การเลือกซื้อรถยนต์สักคันหนึ่ง นอกจากแบรนด์และรุ่นรถแล้ว “สี” ยังเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำคัญที่หลายๆคนให้ความสำคุญเป็นอย่างมาก ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าไม่ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบรถสีดำ แต่คุณรู้หรือไม่ว่ามีงานวิจัยออกมาระบุว่า รถสีดำ มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุมากกว่ารถสีขาวอยู่ถึง 12 เปอร์เซ็นต์
งานวิจัยดังกล่าว ถูกเปิดเผยในปี 2007 โดยศูนย์วิจัยอุบัติเหตุ มหาวิทยาลัยโมนาช (MUARC) ประเทศออสเตรเลีย ได้ค้นหาคำตอบว่า รถยนต์สีอะไร เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด โดยพวกเขาได้ค้นหาข้อมูลการเกิดเหตุรถชนบนท้องถนนที่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ระหว่างช่วงปี 1987 – 2004 ในประเทศออสเตรเลีย
ผลจากการค้นคว้าและวิจัยกลับพบว่า “รถยนต์สีดำ” เป็นสีรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งมากที่สุด และที่น่าแปลกกว่านั้นคือรถสีดำมีสัดส่วนความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุในตอนกลางวันมากกว่าตอนกลางคืน เนื่องจากสีดำของตัวรถอาจกลมกลืนไปกับสีของพื้นถนน ในขณะที่เวลากลางคืนนั้นรถยนต์จะเปิดไฟหน้า ซึ่งจะทำให้รถคันนี้มองเห็นรถของตัวเองนั่นเอง และหากเปรียบเทียบรถสีดำกับรถสีขาวจะพบว่ามีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุมากกว่าถึง 12 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
แต่ช้าก่อน คนที่ใช้รถสีดำไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะอย่าลืมว่างานวิจัยชิ้นนี้ทำการเก็บข้อมูลอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในปี 1987 – 2004 ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่มีเทคโนโลยีที่เรียกว่า Day Time Running Light หรือ DRL ซึ่งเจ้าไฟหน้าแบบเส้นนี้ไม่ได้มีประโยชน์ในเรื่องของความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่มันยังช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากไฟตัวนี้จะทำให้รถยนต์คันอื่นเห็นรถของเราได้ง่ายขึ้นในเวลากลางวันนั่นเอง
อ่านบทความ ไฟหน้า Daytime Running Light นอกจากความสวยงาม ยังมีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด !!
สี อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่เพิ่มโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุได้ แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีไฟหน้า รวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยที่รถยนต์หลายๆรุ่นได้นำมาใส่ ก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดยิ่งกว่าสีของตัวรถหรือเทคโนโลยีต่างๆ นั่นก็คือ “ตัวผู้ขับขี่” ที่ต้องมีสติ มีสมาธิ และร่างกายต้องได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอและมีความพร้อมในการขับรถ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ไม่น้อยเลยล่ะครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก : Monash University