ZF ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จากเยอรมนี เตรียมส่งเทคโนโลยี Range Extender รุ่นใหม่ลงสู่ตลาดในปี 2026 มุ่งตอบโจทย์ลูกค้าที่กังวลเรื่องระยะทางของรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมย้ำว่าเครื่องยนต์เบนซินยังคงมีอนาคตในยุค EV
แม้ว่าในปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าจะสามารถวิ่งได้ไกลเฉลี่ยถึง 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง แต่ “ความกังวลเรื่องระยะทาง” หรือ range anxiety ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อรถของผู้บริโภคจำนวนไม่น้อย ZF จึงนำเสนอทางเลือกใหม่ผ่านระบบ Electric Range Extender (eRE) ที่สามารถทำหน้าที่เหมือนเครื่องปั่นไฟในรถยนต์ ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็กเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ เมื่อไม่มีสถานีชาร์จไฟฟ้าใกล้เคียง
Range Extender คืออะไร?
ระบบนี้ทำให้รถขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลัก โดยแบตเตอรี่จะเป็นแหล่งพลังงานหลัก และเมื่อพลังงานใกล้หมด เครื่องยนต์เบนซินในระบบจะเริ่มทำงานเพื่อชาร์จแบตเตอรี่โดยไม่เชื่อมต่อกับล้อแต่อย่างใด ถือเป็นแนวคิดเดียวกับที่เคยเห็นใน Chevrolet Volt, BMW i3 และล่าสุดใน Mazda MX-30 ที่ใช้เครื่องยนต์โรตารีเป็นตัวเสริมระยะทาง
ข้อได้เปรียบของ Range Extender เทียบกับ Plug-in Hybrid
Dr. Otmar Scharrer รองประธานฝ่ายวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีขับเคลื่อนไฟฟ้าของ ZF กล่าวว่า ระบบ eRE เป็นทางเลือกที่ดีกว่ารถยนต์ Plug-in Hybrid เพราะ:
-
ผลิตได้ในต้นทุนที่ต่ำกว่า
-
ใช้เวลาในการพัฒนาสั้นกว่า
-
ห่วงโซ่อุปทานง่ายกว่า
-
เครื่องยนต์สามารถทำงานในรอบที่ประหยัดที่สุดเสมอ ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันและมลพิษ
ZF eRE และ eRE+ สองรุ่นตอบโจทย์หลากหลาย
ZF เสนอระบบ Range Extender สองรูปแบบคือ:
-
eRE: ระบบพื้นฐาน มีมอเตอร์ไฟฟ้าร่วมกับเกียร์ดาวเคราะห์ (planetary gearset) และอินเวอร์เตอร์ในตัว ให้กำลังระหว่าง 93–147 แรงม้า
-
eRE+: เพิ่มคลัตช์อัจฉริยะและดิฟเฟอเรนเชียล ทำให้สามารถใช้เป็นทั้งเครื่องปั่นไฟ หรือเป็นระบบขับเคลื่อนเสริมได้ โดยมีกำลังระหว่าง 93–201 แรงม้า
ทั้งสองระบบสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ผลิตรถยนต์ รองรับการใช้งานทั้งในรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถพาณิชย์ที่ออกแบบสำหรับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
ไม่ใช่แค่ ZF ที่เล็งเห็นโอกาส
ZF ไม่ได้อยู่เพียงลำพังในสนามนี้ ผู้ผลิตรายอื่นก็เริ่มสนใจระบบ Range Extender เช่นกัน เช่น:
-
Dodge Ramcharger ที่ใช้เครื่องยนต์ Pentastar V-6 เป็นตัวปั่นไฟในรถกระบะไฟฟ้า
-
Scout Motors แบรนด์ลูกของ VW ยืนยันว่ารถ SUV และกระบะรุ่นใหม่จะมีตัวเลือก Range Extender ด้วยเช่นกัน
สรุป
การกลับมาของเทคโนโลยี Range Extender เป็นเครื่องยืนยันว่าเครื่องยนต์สันดาปภายในยังไม่หมดอนาคต และจะยังคงมีบทบาทในยุคของการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะในตลาดที่สถานีชาร์จยังไม่ครอบคลุมทั่วถึง ระบบของ ZF จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการเชื่อมโลกของ EV กับความคุ้นเคยของผู้ขับขี่ในยุคปัจจุบัน
Cr.motor1