เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีข่าวใหญ่สะเทือนวงการยานยนต์ของประเทศไทย เมื่อหัวเรือใหญ่ของ Great Wall Motor (GWM) อย่างคุณ ณรงค์ สีตลายน ได้ตัดสินใจยุติบทบาท กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) อย่างเป็นทางการ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายในสื่อโซเชียลและเว็บไซต์ยานยนต์หลายแห่ง และอาจสะท้อนถึงสัญญาณบ้างอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นกับแบรนด์รถยนต์สัญชาติจีนแบรนด์แรกที่เข้ามาบุกเบิกตลาดประเทศไทยอย่าง Great Wall Motor
คุณ ณรงค์ สีตลายน เป็นใคร ?
คุณ ณรงค์ สีตลายน ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์ของประเทศไทย โดยในอดีตคุณณรงค์ เคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารแบรนด์รถยนต์สัญชาติอเมริกันชื่อดัง ก่อนที่ในปี 2020 จะเข้ามาดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ส ประเทศไทย และถือเป็นผู้บุกเบิกแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนในประเทศไทย ด้วยการส่งรถยนต์เอสยูวีไฮบริดอย่าง Haval H6 ลงสู่ตลาด และได้รับเสียงตอบรับที่ดีเกินคาด รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าดีไซน์น่ารักอย่าง ORA Good Cat ที่เข้ามาสร้างกระแสรถยนต์ไฟฟ้าให้ประเทศไทย และไม่น่าเชื่อว่าหลังจากการเข้ามาดำรงตำแหน่งนาน 4 ปี คุณณรงค์ ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ซึ่งจากข้อมูลที่สื่อชั้นนำหลายสื่อของประเทศไทยได้ออกมาให้ข่าว จะพบว่าสาเหตุในการลาออกในครั้งนี้ เกิดจากความยากลำบากในการทำงานกับบริษัทแม่ในแดนมังกร
ยอดขายตก ดีลเลอร์ทยอยปิดตัว
ในปี 2024 จะเห็นได้ชัดว่ายอดขายรถยนต์ของ Great Wall Motor นั้นเรียกได้ว่า ลดลงอย่างน่าใจหาย โดยรถยนต์เอสยูวีรุ่นที่ขายดีที่สุดของแบรนด์อย่าง Haval H6 ที่ถึงแม้ว่าจะมีตัวเลือกรุ่น HEV และ PHEV และมีโปรโมชันลดราคาอยู่แทบตลอด แต่ยอดขายในเดือนมกราคม – กรกฎาคม ของปีนี้ กลับลดลงเหลือเพียง 724 คัน ซึ่งหากเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2023 จะพบว่า Haval H6 มียอดขายอยู่ที่ราวๆ 2,100 คัน ยอดขายลดลงถึงเกือบ 65% รวมถึงในปี 2024 ที่ผ่านมาจะเห็นข่าวการปิดตัวลงของดีลเลอร์ GWM หลายแห่ง โดยเฉพาะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้มีข่าวการปิดตัวของตัวแทนจำหน่ายของ GWM มากถึง 4 แห่ง ภายในเร็วๆ นี้
ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่า GWM ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า ORA Good Cat รุ่นผลิตในประเทศไทย ที่มีการเพิ่มออปชันและฟีเจอร์เข้ามาพอสมควร แต่เนื่องด้วยอายุตลาดของตัวรถที่ค่อนข้างนาน และในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าก็มีตัวเลือกเพิ่มขึ้นมากมาย ทำให้ยอดขายของน้องแมวไฟฟ้ากลับลดลงอย่างต่อเนื่อง และดูไม่มีท่าทีที่จะดีขึ้นแต่อย่างใด
คู่แข่งมากขึ้น รถยนต์รุ่นใหม่ไม่สามารถเจาะตลาดได้
หลังจากที่ Great Wall Motor เข้ามาเปิดตลาดรถยนต์ในประเทศไทย เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มีแบรนด์รถยนต์จากประเทศจีน เข้ามาทำตลาดมากมายหลายแบรนด์ เช่น BYD, GAC AION, Neta, Changan, Zeekr, Xpeng, Omoda ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อลูกค้ามีตัวเลือกที่มากขึ้น ก็ส่งผลกระทบต่อยอดขายของ Great Wall Motor เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่แบรนด์ได้นำมาเปิดตัวในประเทศไทย ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยถูกจริตและอาจไม่เหมาะสมกับการทำตลาดในประเทศไทยเสียเท่าไหร่ ยกตัวอย่างเช่น TANK 300 ที่ถึงแม้ว่าจะมีดีไซน์ที่ดูโดดเด่น ไม่เหมือนใคร แต่ “ราคา” ของตัวรถก็ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ยากอยู่พอสมควร หรือจะเป็น ORA 07 ก็ทำยอดขายได้ไม่ดีเท่าที่ควร และรถกระบะไฮบริด Poer ก็ดูเหมือนว่าจะเลื่อนกำหนดการเปิดตัวออกไปอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งหลาย ๆ คนก็ต่างแปลกใจที่ GWM ตัดสินใจนำรถกระบะมาทำตลาดในประเทศไทย เนื่องจากรถยนต์กลุ่มนี้มีผู้เล่นที่แข็งแกร่งอย่าง Isuzu และ Toyota รวมถึง Ford ที่ครองตลาดรถยนต์กระบะเพื่อการใช้งานส่วนบุคคลเป็นหลัก
อนาคตของ GWM ในประเทศไทย ความท้าทายที่ต้องก้าวข้าม
อนาคตของ GWM ในประเทศหากดูจากสถานการณ์ในปัจจุบันก็ต้องบอกเลยว่า “ค่อนข้างน่าเป็นห่วง” เนื่องจากดีลเลอร์หลายรายได้เปิดตัวและเปลี่ยนไปขายรถยนต์แบรนด์อื่น สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการในตลาดนั้นลดลง ซึ่งหาก GWM ยังคงต้องการอยู่ในตลาดประเทศไทย อาจต้องมีการเปลี่ยนแนวทางการตลาด หรือนำรถยนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าชาวไทยเข้ามา ไม่อย่างนั้นเราอาจได้เห็นแบรนด์รถยนต์จากแดนมังกรแบรนด์แรกที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย อาจต้องม้วนเสื่อกลับประเทศจีนในอนาคตก็เป็นได้