fbpx

วิเคราะห์สาเหตุ แบรนด์รถญี่ปุ่นลดกำลังการผลิต ปิดโรงงานในประเทศไทย

ในช่วงปี 2024 ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยได้พบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เมื่อแบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นอย่าง Subaru และ Suzuki ได้ประกาศปิดโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ รวมถึง Honda แบรนด์รถยนต์ยอดนิยมที่มียอดขายอยู่ในอันดับ Top 3 ในประเทศไทยมาโดยตลอด ได้ตัดสินใจยุติไลน์ผลิตรถยนต์ในโรงงานที่จังหวัดอยุธยา และได้ออกมายอมรับว่ายอดขายรถยนต์ Honda ในประเทศไทยต่ำกว่าระดับ 1 แสนคัน มา 4 ปีติดต่อกันแล้ว และยังไม่เห็นวี่แววที่สถานการณ์จะดีขึ้นแต่อย่างใด ทำให้เกิดคำถามถึงสาเหตุและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทย

หนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญ ที่ส่งผลกระทบโดยตรงก็คือ รถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญและแย่งส่วนแบ่งตลาดจากรถญี่ปุ่นไปได้ไม่น้อย บทความนี้จะวิเคราะห์เหตุผลที่ทำให้แบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นตัดสินใจดังกล่าว รวมถึงบทบาทของรัฐบาลและรถยนต์จากจีนที่เข้ามามีส่วนแบ่งในตลาดนี้มากขึ้น

 

รถยนต์ไฟฟ้าจีนบุกตลาดไทย

รถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงตลาดรถยนต์ในประเทศไทย โดยมีปัจจัยหลายประการที่ทำให้รถยนต์จากจีนได้รับความนิยมมากขึ้น

  1. ราคาและคุณภาพที่แข่งขันได้ – รถยนต์จากจีนมีราคาที่ถูกกว่าและมีคุณภาพที่พอเพียงสำหรับผู้บริโภคทั่วไป ทำให้สามารถเข้าถึงตลาดได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ การลดภาษีนำเข้าจากจีนยังทำให้ราคาขายของรถยนต์ไฟฟ้าจีนถูกลงอีกด้วย
  2. การสนับสนุนจากรัฐบาลจีน – รัฐบาลจีนได้สนับสนุนการส่งออกรถยนต์ไปยังต่างประเทศอย่างเต็มที่ โดยให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและเงินทุนสนับสนุนในการขยายตลาด ทำให้แบรนด์รถยนต์จีนสามารถเข้ามาแข่งขันในตลาดไทยรวมถึงประเทศอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  3. การนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ – รถยนต์จากจีนได้นำเสนอเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติและระบบการเชื่อมต่อที่ทันสมัย ในราคาที่ลูกค้าคนไทยสามารถจับต้องได้ ซึ่งดึงดูดผู้บริโภคที่ต้องการรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยและการใช้งานที่สะดวกสบาย
Zeekr X
Zeekr X รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมจากประเทศจีน ที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้

 

สาเหตุหลักที่ทำให้แบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นปิดโรงงานในประเทศไทย

  1. คนไทยสนใจรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ – ในปัจจุบัน ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจกับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มากขึ้น เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเติมพลังงานที่ต่ำกว่า 2-3 เท่าตัว, ค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่า รวมถึงมีการรณรงค์เรื่องการลดมลพิษและการใช้งานเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยในปี 2022 รัฐบาลไทยได้เริ่มสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง ซึ่งส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ยอดขายรถยนต์น้ำมันก็ทยอยลดลงอย่างต่อเนื่อง
  2. รัฐบาลไทยสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า – รัฐบาลไทยได้มีการสนับสนุนการผลิตและการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีน โดยมีการลดภาษีนำเข้ารถยนต์จากจีน ส่งผลให้รถยนต์จากจีนสามารถเข้ามามีบทบาทในตลาดไทยได้มากขึ้น ในขณะที่รถยนต์จากญี่ปุ่นต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงยิ่งขึ้น
  3. แบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่น ยังไม่ทำตลาดรถไฟฟ้าอย่างจริงจัง – อย่างที่เราทราบกันว่า แบรนด์รถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น ยังไม่ได้ทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง รวมถึงปัญหาด้านกำแพงภาษีเนื่องจากบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นจำเป็นต้องนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้ามาขาย ซึ่งหากไม่ได้มีการนำเข้าจากประเทศจีน จะทำให้เสียผลประโยชน์ด้านกำแพงภาษี ส่งผลต่อการตั้งราคาจำหน่ายในประเทศไทยโดยตรง ทำให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากแดนปลาดิบตัดสินใจไม่ทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยนั่นเอง
  4. รถยนต์จีน มาพร้อมออปชันล้ำสมัย ในราคาที่ต่ำกว่ารถญี่ปุ่น – อย่างที่เราทราบกันดีว่า รถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนมักจะใส่ออปชันช่วยเหลือการขับขี่ พร้อมฟีเจอร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจมาให้อย่างครบครัน ซึ่งถูกจริตของลูกค้าคนไทยเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมาในราคาที่ต่ำกว่ารถยนต์ญี่ปุ่นอีกต่างหาก ทำให้หลาย ๆ คน เปลี่ยนใจไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนมากยิ่งขึ้น

การปิดโรงงานผลิตรถยนต์ของแบรนด์ญี่ปุ่นในประเทศไทยเป็นผลมาจากหลายปัจจัย ทั้งการเปลี่ยนแปลงในความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความสนใจรถยนต์ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น รวมถึงการสนับสนุนจากรัฐบาลไทยและจีน รวมถึงปัญหาการบริหารจัดการต้นทุน อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้ยังเป็นโอกาสให้แบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นได้ปรับตัวและนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยในยุคปัจจุบันนั่นเอง

 

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : bbc.com / posttoday.com / prachachat.net

บทความที่น่าสนใจ

Maruti Suzuki เตรียมเปิดตัวต้นแบบรถ SUV ไฟฟ้า และ Jimny 5 ประตูในอินเดีย มกราคมนี้

idiot

บอย-ปกรณ์ พิสูจน์เอง!! ขับรถ Isuzu D-MAX 1.9 Ddi สร้างสถิติประหยัดน้ำมันได้ 24.99 กม./ลิตร ที่ประเทศจีน

idiot

Lotus Evija ไฮเปอร์คาร์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของ Lotus ผลิตแค่ 130 คัน พละกำลังกว่า 1000 แรงม้า

idiot

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy