ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก “แบตเตอรี่” เป็นอีกสิ่งสำคัญที่บริษัทรถยนต์ต่างให้ความสำคัญ เนื่องจากชิ้นส่วนนี้มีต้นทุนการผลิตที่สูง และยังเป็นปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวกำหนดระยะทางที่วิ่งได้ของรถยนต์ไฟฟ้านั่นเอง ซึ่งในขณะนี้มีเทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบใหม่ที่เรียกว่า Solid-State Battery ซึ่งบริษัทรถยนต์ชั้นนำมากมายต่างมุ่งพัฒนาแบตเตอรี่ตัวนี้สำหรับใช้งานในรถไฟฟ้าในอนาคต
ว่าแต่แบตเตอรี่แบบ Solid-State นั้นเป็นแบตเตอรี่แบบไหน และมันดีกว่าแบตเตอรี่แบบ Lithium-iron ที่นิยมใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า ณ ขณะนี้อย่างไรบ้าง เราไปดูกันเลย
Solid-State Battery คืออะไร ?
หากเราแปลความหมายของคำว่า Solid-State Battery ตรงตัวแล้ว จะมีความหมายในภาษาไทยว่า “แบตเตอรี่ที่มีสถานะเป็นของแข็ง” ซึ่งคำว่าของแข็งที่ว่านี้ไม่ใช่เคสของตัวแบตเตอรี่ที่มีความแข็ง แต่เป็น “อิเล็กโทรไลต์” หรือตัวกลางที่ให้ไฟฟ้าสามารรถวิ่งผ่านได้ โดยในแบตเตอรี่แบบเก่า (Lithium-ion) ตัวอิเล็กโทรไลต์จะมาในรูปแบบของเหลว ในขณะที่แบตเตอรี่แบบ Solid-State Battery จะใช้อิเล็กโทรไลต์ที่มีลักษณะเป็นของแข็งและมีขนาดที่เล็กกว่าแทน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเรียกแบตเตอรี่แบบใหม่นี้นั่นเอง
แล้วมันดีกว่าแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion อย่างไร
มาถึงประเด็นที่ว่าเมื่อเปลี่ยนอิเล็กโทรไลต์จากของเหลวให้กลายเป็นของแข็งแทน มันจะช่วยให้แบตเตอรี่แบบใหม่นี้มีประสิทธิภาพดีขึ้นได้อย่างไร ก่อนอื่นเลยเราอยากให้ทุกท่านได้ดูภาพโครงสร้างของแบตเตอรี่ทั้ง 2 แบบก่อนครับ
จากภาพจะเห็นได้ว่า แบตเตอรี่แบบ Lithium-ion จะมีจำนวนแท่ง Cathode (ขั้วบวก – จะมีสารประกอบของลิเธียมออกไซด์ เป็นแหล่งของไอออนลิเธียมในแบตเตอรี่) และ Anode (ขั้วลบ – จะมีสารประกอบจำพวก Graphite ใช้สำหรับกักเก็บและปลดปล่อยไอออนลิเธียม) อยู่จำนวนน้อย ในขณะที่แบตเตอรี่แบบ Solid-Stage จะสามารถเพิ่มจำนวนแท่ง Cathode และ Anode ได้มากกว่า เนื่องจากไม่ต้องเสียพื้นที่ในการใส่อิเล็กโทรไลต์แบบน้ำลงไปนั่นเอง และแน่นอนว่าเมื่อสามารถใส่จำนวน Cathode และ Anode ได้เพิ่มขึ้น (ในพื้นที่เท่ากัน) นั่นหมายความว่าแบตเตอรี่ก้อนนั้นจะสามารถเก็บไฟได้มากขึ้นนั่นเอง
นอกจากเก็บไฟได้มากขึ้นแล้ว มีข้อดีอะไรอีกบ้าง ?
อีกเหตุผลที่สำคัญ ที่บริษัทรถยนต์พยายามพัฒนาแบตเตอรี่ตัวใหม่นี้ นั่นก็คือ มันมีความปลอดภัยสูงกว่าแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion อยู่มากพอสมควร ทั้งในแง่ของความทนทานต่อสภาพอากาศที่ร้อนหรอเย็นจัด (แบตเตอรี่แบบ Lithium-ion จะมีประสิทธิภาพต่ำลงเมื่อเจอสภาพอากาศแบบนี้ ซึ่งมีคล้ายๆคนทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าในสภาพอากาศที่เย็นจัดจะพบว่า ระยะทางที่วิ่งลดลงอย่างน่าตกใจ) รวมถึงโอกาสในการเกิดไฟหรือติดไฟนั้นยากกว่าแบตเตอรี่แบบเก่ามากเนื่องจากตัวกลางถูกเปลี่ยนเป็นของแข็งซึ่งมีจุดเดือดที่สูงกว่าของเหลวมาก
แล้วเราจะได้ใช้ Solid-State Battery เมื่อไหร่ ?
ในขณะนี้ มีบริษัทรถยนต์มากมายที่กำลังพัฒนาแบตเตอรี่ตัวนี้ ไม่ว่าจะเป็น Toyota Ford, BMW Hyundai รวมถึงทาง Nissan ที่ออกมาระบุว่าพวกเขาพร้อมที่จะใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่นี้ในช่วงปี 2028 หรืออีก 8 ปีข้างหน้านี้ ต้องรอดูกันต่อไปว่าเมื่อเจ้าแบตเตอรี่ตัวนี้ถูกใช้งานในรถยนต์ไฟฟ้าแล้วจะช่วยเพิ่มศักยภาพของรถยนต์ไฟฟ้าได้มากแค่ไหน
ขอบคุณข้อมูลจาก : droidsans.com / bangkokgis.com / researchgate.net / thainews.prd.go.th