คำอำลาครั้งสุดท้ายถึงเพื่อนรัก เรื่องราว 25 ปีของคุณยาย Naoko Nishimoto กับ Mazda RX-7

เชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านคงเคยมีประสบการณ์ความผูกพันกับรถยนต์สักคัน ยานพาหนะที่ไม่เพียงเป็นเครื่องมือในการเดินทาง แต่ยังเปรียบเสมือนเพื่อนคู่ใจที่ร่วมเดินทางผ่านเรื่องราวมากมายในชีวิต และเรื่องราวที่เรานำมาแบ่งปันในวันนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งบทบันทึกอันแสนอบอุ่นที่สะท้อนถึงความรักและความผูกพันระหว่างคนกับรถได้อย่างลึกซึ้ง

Mazda RX-7 (FD3S)
Naoko Nishimoto กับ Mazda RX-7

นี่คือเรื่องราวของคุณยาย Naoko Nishimoto วัย 80 ปี ชาวญี่ปุ่น ผู้ครอบครองรถสปอร์ตในตำนานอย่าง Mazda RX-7 เพียงคันเดียวมาตลอด 25 ปี รถคันโปรดที่เธอรักและดูแลเสมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว จนกระทั่งในช่วงกลางปี 2024 เธอได้ตัดสินใจประกาศขายรถสุดที่รักคันนี้ เพื่อมอบโอกาสให้มันได้เริ่มต้นบทใหม่อีกครั้ง ภายใต้การดูแลของผู้ที่ชื่นชอบและเข้าใจในคุณค่าที่แท้จริงของมัน ก่อนอื่นเรามารับชมวีดีโอสุดประทับใจ ที่ทีมงาน Mazda ประเทศญี่ปุ่น ได้ไปตามติดชีวิตคุณยาย ใน 3 วันสุดท้าย ที่คุณยายจะได้อยู่กับรถคู่ใจคันนี้

Naoko Nishimoto ชื่นชอบรถยนต์ ตั้งแต่วัยรุ่น

Naoko Nishimoto ค้นพบความหลงใหลในการขับขี่ตั้งแต่ตอนที่เธอยังเป็นวัยรุ่น โดยเธอได้ใบขับขี่ตั้งแต่อายุ 21 ปี และได้ซื้อรถคันแรกในปีเดียวกันนั้น ซึ่งในช่วงเวลานั้น (ราวๆ ปี 1970) การที่ผู้หญิงสักคนจะขับรถในประเทศญี่ปุ่นยังถือเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยพบเห็น โดย Naoko Nishimoto ได้กล่าวว่า เธอถึงกับต้องทะเลาะกับพ่อและแม่เพื่อที่จะได้ขับรถ และนั่นก็เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอรู้สึกมุ่งมั่นและไม่ยอมถอยแม้แต่น้อย

Naoko Nishimoto with Mazda RX-7

จุดเริ่มต้นของความรัก RX-7

ย้อนกลับไปในปี 1999 คุณยาย Naoko Nishimoto ซึ่งในขณะนั้นอายุ 55 ปี ได้รับชมอนิเมะแข่งรถชื่อดังอย่าง Initial D พร้อมกับลูกชายของเธอ ซึ่งมีตัวละครสำคัญอย่าง Takahashi Keisuke ผู้ซึ่งใช้รถยนต์ Mazda RX-7 สีเหลืองเป็นรถคู่ใจในอนิเมะเรื่องนี้ ทำให้เธอรู้สึกประทับใจในรูปทรงที่สวยงามของตัวรถ ทำให้อีกไม่นานหลังจากนั้น เธอได้ตัดสินใจซื้อ Mazda RX-7 รุ่น Type RB S Package ซึ่งในตอนแรกเธออยากได้รถสีฟ้า แต่เมื่อไปถึงโชว์รูม Mazda พนักงานขายได้แนะนำให้ซื้อรถสีเงิน Highlight Silver Metallic ซึ่งกลายเป็นสีที่เธอไม่เคยเสียใจที่เลือกเลยตลอด 25 ปีที่ผ่านมา

Mazda RX-7 (FD3S) รถสปอร์ตระดับตำนาน โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ Rotary และรูปทรงสุดอมตะที่ดูไม่เก่าเลยแม้กาลเวลาผ่านไปกว่า 30 ปี

Mazda RX-7 (FD3S) ถือเป็นรถสปอร์ตระดับตำนาน ที่หลายๆ คนอยากครอบครองสักครั้งในชีวิต โดยรถรุ่นนี้เปิดตัวครั้งแรกในปี 1992 และเราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า รถรุ่นนี้มีดีไซน์การออกแบบที่สวยงาม ด้วยเส้นสายที่โค้งมนและลื่นไหล ไฟหน้าแบบ pop-up ที่เป็นเอกลักษณ์ ที่ถึงแม้ว่ากาลเวลา จะผ่านมาแล้วกว่า 30 ปี ที่ RX-7 ยังคงดูสวยงามและพร้อมสะกดทุกสายตาจากผู้คนที่ได้พบเห็น

Mazda RX-7 (FD3S)
Mazda RX-7 (FD3S)

ขุมพลังของรถคันนี้ เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์และมีความโดดเด่นมากๆ เพราะ Mazda เลือกใช้เครื่องยนต์แบบ Rotary หรือเครื่องยนต์สูบหมุน ซึ่งเป็นรูปแบบเครื่องยนต์ที่ใช้เฉพาะในรถยนต์สมรรถนะสูงของแบรนด์ในยุคนั้น โดยรถ Mazda RX-7 ของคุณยายมาพร้อมกับเครื่องยนต์โรตารี่แบบ 2 ลูกสูบ รหัส 13B-REW พร้อมด้วยระบบอัดอากาศ Turbocharged ให้พละกำลังสูงสุด 265 แรงม้า จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ โดยรถรุ่นนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของน้ำหนักตัวถังที่เบา ส่งผลให้ตัวรถมีบาลานซ์ที่ดี โดย Mazda RX-7 นิยมนำมาใช้ในการแข่งขันประเภท ดริฟต์ จากน้ำหนักตัวที่เบาของรถรุ่นนี้นั่นเอง

มีความสุขทุกครั้ง ที่ได้ขับรถคันนี้ มาตลอด 25 ปี

ถึงแม้ว่าคุณยาย Naoko Nishimoto จะอาศัยอยู่ในเมืองนางาซากิ ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเขตภูเขา การขับรถเกียร์ธรรมดาโดยเฉพาะผู้สูงอายุ ในสภาพถนนที่มีความลาดชันและเป็นภูเขาเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก แต่คุณยายกลับรู้สึกมีความสุขที่ได้ขับรถ RX-7 เกียร์ธรรมดาคันนี้เป็นรถคู่ใจ และใช้เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน

ที่ผ่านมา คุณยายเคยครอบครองรถยนต์หลายคัน แต่ก็มีการเปลี่ยนรถอยู่หลายครั้ง เนื่องจากเจอปัญหาต่างๆ ของตัวรถจากอายุการใช้งานที่เพิ่มขึ้น แต่สำหรับ RX-7 คันนี้ คุณยายได้เปิดเผยว่า รถแทบจะไม่มีปัญหาอะไรเลย เพียงแค่เปลี่ยนอะไหล่สิ้นเปลืองและอะไหล่ทดแทน ตามเวลาที่กำหนดแค่นั้น และคุณยายยังคงเอารถเข้าตรวจเช็กสภาพและซ่อมบำรุง ตามกำหนดทุกครั้งไม่เคยขาด และยังดูแลสีของตัวรถด้วยการเคลือบแว็กซ์อย่างสม่ำเสมอ ตลอดเวลา 25 ปีที่ผ่านมา

ตัดสินใจขายรถคู่ใจ เนื่องจากอายุที่มากขึ้น

หลังจากครอบครองรถคันนี้มาเกือบ 25 ปี ในที่สุดคุณยายก็ตัดสินใจประกาศขายรถ RX-7 ที่เธอรัก เนื่องจากเธอตัดสินใจที่จะ ส่งคืนใบขับขี่ และไม่ต้องการที่จะขับรถอีกต่อไป เนื่องจากเธอมองว่าตัวเองอายุเยอะแล้ว และไม่เหมาะสมที่จะขับรถอีกต่อไป เนื่องด้วยเหตุผลด้วยความปลอดภัย และต้องการส่งต่อรถของเธอไปอยู่ในมือของคนที่จะสามารถดูแลรถของเธอต่อไปได้ จึงได้ประกาศขายรถในอินเตอร์เน็ต ซึ่งมีผู้ที่ให้ความสนใจและติดต่อเข้ามาขอซื้อรถมากมาย เนื่องจากตัวรถมีสภาพที่สมบูรณ์มากๆ จากการดูแลรักษาเป็นอย่างดี และยังมีระยะทางวิ่งเพียง 77,000 กิโลเมตร รวมถึงประวัติความเป็นมาของรถคันนี้ ทำให้เป็นที่หมายปองของนักสะสมมากมาย โดยคุณยายได้เปิดเผยว่า มีคนส่งอีเมลติดต่อขอซื้อรถของเธอมากกว่า 400 ฉบับ

แต่ในท้ายที่สุด คุณยาย Naoko Nishimoto ได้ตัดสินใจขายรถของเธอให้กับบริษัท Mazda ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากข้อความที่ทางบริษัทส่งมาให้กับเธอนั้น มีเนื้อหาที่สร้างความประทับใจให้กับเธอ และทางบริษัทยังสัญญาว่า จะดูแลรถของเธออย่างดีที่สุด และจะนำรถคันนี้ไปจัดแสดงเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่

18 ธันวาคม 2024 วันเกิดครบรอบ 80 ปี และเป็นวันที่ต้องบอกลาเพื่อนคู่ใจ

ในวันที่ 18 ธันวาคม 2024 เป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 80 ปีของคุณยาย และเป็นวันที่คุณยายได้ขับรถ RX-7 ที่เธอรักเป็นวันสุดท้าย ก่อนที่เธอจะนำรถไปให้กับ Mazda ที่ศูนย์บริการแห่งหนึ่งในเมืองที่เธออาศัยอยู่ โดยทางบริษัทได้จัดพิธีส่งมอบรถของเธอในบรรยากาศที่อบอุ่น พร้อมด้วยพนักงานและผู้บริหารของบริษัทเข้าร่วมแสดงความเคารพและขอบคุณคุณยาย Naoko สำหรับความรักและความภักดีที่มีต่อแบรนด์ Mazda ตลอดมา และยังได้มีการมอบของขวัญที่ระลึกให้กับคุณยายอีกด้วย โดยคุณยายได้กล่าวคำอำลาต่อรถคู่ใจของเธอไว้ว่า

“รถคันนี้คือเพื่อนของฉัน เพื่อนที่อยู่เคียงข้างฉันเสมอ ฉันกำลังกล่าวคำอำลากับเพื่อนรักคนหนึ่ง แต่มันไม่เป็นไรหรอก เพราะต้องขอบคุณเพื่อนเก่าคันนี้ ฉันถึงได้พบเพื่อนใหม่อีกมากมาย”

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : mazda.com

รับชมเรื่องราวสนุกๆในโลกยานยนต์ คลิกที่นี่

รับชมคลิปวีดีโอทดสอบรถของเรา คลิกที่นี

บทความที่น่าสนใจ

Mercedes-Benz CLA EV หนักกว่ารถยนต์ S-Class รุ่นพื้นฐาน

admin bell

อะไรกันนี้เมื่อผลกำไรจาก Tesla ไม่ได้มาจากการขายรถ แต่มาจากเงินสนับสนุนของคู่แข่งซะงั้น

idiot

เผยโฉม Lexus GS Eternal Touring ซีดานรุ่นพิเศษส่งท้ายก่อนยุติทำตลาดรุ่น GS ในญี่ปุ่น

idiot

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy