีพให้เข้าร่วมการแข่งขันในระดับสากล ซึ่งฮอนด้าให้การสนับสนุนไปเมื่อปี 2004 โปรเม-เอรียา จุฑานุกาล โปรกอล์ฟสาวไทยที่ก้าวขึ้นเบอร์ 1 ของโลกเมื่อปีที่แล้ว โปรโม-โมรียา จุฑานุกาล และโปรแหวน-พรอนงค์ เพชรล้ำ
คุณพิทักษ์ ย้ำว่า การสร้างเวทีการแข่งขันระดับโลกในประเทศไทย นอกจากเป็นการวัดว่านักกอล์ฟเยาวชนไทยมีฝีมืออยู่ในระดับไหนแล้ว ยังเป็นการสร้างโอกาสทางความรู้สึก เพื่อให้เกิดความมั่นใจในกลุ่มนักกอล์ฟเยาวชนไทยว่าสามารถเดินไปในระดับโลกได้
นอกจากการพัฒนานักกีฬาในวงการกอล์ฟแล้วกิจกรรมนี้ยัง ช่วยพัฒนาวงการกีฬากอล์ฟ ทั้งระบบอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาสนามกอล์ฟของไทยให้มีมาตรฐานระดับโลกได้ การพัฒนาผู้จัดการแข่งขันกีฬากอล์ฟให้มีประสบการณ์การจัดงานในระดับโลก ซึ่งหากไม่มีเวทีนี้บุคลากรด้านกอล์ฟของไทย ก็จะไม่มีประสบการณ์ร่วมในกิจกรรมการแข่งขันในระดับโลก
แต่สิ่งที่ได้ประโยชน์มากที่สุดในการจัดกิจกรรม “ฮอนด้า LPGA ไทยแลนด์ 2018” และทุกครั้งที่ผ่านมาคือ “ประเทศไทย” ที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด ในเรื่องของการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยให้คนทั่วโลกได้เห็นประเทศไทยในมุมมองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการท่องเที่ยว รวมไปถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนชาวต่างชาติให้เห็นว่าประเทศไทย มีความมั่นคง มีความสงบถึงสามารถจัดงานการแข่งขันกอล์ฟในระดับโลกได้
“รายการนี้มีการถ่ายทอดสอดไปยัง 30 ประเทศทั่วโลก 200 ล้านครอบครัว ที่มีโอกาสได้ชมการแข่งขันนี้ นั่นคือประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับ เราบอกได้เลยว่าตลอด 12 ปีมานี้เราจัดกิจกรรมนี้ทุกปี แม้ว่าจะมีบางปีที่ประเทศไทยประสบปัญหาในบางอย่าง แต่เราก็สามารถจัดการแข่งขันนี้ได้ เพื่อแสดงให้คนทั่วโลกเชื่อมั่นในประเทศไทย ได้รู้จักประเทศไทยในมุมมองอื่นๆ”
คุณพิทักษ์ ย้ำว่าสิ่งที่ทุกคนได้รับจากกิจกรรม “ฮอนด้า LPGA ไทยแลนด์ 2018” นี้ ไม่สามารถ “ตีค่า” ออกมาเป็นตัวเงินได้ และยืนยันว่า “คุ้มค่า” มากกว่าเงินที่ฮอนด้าลงทุนไปมากมายนัก ซึ่งฮอนด้า อาจจะได้ประโยชน์ใน “ทางอ้อม” อย่างเช่นการยอมรับในแบรนด์ฮอนด้า การสร้างแบรนด์ awareness การเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือตลอด 6 ปีซ้อน ซึ่งผลตอบแทนที่ได้เหล่านี้ถือว่า เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจมากกว่า ประโยชน์ทางตรงที่สะท้อนออกมาเป็นยอดขาย
ส่วนฮอนด้า จะเข้าไปสนับสนุนกีฬาอะไรเพิ่มเติมหรือไม่นั้น คุณพิทักษ์ ตอบชัดเจนว่า “ประเทศไทยมีบริษัทเอกชนมากมายอยู่แล้ว เราขอเน้นการสนับสนุนไปที่กีฬากอล์ฟเพียงประเภทเดียว ส่วนกีฬาประเภทอื่นก็แบ่งให้เอกชนรายอื่นช่วยสนับสนุนดีกว่า”
สำหรับ การแข่งขันกอล์ฟสตรีรายการ “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018” นี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-25 กุมภาพันธ์ 2561 ณ สยามคันทรีคลับ พัทยา โอลด์คอร์ส โดยปีนี้มีนักกอล์ฟที่เข้าแข่งขันรวม 70 คน แบ่งเป็น 58 นักกอล์ฟหญิงที่อยู่ในอันดับประจำปี 2018 ของแอลพีจีเอ (LPGA Official Priority List 2018) อาทิ ชานชาน เฟิง มือวางอันดับ 1 ของโลก ปาร์ค ซอง ฮยอน โปรสาวชาวเกาหลีมือ 2 ของโลกและแชมป์จากรายการยูเอส วีเมนส์ โอเพ่นปีล่าสุด ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในปีนี้เป็นครั้งแรก ริว โซยอน โปรสาวชาวเกาหลีมือ 3 ของโลก และแชมป์รายการเมเจอร์ เอเอ็นเอ อินสไปเรชัน
รวมทั้งแชมป์เก่าของการแข่งขันในปีที่ผ่านๆ มาก็ตอบรับที่จะมาร่วมประชันฝีมือ อาทิ เอมี หยาง (แชมป์ปี 2017 และ 2015) ที่จะกลับมาป้องกันแชมป์อีกครั้ง, เล็กซี ธอมป์สัน (แชมป์ปี 2016 และเจ้าของตำแหน่งนักกอล์ฟคะแนนสะสมมากที่สุดแห่งปี 2017 จาก เรซ ทู ซีเอ็มอี โกลป), แอนนา นอร์ดควิสต์ (แชมป์ปี 2014 และแชมป์รายการเมเจอร์ เอเวียง แชมเปี้ยนชิพ 2017) ดาเนียล คัง แชมป์รายการเคพีเอ็มจี วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ พร้อมด้วย บริททานี ลินซิคัม แชมป์ล่าสุด จากรายการเพียว ซิลค์-บาฮามาส แอลพีจีเอ คลาสสิค 2018 ที่แข่งขันจบไปเมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา และ แชมป์รายการ ไอเอสพีเอส ฮานดา วีเมนส์ ออสเตรเลียน โอเพ่น 2018 อีกทั้งเหล่านักกอล์ฟรับเชิญทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศอีก 10 คน”
รวมถึง โปรกอล์ฟสาวไทยอย่าง โปรเม-เอรียา จุฑานุกาล ผู้สร้างประวัติศาสตร์ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลกเมื่อปีที่ผ่านมาและล่าสุดคว้าแชมป์รายการ ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ ปิดท้ายฤดูกาล 2017 ไปได้สำเร็จ โปรโม-โมรียา จุฑานุกาล และโปรแหวน-พรอนงค์ เพชรล้ำ ก็พร้อมร่วมชิงชัยในบ้านอย่างสมศักดิ์ศรี
ปัจจุบัน การแข่งขันกอล์ฟสตรีรายการ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ถือเป็นหนึ่งในศึกดวลวงสวิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียเป็นโปรแกรมที่ 3 ของตารางแข่งแอลพีจีเอ ซึ่งการแข่งขัน “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018” เดินทางมาถึงปีที่ 12 นอกเหนือจากเงินรางวัลสูงถึง 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 51 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีรางวัลพิเศษ รถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบขนาด 1.6 ลิตร รุ่น DT-EL 4WD มูลค่า 1,699,000 บาท สำหรับผู้ที่สามารถทำโฮลอินวันที่หลุม 16 ได้เป็นคนแรก
สำหรับแฟนกอล์ฟและผู้ที่สนใจเข้าร่วมชมการแข่งขัน สามารถซื้อบัตรเข้าชมล่วงหน้าในราคาพิเศษ ได้ตั้งแต่วันนี้ – 18 กุมภาพันธ์ 2561ที่ www.hondalpgathailand.com บัตรเข้าชมการแข่งขันวันที่ 22 หรือ23 กุมภาพันธ์ ราคา 300 บาท/วัน (จากราคาปกติ 350 บาท/วัน), วันที่ 24 หรือ 25 กุมภาพันธ์ ราคา 400 บาท/วัน (จากราคาปกติ 550 บาท/วัน), แพ็คเกจเข้าชมช่วงสุดสัปดาห์ 2 วัน ราคา 500 บาท (จากราคาปกติ 950 บาท) และแพ็คเกจ 4 วัน ราคา 800 บาท (จากราคาปกติ 1,200 บาท) ซึ่งผู้ชมที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี และอายุ 60 ปีขึ้นไป เข้าชมฟรี
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2018 คลิกดูได้ที่ www.hondalpgathailand.com และ www.facebook.com/lpgaThailand